อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศได้ยื่นขอหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และผู้นำกลุ่มฮามาส ในข้อหาต้องสงสัยก่ออาชญากรรมสงครามและก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล (ซ้าย) และโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล (Photo by Abir SULTAN / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า คาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้ยื่นขอหมายจับกลุ่มบุคคลหลักที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงครามในฉนวนกาซา ทั้งฝั่งอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ข่านกล่าวว่าเขากำลังขอหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่างๆ ที่เป็นเหตุให้เกิดความอดอยาก, การฆ่าโดยเจตนา, การทำลายล้าง และการฆาตกรรม
"เราขอยืนยันว่า ข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติถูกพิจารณาจากข้อเท็จจริงของการโจมตีพลเรือนปาเลสไตน์ในวงกว้างและเป็นระบบตามนโยบายของรัฐ การประเมินของเราบ่งชี้ว่าอาชญากรรมดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้" อัยการฯกล่าว
นอกจากนี้ยังตั้งข้อกล่าวหาแบบเดียวกันกับผู้นำกลุ่มฮามาส ทั้งยาห์ยา ซินวาร์ ในฉนวนกาซา และอิสมาอิล ฮานีเยห์ ในกาตาร์ จากข้อหาก่อวินาศกรรม, การกระทำรุนแรงทางเพศ และการจับตัวประกันในสงคราม
"เราขอยืนยันว่าการโจมตีพลเรือนอิสราเอลอย่างกว้างขวางเป็นส่วนหนึ่งของการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอย่างเป็นระบบโดยกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ตามนโยบายขององค์กรเหล่านั้น" แถลงการณ์ของอัยการฯระบุ
ข่านยังกล่าวหาว่าผู้นำฮามาสทั้งสอง รวมทั้งโมฮัมเหม็ด เดอิฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายติดอาวุธของฮามาส มีความผิดทางอาญาในการสังหารพลเรือนอิสราเอลหลายร้อยคน ระหว่างการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566
ทั้งนี้ ประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นผู้นำประเด็นการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลขึ้นฟ้องต่อศาลฯว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แสดงความยินดีต่อการร้องขอหมายจับดังกล่าว และเชื่อว่ากฎหมายจะถูกบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันกับทุกคน
ในปี 2564 ก่อนหน้าสงครามฉนวนกาซา อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศได้เปิดการสอบสวนต่ออิสราเอล เช่นเดียวกับกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อื่นๆ เกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามที่อาจเกิดขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์
ข่านกล่าวว่า การสืบสวนในครั้งนั้นได้ขยายไปสู่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในเวลาต่อมา จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของประเด็นดังกล่าว กลุ่มฮามาสได้ออกมาตอบโต้อัยการฯว่า พวกเขาขอประณามอย่างรุนแรงต่อหมายจับผู้นำของกลุ่มฮามาส แต่ในทางกลับกันพวกเขาสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการขอหมายจับผู้นำอิสราเอล
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลได้ออกมาคัดค้านการกระทำของอัยการฯ ด้วยความรังเกียจ ขณะที่อิสราเอล คาทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอัยการฯว่าเป็นความอัปยศทางประวัติศาสตร์ที่จะถูกจดจำตลอดไป
เช่นเดียวกับพันธมิตรใหญ่อย่างสหรัฐฯ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอัยการฯอย่างดุเดือด โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกคำร้องขอหมายจับดังกล่าวว่าเป็นเรื่องอัปยศ ขณะที่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศประณามคำร้องดังกล่าวว่าน่าละอาย
"ไม่ว่าอัยการคนนี้จะสื่อถึงอะไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าไม่มีความเท่าเทียมกันระหว่างอิสราเอลและฮามาส" ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์
