อิสราเอล-ฉนวนกาซา ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 1,100 ราย ในสงครามกับฮามาส

อิสราเอลบุกถล่มฉนวนกาซาอย่างไม่ลดละช่วงเช้าวันจันทร์ ในขณะที่การสู้รบดุเดือดกับกลุ่มฮามาสส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากสงครามพุ่งสูงกว่า 1,100 ราย

เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์กำลังสำรวจความเสียหายในฉนวนกาซา ซึ่งถูกทำลายโดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในช่วงเช้าวันที่ 8 ตุลาคม ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกองกำลังอิสราเอลและกลุ่มฮามาส (Photo by MOHAMMED ABED / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลทำสงครามตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮามาสที่ดำเนินมาตั้งแต่วันเสาร์ ล่าสุดบุกถล่มฉนวนกาซาซึ่งเป็นฐานที่มั่นของฮามาสอย่างไม่ต่อเนื่อง

กองทัพอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายมากกว่า 500 จุดในการปะทะข้ามคืน ขณะที่การต่อสู้กับกลุ่มฮามาสที่บุกเข้ามาก็ยังคงมีอยู่ในพื้นที่ 7-8 แห่งของอิสราเอล

สถานะของสงครามปัจจุบันเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว หลังจากที่กลุ่มฮามาสยิงจรวดหลายพันลูกและส่งนักรบจำนวนมากเข้าทำร้ายพลเรือนและจับตัวประกันอย่างน้อย 100 คนในการลอบโจมตีครั้งใหญ่ที่อิสราเอลไม่ทันตั้งตัว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศสงครามอย่างเป็นทางการกับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ควบคุมฉนวนกาซา และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้เตือนอิสราเอลให้เตรียมพร้อมรับมือกับความขัดแย้งที่มีแนวโน้มยาวนานและยากลำบาก

ชาวอิสราเอลมากกว่า 700 รายถูกสังหารนับตั้งแต่กลุ่มฮามาสเปิดการโจมตี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,200 คน ตามรายงานของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (ไอดีเอฟ)

การตอบโต้ทางอากาศของอิสราเอลได้โจมตีฉนวนกาซาซึ่งเป็นดินแดนยากจนที่มีประชากร 2.3 ล้านคน โดยเจ้าหน้าที่ที่นั่นรายงานว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 413 ราย

"เครื่องบินรบ, เฮลิคอปเตอร์, และปืนใหญ่ของไอดีเอฟโจมตีเป้าหมายกลุ่มฮามาสและญิฮาดอิสลามมากกว่า 500 คนในฉนวนกาซาชั่วข้ามคืน" รายงานระบุ

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ควันหนาทึบและเปลวไฟพลุ่งพล่านจากดินแดนปาเลสไตน์ตลอดเวลา ขณะที่การโจมตียังคงดำเนินต่อไปในช่วงเช้าตรู่ พร้อมรายงานการเพิ่มกำลังสมทบของฝั่งฮามาสในพื้นที่อิสราเอล หลังพ่ายแพ้และโดนยึดพื้นที่คืนไปได้แล้วบางส่วน

ขณะที่อิสราเอลส่งกองกำลังสำรองราว 100,000 นายไปยังพื้นที่ทางใต้ เพื่อเร่งขับไล่นักรบฮามาสออกจากดินแดนของตน และหาทางช่วยเหลือพลเรือนและทหารอิสราเอลจำนวนมากที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา

พันธมิตรของอิสราเอลตอบโต้ด้วยการให้คำมั่นสนับสนุนทางทหารเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ตราหน้าว่าเป็น "การโจมตีของผู้ก่อการร้ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"

รัฐบาลวอชิงตันส่งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์ ฟอร์ด และกลุ่มเรือรบไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะส่งอุปกรณ์และทรัพยากรเพิ่มมากขึ้น

ความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยหลายประเทศรายงานว่ามีพลเมืองถูกสังหาร, ลักพาตัว หรือสูญหาย

รายงานล่าสุด พลเมืองสหรัฐฯ อย่างน้อย 4 รายถูกสังหารในการโจมตีครั้งนี้ ขณะที่ไทยระบุว่ามีพลเมืองของตนเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และเนปาลรายงานผู้เสียชีวิต 10 ราย ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นแรงงานที่ทำงานในอิสราเอล

นอกจากกลุ่มฮามาสแล้ว อิสราเอลยังถูกโจมตีจากทางเหนือโดยกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนที่ยิงขีปนาวุธนำวิถีและกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับกลุ่มฮามาส แต่ไม่มีรายงานการบาดเจ็บล้มตายใดๆ ซึ่งอิสราเอลก็โจมตีตอบโต้ด้วยการยิงปืนใหญ่ข้ามชายแดนไป และเตือนไม่ให้ฮิซบุลเลาะห์เข้ามามีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้.

เพิ่มเพื่อน