สภาญี่ปุ่นผ่านมติวิตกต่อ 'สถานการณ์สิทธิมนุษยชนร้ายแรง' ในจีน

สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นผ่านข้อมติแสดงความห่วงกังวลต่อ "สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนร้ายแรง" ในจีน ทั้งการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์และฮ่องกง ด้านจีนโต้เดือด "ยั่วยุทางการเมือง-แทรกแซงกิจการภายในอย่างร้ายแรง" ย้อนญี่ปุ่นก่ออาชญากรรมนับไม่ถ้วนเมื่อทำสงครามกับประเทศอื่นๆ

การผ่านข้อมติของสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นความพยายามผลักดันจากขั้วอนุรักษนิยมในพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรครัฐบาลของนายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ ให้ทันก่อนการเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งของจีนเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแล้วว่าจะไม่ส่งตัวแทนของรัฐบาลเข้าร่วม แต่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกของญี่ปุ่นจะไปร่วมพิธีด้วย

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอังคารกล่าวว่า ข้อมติที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้หลีกเลี่ยงการเอ่ยถึงจีนโดยตรง และไม่ใช้คำว่า "การละเมิดสิทธิมนุษยชน" แต่กล่าวรวมเป็น "สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน" แทน โดยเสียงข้างมากของสภาล่างแห่งนี้ลงคะแนนรับรองร่างข้อมติที่ปรับแก้ถ้อยคำและผ่านการถกเถียงกันยืดยาว แสดง "ความห่วงกังวลอย่างร้ายแรงต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชน" เช่น การกักกันและละเมิดเสรีภาพในการนับถือศาสนาในเขตซินเจียง, ทิเบต, ฮ่องกง และมองโกเลียใน

"ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนไม่ได้เป็นเพียงประเด็นภายในประเทศเท่านั้น เพราะสิทธิมนุษยชนถือเป็นค่านิยมสากล และเป็นประเด็นน่าห่วงกังวลโดยชอบธรรมสำหรับประชาคมระหว่างประเทศ" ข้อมติกล่าว พร้อมกันยังเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวพันอย่างสร้างสรรค์ในประเด็นสิทธิมนุษยชนในจีน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีน โดยจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวง แถลงที่กรุงปักกิ่งตอบโต้ข้อมตินี้ว่า "ยั่วยุทางการเมืองอย่างร้ายแรง" ข้อมตินี้ละเลยข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสีสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของจีน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างรุนแรง และจีนขอสงวนสิทธิที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติม

คำแถลงของจีนยังย้อนด้วยว่า เมื่อญี่ปุ่นทำสงครามกับประเทศอื่นๆ ญี่ปุ่นก็ก่ออาชญากรรมไว้นับไม่ถ้วน.