หลังจากนี้ ผู้พิพากษาของศาลอาญาระหว่างประเทศจะเป็นผู้พิจารณาว่าคำขอของอัยการฯมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่จะออกหมายจับอย่างเป็นทางการหรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
"วันนี้เราขอเน้นย้ำอีกครั้งว่ากฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายว่าด้วยการประหัตประหารด้วยอาวุธ มีผลบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่มีทหารราบ, ไม่มีผู้บังคับบัญชา หรือผู้นำพลเรือน และไม่มีใครสามารถกระทำการโดยไม่ต้องรับโทษได้" คาริม ข่านกล่าว
หากหมายจับดังกล่าวได้รับการอนุมัติ หมายความว่าในทางเทคนิคแล้ว ภาคีสมาชิก 124 ประเทศของศาลฯจะต้องดำเนินการจับกุมเนทันยาฮูทันทีหากเขาเดินทางไปในพื้นที่ขอบเขตอำนาจศาลฯ
แม้ว่าหมายจับอาจทำให้การเดินทางของเนทันยาฮูยุ่งยากขึ้น แต่ศาลก็ไม่มีกลไกในการบังคับใช้หมายจับดังกล่าว ที่ทำได้คือพึ่งพาการดำเนินการของรัฐภาคีสมาชิกเป็นหลัก
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ศาลฯได้เริ่มดำเนินคดีดังกล่าวไปบ้างแล้ว โดยตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีสมาชิกภาคี 5 ประเทศเรียกร้องให้ศาลฯสอบสวนกรณีสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งคาริม ข่านกล่าวว่าคณะทำงานของเขารวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานฯไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ฉนวนกาซาหรือสอบสวนในอิสราเอลได้ เนื่องจากทั้งสองดินแดนไม่ใช่สมาชิกขององค์กรศาลอาญาระหว่างประเทศ
ถึงกระนั้น คาริม ข่านเคยเดินทางไปยังอิสราเอลปลายปีก่อน ตามคำร้องขอของผู้รอดชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม จากนั้นเขาก็เดินทางไปยังรามัลเลาะห์ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่อาวุโสชาวปาเลสไตน์
องค์กรศาลอาญาระหว่างประเทศเริ่มดำเนินการครั้งแรกในปี 2545 โดยเป็นศาลอิสระเพียงแห่งเดียวในโลกที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนความผิดร้ายแรงที่สุด ซึ่งรวมถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ถือเป็น "ศาลที่พึ่งสุดท้าย" ที่จะดำเนินการเฉพาะในกรณีที่ประเทศต่างๆ ไม่เต็มใจหรือไม่สามารถสอบสวนคดีต่างๆ ได้ด้วยตนเอง อย่างเช่นกรณีออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในฐานะอาชญากรสงครามกรณีสั่งการรุนรานประเทศยูเครน รวมทั้งกรณีสั่งการให้พาตัวเด็กในยูเครนไปยังประเทศรัสเซียอย่างผิดกฏหมาย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เขมรกักกันคนไทย อาจเข้าข่าย 'อาชญากรรมสงคราม'
ทบ. ชี้พฤติการณ์ ‘กัมพูชา’ กักกัน ‘คนไทย’ หลายพันคน ที่ ‘ด่านปอยเปต’ อาจเข้าข่าย ’อาชญากรรมสงคราม’ จับ ‘พลเรือนเป็นตัวประกัน’ ละเมิด ‘อนุสัญญาเจนีวา’
'เทพมนตรี' บ่น ยึด 'ปราสาทพระวิหาร' คืน แจ้งสหประชาชาติ ไม่ให้กัมพูชาขึ้นมาใช้อำนาจอธิปไตย
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า บ่น ไทยควรเอาคืนเขมรเรื่องปราสาทพระวิหารเพราะมีกฎมรดกโลก
อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ร่วมหารือแผนสันติภาพกาซาระยะที่ 2
ผู้ไกล่เกลี่ยในตะวันออกกลางอย่าง อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ได้พบปะกันที่กรุงไคโรเมื่อวันอังคาร เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพกาซาระยะที่สองของสหรัฐฯ การประชุมมีหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอียิปต์และตุรเกียเข้าร่วมด้วย ตามรายงานของสถานีข่าวอัล-คาเฮรา นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด บิน อัลดุลเราะห์มาน อัล-ธานี แห่งกาตาร์ ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
เนทันยาฮู ประณามความรุนแรงจากกลุ่มหัวรุนแรงในเวสต์แบงก์
เนื่องด้วยการโจมตีหมู่บ้านชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ที่เพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จึงประณามผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่ก่อเ

