เมียนมายืนสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวที่ยอดทะลุ 2,700 ราย

ผู้คนในเมียนมาได้ยืนสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 2,700 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือผู้หญิงที่ติดใต้ซากปรักหักพังของอาคารนานกว่า 90 ชั่วโมงได้อย่างปาฏิหาริย์

พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐบาลทหารเมียนมา (ที่ 2 จากขวา) พร้อมด้วยนายพลและเจ้าหน้าที่ทหาร ยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อแผ่นดินไหวในกรุงเนปยีดอ เมื่อวันที่ 1 เมษายน (Photo by Myanmar Radio and Television / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 2 เมษายน 2568 กล่าวว่า สี่วันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.7 แมกนิจูด ผู้คนจำนวนมากในเมียนมายังคงนอนหลับอยู่กลางแจ้ง โดยไม่สามารถกลับไปยังบ้านเรือนที่พังทลายได้ และยังคงหวาดกลัวต่ออาฟเตอร์ช็อกที่อาจเกิดขึ้นอีกเมื่อใดก็ได้

เสียงไซเรนดังขึ้นเมื่อเวลา เวลา 12 นาฬิกา 51 นาที 2 วินาที ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาที่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ ทำให้ทั้งประเทศต้องหยุดนิ่งเพื่อรำลึกถึงความสูญเสียครั้งใหญ่

ช่วงเวลาแห่งการรำลึกนี้เป็นส่วนหนึ่งของการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์ที่ประกาศโดยคณะรัฐบาลทหาร และธงชาติจะถูกชักขึ้นครึ่งเสาตามอาคารราชการจนถึงวันที่ 6 เมษายน เพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อชีวิตและความเสียหายที่เกิดขึ้น

พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐบาลทหารกล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีการยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 2,719 ราย, บาดเจ็บมากกว่า 4,500 คน และยังสูญหายอีก 441 คน

คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเดินทางไปถึงเมืองและหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดการติดต่อได้

อย่างไรก็ตาม มีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในกรุงเนปยีดอ เมื่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารนานกว่า 90 ชั่วโมงไว้ได้

หญิงวัย 63 ปีได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้ว นับเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังที่หาได้ยาก

เมืองมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศและมีประชากร 1.7 ล้านคน ได้รับความเสียหายหนักที่สุด

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากต่างประเทศมากกว่า 1,000 คนได้เดินทางมาช่วยเหลือ และสื่อของเมียนมารายงานว่ามีผู้รอดชีวิตจากอาคารที่พังยับเยินทั่วประเทศเกือบ 650 คน

ในเขตชานเมืองมัณฑะเลย์ มีการนำร่างของผู้เสียชีวิตไปเผาที่เตาเผาศพหลายร้อยศพ และยังมีอีกหลายศพที่จะถูกนำไปฝังกลบตามซากปรักหักพัง

แม้กระทั่งก่อนเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ ประชาชนกว่า 50 ล้านคนของเมียนมาก็ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้วจากสงครามกลางเมืองที่กินเวลานานถึง 4 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อกองทัพยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของอองซานซูจีในปี 2564

คณะรัฐบาลทหารระบุว่ากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองต่อภัยพิบัติครั้งนี้ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานหลายฉบับที่ระบุว่ากองทัพได้โจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านการปกครอง แม้ว่าประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวอยู่ก็ตาม

จูลี บิชอป ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำเมียนมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสู้รบ และมุ่งเน้นไปที่การปกป้องพลเรือนและส่งมอบความช่วยเหลือ

กลุ่มพันธมิตรชาติพันธุ์ 3 กลุ่มที่ต่อสู้กับคณะรัฐบาลทหารประกาศหยุดการสู้รบเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อสนับสนุนความพยายามด้านมนุษยธรรมในการตอบสนองต่อแผ่นดินไหว.