อาฟเตอร์ช็อกเขย่ามัณฑะเลย์ ปฏิบัติการกู้ภัยหยุดค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวในเมียนมา

กระบวนการค้นหาผู้รอดชีวิตตามอาคารที่พังถล่มหยุดชะงักชั่วคราวเพราะอาฟเตอร์ช็อกครั้งใหม่เขย่าเมืองมัณฑะเลย์ ขณะที่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 1,700 รายในเมียนมา

ผู้คนเฝ้าดูขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ในอาคารคอนโดมิเนียมสกายวิลลาที่ถล่มลงมาในเมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม (Photo by Sai Aung MAIN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 กล่าวว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกครั้งใหม่เขย่าเมืองมัณฑะเลย์ที่พังทลาย หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 1,700 รายในเมียนมา

แผ่นดินไหวครั้งแรกขนาด 7.7 แม็กนิจูดเกิดขึ้นใกล้เมืองมัณฑะเลย์ในภาคกลางของเมียนมาช่วงบ่ายวันศุกร์ ตามด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.7 แม็กนิจูดในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารพังถล่ม, สะพานพังทลาย และถนนทรุดตัว โดยพบความเสียหายอย่างหนักในเมืองแห่งนี้ที่มีประชากรมากกว่า 1.7 ล้านคน

ล่าสุดในวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 14.00 น. เกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกครั้ง ซึ่งมีความรุนแรงขนาด 5.1 แม็กนิจูด ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ทำให้ผู้คนออกมาบนท้องถนนด้วยความตื่นตระหนกอีกครั้ง และปฏิบัติการกู้ภัยหยุดชะงักชั่วคราว

เมื่อคืนก่อนหน้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ดึงผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากซากอาคารอพาร์ตเมนต์ที่พังถล่มได้อย่างปลอดภัย โดยมีเสียงปรบมือดังขึ้นขณะที่เธอถูกนำตัวด้วยเปลหามไปยังรถพยาบาล

คณะทหารรัฐบาลของเมียนมากล่าวในแถลงการณ์เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ว่า จนถึงขณะนี้มีการยืนยันผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 1,700 ราย, บาดเจ็บประมาณ 3,400 คน และสูญหายอีกประมาณ 300 คน

แต่ขนาดความเสียหายยังไม่ชัดเจน และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงมากจนมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการคณะทหารเมียนมาได้ร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากเพราะรัฐบาลทหารชุดก่อนๆ เคยปฏิเสธความช่วยเหลือจากต่างประเทศมาตลอด แม้จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ก็ตาม รวมทั้งผลกระทบจากสงครามกลางเมืองที่กินเวลานานถึง 4 ปี ซึ่งเกิดจากการรัฐประหารในปี 2564

ขณะเดียวกัน กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารในประเทศได้ประกาศหยุดยิงบางส่วนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์นี้เป็นต้นไป

สหประชาชาติกล่าวว่า การขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างรุนแรงเป็นอุปสรรคต่อการตอบสนองของเมียนมาต่อแผ่นดินไหว ขณะที่หน่วยงานบรรเทาทุกข์ได้ตำหนิว่าประเทศไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติระดับนี้เลย

โดยประชาชนราว 3.5 ล้านคนต้องอพยพออกจากพื้นที่เนื่องจากสงครามกลางเมืองที่โหมกระหน่ำ และหลายคนเสี่ยงต่อความอดอยาก แม้กระทั่งก่อนเกิดแผ่นดินไหว

ด้านความช่วยเหลือจากนานาชาติ ทีมกู้ภัยเดินทางมาจากประเทศผู้บริจาคทั่วโลกเพื่อร่วมปฎิบัติการค้นหา และสภากาชาดเมียนมาได้ให้การสนับสนุนด้านจิตสังคมในเมืองมัณฑะเลย์ สำหรับผู้ประสบภัยที่อพยพออกจากบ้านเรือนเนื่องจากแผ่นดินไหว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กที่นี่! เปิดจุดในกรุงเทพฯ รับรู้แรงสั่นสะเทือน แผ่นดินไหวขนาด 5.4 ในทะเลเมียนมา

กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. บริเวณ ใกล้ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 211 กม.