'ถึงเพื่อนรัก' : ประเทศต่างๆ ตอบสนองต่อการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (Photo by Jim WATSON / AFP)

ผู้นำจากทั่วโลกตอบรับการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาว ด้วยการแสดงความยินดีและเรียกร้องสานสัมพันธ์กับผู้นำที่เอาแน่เอานอนไม่ได้รายนี้

ต่อไปนี้คือปฏิกิริยาแรกๆ บางส่วนหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง

-'สันติภาพที่ยุติธรรม': ยูเครน -

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีกล่าวว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์มีความเด็ดขาดเสมอ และนโยบายสันติภาพผ่านความแข็งแกร่งที่เขาประกาศนั้นเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำของอเมริกาและบรรลุสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน ซึ่งเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด"

- 'สันติภาพที่ยั่งยืน': รัสเซีย -

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแสดงความยินดีกับทรัมป์และเปิดใจต่อการเจรจากับรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามยูเครน โดยกล่าวว่า "ผมต้องการเน้นย้ำว่าเป้าหมายของทรัมป์ไม่ควรเป็นการสงบศึกชั่วคราว แต่ควรเป็นสันติภาพที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของการเคารพต่อผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของประชาชนทุกคน"

- 'เร่งเครื่องการใช้จ่าย': นาโต -

มาร์ก รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) กล่าวว่าการกลับมาของทรัมป์จะเร่งเครื่องการใช้จ่ายและการผลิตด้านการป้องกันประเทศของชาติพันธมิตร

- 'วันที่ดีที่สุดกำลังจะมาถึง' : อิสราเอล -

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าการทำงานร่วมกันอีกครั้งจะทำให้ความเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯและอิสราเอลก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้น เชื่อว่าวันที่ดีที่สุดของเรากำลังจะมาถึง"

- 'ทางออกสองรัฐ' : ปาเลสไตน์ -

ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาสกล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับคุณเพื่อบรรลุสันติภาพในช่วงดำรงตำแหน่งของคุณ โดยยึดตามทางออกแบบสองรัฐ นั่นคือรัฐปาเลสไตน์และรัฐอิสราเอลที่จะอยู่เคียงข้างกันอย่างมั่นคงในสันติภาพ นำไปสู่การรับรองความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคของเราและของโลก"

- 'ความท้าทายระดับโลก' : อิตาลี -

นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีกล่าวว่า "ดิฉันมั่นใจว่าความท้าทายระดับโลกระหว่างประเทศของเราและค่านิยมที่เชื่อมโยงเราเข้าด้วยกัน จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอิตาลีและสหรัฐฯ ต่อไป, ร่วมกันเผชิญกับความท้าทายระดับโลก และสร้างอนาคตแห่งความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงให้กับประชาชนของเรา"

- 'ความเคารพ': เม็กซิโก -

ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามกล่าวว่า "ในฐานะเพื่อนบ้านและหุ้นส่วนทางธุรกิจ การเจรจา, ความเคารพ และความร่วมมือจะเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ของเราเสมอ"

- 'คลองปานามายังคงเป็นของปานามา' : ปานามา -

ปานามาตอบโต้อย่างรุนแรงต่อคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่ว่าสหรัฐอเมริกาจะ "ยึดคืน" คลองปานามา โดยกล่าวว่าทางน้ำระหว่างมหาสมุทรแห่งนี้จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของปานามา

"คลองปานามาเป็น และจะยังคงเป็นของปานามา" ประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มูลิโน กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย

- 'ทำงานอย่างใกล้ชิด' : สหภาพยุโรป -

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า "สหภาพยุโรปหวังจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก เชื่อว่าเราจะสามารถบรรลุความเจริญรุ่งเรืองที่มากขึ้นและเสริมสร้างความมั่นคงร่วมกันได้"

- 'เพื่อนรัก' : อินเดีย -

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแสดงความยินดีกับ "ทรัมป์เพื่อนรัก" และกล่าวว่า "ผมหวังจะได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง เพื่อให้ทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์ และเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับโลก"

- 'แข็งแกร่งที่สุดในการทำงานร่วมกัน' : แคนาดา -

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดกล่าวว่า "เราแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราทำงานร่วมกัน และผมหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์ เพราะแคนาดาและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก"

- 'พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด' : เยอรมนี -

นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์กล่าวว่า "สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา และเป้าหมายของนโยบายเราคือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศเสมอ"

- 'ประตูเปิดอยู่' : สหประชาชาติ -

ไซมอน สตีล เลขาธิการฝ่ายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหประชาชาติกล่าวว่า "ประตูยังคงเปิดอยู่เสมอสำหรับข้อตกลงปารีส และเรายินดีต้อนรับการมีส่วนร่วมที่สร้างสรรค์จากทุกประเทศ" (แต่สุดท้ายทรัมป์ลงนามถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงดังกล่าว)

- 'พันธมิตรทางประวัติศาสตร์' : บราซิล -

ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวากล่าวว่า "ผมขออวยพรให้เขา (ทรัมป์) มีรัฐบาลที่ประสบความสำเร็จ และสหรัฐฯ จะยังคงเป็นพันธมิตรทางประวัติศาสตร์ของบราซิลต่อไป".