ฟิลิปปินส์แต่งตั้งนักการทูตปากกล้าเป็น 'ทูตพิเศษ' ประจำจีน

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตพิเศษของประธานาธิบดีประจำกรุงปักกิ่ง แม้ว่านักการทูตฝีปากกล้ารายนี้จะเคยวิจารณ์จีนอย่างหยาบคายก็ตาม

แฟ้มภาพ ทิโอโดโร ล็อกซิน จูเนียร์ เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำสหราชอาณาจักรและทูตพิเศษของประธานาธิบดีประจำกรุงปักกิ่ง (ซ้าย) สนทนาอย่างสนิทสนมกับหวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน (Photo by MANMAN DEJETO / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566 กล่าวว่า ทิโอโดโร ล็อกซิน จูเนียร์ เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตพิเศษของประธานาธิบดีประจำกรุงปักกิ่ง

ล็อกซิน จูเนียร์มักใช้ถ้อยคำที่รุนแรงขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในยุคสมัยการปกครองของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต และเคยด่าจีนอย่างหนักผ่านโซเชียลมีเดียกรณีพิพาททะเลจีนใต้

ล็อกซินยังเคยปรียบจีนเป็น "ผู้หญิงขี้เหร่ที่อ่อยผู้ชายหล่อๆตลอดเวลา แม้เขาคนนั้นจะต้องการเป็นแค่เพื่อน"

คำสบถมากมายของเขาทำให้เกิดการตำหนิจากรัฐบาลปักกิ่ง และล็อกซินก็ออกมากล่าวขอโทษต่อจีนในภายหลัง

หน่วยงานกิจการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งอันน่าประหลาดใจนี้ ซึ่งประกาศโดยสำนักงานสื่อสารของประธานาธิบดีบนเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ แต่ได้กล่าวในถ้อยแถลงสั้น ๆ ว่า "ทิโอโดโร ล็อกซิน จูเนียร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตพิเศษของประธานาธิบดีประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนสำหรับข้อกังวลพิเศษ" และไม่ให้รายละเอียดอื่นใดเพิ่มเติม

ขณะที่ฝ่ายสื่อสารของประธานาธิบดีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ล็อกซินจะทำหน้าที่ "พร้อมกัน" โดยบอกว่าเขาจะยังคงเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ต่อไป ควบคู่กับตำแหน่งทูตพิเศษ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์และจีน ซึ่งกำลังพัวพันกับการทะเลาะวิวาททางการทูตเรื่องทะเลจีนใต้

รัฐบาลปักกิ่งอ้างสิทธิ์ในทางน้ำเกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของการค้ามูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศในปี 2559

ความตึงเครียดปะทุขึ้นในเดือนนี้ เมื่อฟิลิปปินส์กล่าวหาเรือยามฝั่งของจีนว่าขัดขวางและยิงปืนแรงดันน้ำเข้าใส่เรือในภารกิจส่งเสบียงไปยังเกาะสแปรตลี

รัฐบาลปักกิ่งปกป้องการกระทำของตนในฐานะ "มืออาชีพ" และกล่าวหารัฐบาลมะนิลาว่า "ส่งวัสดุก่อสร้างอย่างผิดกฎหมาย" ไปยังเรือในน่านน้ำพิพาทดังกล่าวซึ่งฟิลิปปินส์ยืนยันว่าอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของตน และการดำเนินการใดๆนั้นเป็นไปด้วยความถูกต้องตามกฎหมาย.