อ้างทรัมป์โพสต์ขู่ อัยการสหรัฐขอศาลออกคำสั่งคุ้มครอง

อัยการสหรัฐขอให้ผู้พิพากษาจำกัดข้อมูลที่โดนัลด์ ทรัมป์สามารถอภิปรายในที่สาธารณะเกี่ยวกับคำฟ้องล่าสุดต่อเขา และอ้างถึงโพสต์ข่มขู่ของอดีตประธานาธิบดีระหว่างแคมเปญหาเสียง

แพลตฟอร์ม Truth Social ของโดนัลด์ ทรัมป์ (Photo by OLIVIER DOULIERY / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐที่สั่งฟ้องโดนัลด์ ทรัมป์ในคดีล้มการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ได้ยื่นคำร้องให้ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางออกคำสั่งคุ้มครองเกี่ยวกับหลักฐานในคดี เพื่อป้องกันไม่ให้อดีตประธานาธิบดีรายนี้นำรายละเอียดไปเปิดเผย

ความเคลื่อนไหวนี้มีสาเหตุมาจากการที่ทรัมป์ทำการท้าทายคำสั่งผู้พิพากษาที่เตือนเขาว่าอย่าพยายามชักจูงคณะลูกขุน, อย่าข่มขู่หรือพยายามติดสินบนพยานหรือบุคคลอื่นที่อาจมีข้อมูลเกี่ยวกับคดี รวมถึงการเผยแพร่สิ่งที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของทรัมป์เอง

โดยทรัมป์โพสต์ข้อความเมื่อวันศุกร์ผ่านแพลตฟอร์มทรูท โซเชียล (Truth Social) กล่าวว่า "ถ้าแกโจมตีข้า ข้าก็จะตามล่าแก!"

ทรัมป์ ผู้นำพรรครีพับลิกันที่ได้รับการเสนอชื่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2567 ยืนกรานต่อหน้าศาลว่า ตัวเองไม่มีความผิดทั้ง 4 กระทง ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดและล้มล้างการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นคดีร้ายแรงที่สุดในหลายคดีที่เขาเผชิญ

โพสต์บนโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยความก้าวร้าวและใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดถูกอ้างถึงและแสดงในคำร้องของสมิธต่อผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ เช่นเดียวกับการอ้างถึงประวัติก่อนหน้านี้ของทรัมป์ในการโจมตีผู้คนที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาที่มีต่อตัวเขา

"คำร้องที่เสนอต่อผู้พิพากษาทั้งหมด เป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผยแพร่หรือใช้ช่องทางการแสวงหาข้อมูลเชิงลึกอย่างไม่เหมาะสม รวมทั้งการสงวนการเผยแพร่ต่อสาธารณะ" สมิธชี้แจงในคำร้องดังกล่าว

"ข้อจำกัดดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีนี้ เนื่องจากจำเลยเคยออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะบนสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับพยาน, ผู้พิพากษา, ทนายความ และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางกฎหมายที่รอการพิจารณาในคดีของเขา"

"หากจำเลยเผยแพร่โพสต์สาธารณะเกี่ยวกับรายละเอียดหรือสำเนาของคณะลูกขุน อาจส่งผลเสียต่อพยานหรือส่งผลเสียต่อกระบวนการยุติธรรมในคดีนี้" สมิธชี้แจงเพิ่มเติม

ทรัมป์ ซึ่งอยู่ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ตำหนิการกระทำของกระทรวงยุติธรรม และโจมตีการสอบสวนหลายครั้งว่าเป็น "การล่าแม่มด" ทางการเมือง โดยหวังแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งตัวเขาและนักการเมืองฝั่งรีพับลิกันหลายคนมองว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะกีดกันคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญ

เมื่อคืนวันศุกร์ในรัฐอลาบามา ทรัมป์ปรากฏตัวต่อหน้าผู้สนับสนุนและประณามคำฟ้องที่มีต่อเขาว่า "เป็นการกระทำที่สิ้นหวังโดยโจ ไบเดนผู้ล้มเหลว, น่าอับอาย และคดโกง เพื่อรักษาอำนาจของพวกเขาไว้"

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้ออกมาย้ำแล้วย้ำอีกว่า กระทรวงยุติธรรมฯทำงานอย่างเป็นอิสระ และคณะรัฐบาลของไบเดนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่มีต่อทรัมป์แต่อย่างใด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้อกล่าวหาเรื่องการปกปิดความจริง หลังการเปิดเผยเอกสารของเอปสไตน์ เริ่มปรากฏ

การเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับ เจฟฟรีย์ เอปสไตน์ ผู้กระทำความผิดทางเพศที่เสียชีวิตไปแล้วอย่างไม่ครบถ้วน ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากรัฐสภาสหรัฐฯ และเหยื่อของเอปสไตน์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

‘เมลาเนีย ทรัมป์’ สตรีหมายเลขหนึ่งในโลกภาพยนตร์

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกำลังก้าวสู่แสงสปอตไลต์ เมลาเนีย ทรัมป์ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยภาพยนตร์สารคดี ซึ่งเรื่องราวจะถ่ายทอดช่วงเวลาไม่นานก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสามีเธอ

นายกฯ คุยทรัมป์ รับสัญญาณลดภาษีสหรัฐฯ ให้ไทยดีกว่าประเทศอื่น ไม่ผูกปมชายแดน

12 ธันวาคม 2568 - เวลา 22.00น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวการหารือทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยมี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ร่วมรับฟังการสนทนาด้วย