
คณะรัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอลมีแผนที่จะยึดและครอบครองฉนวนกาซาอย่างถาวร แหล่งข่าวในรัฐบาลอิสราเอลกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า แผนที่นำมาใช้ในช่วงข้ามคืนนั้นกำหนดให้มีการ “พิชิต” ดินแดนปาเลสไตน์และ “ยึดครอง” ดินแดนที่ถูกพิชิตได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเปิดเผยว่า ช่องทางสำหรับข้อตกลงในการปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมจะยังคงเปิดอยู่จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม
ก่อนหน้านี้ กองทัพอิสราเอลได้ประกาศขยายปฏิบัติการทางทหารต่อต้านกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และเกณฑ์พลเรือนนับหมื่นคนในพื้นที่ ตามรายงานของกองทัพ การขยายปฏิบัติการทางทหารนั้นมุ่งเป้าไปที่การรวมตัวของผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ไว้ภายในพื้นที่แนวชายฝั่ง
“ปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ ซึ่งรวมไปถึงการย้ายถิ่นฐานของผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในฉนวนกาซา” เอฟฟี เดฟริน-โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าว “เรามีจุดประสงค์เพื่อปกป้องผู้คนที่ผ่านการคัดกรองแล้วให้ออกห่างจากฮามาส” เขากล่าว
จากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูสนับสนุนข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการประชุมคณะรัฐมนตรีความมั่นคง ที่จะโยกย้ายประชากรในฉนวนกาซาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จอร์แดน หรืออียิปต์ และจะให้ทำด้วยความสมัครใจ ข้อเสนอดังกล่าวของทรัมป์จุดชนวนให้เกิดความโกรธแค้นไปทั่วโลก อียิปต์และจอร์แดนออกมาปฏิเสธการตั้งถิ่นฐานใหม่ของชาวปาเลสไตน์อย่างเด็ดขาด
มีรายงานว่าแผนใหม่สำหรับฉนวนกาซาได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอลแล้ว รายงานระบุว่า มีการวางแผนที่จะโจมตีกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงครั้งใหม่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า ช่องทางที่จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปล่อยตัวประกันที่กลุ่มฮามาสยังควบคุมตัวไว้ จะยังคงเปิดอยู่จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ช่องทางการเจรจาจะเปิดไปจนกว่าการเดินทางเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสิ้นสุดลง ทรัมป์วางแผนจะเดินทางไปเยือนภูมิภาคนี้ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม
ญาติของตัวประกันที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาวิจารณ์แผนการของคณะรัฐมนตรีความมั่นคงว่า รัฐบาลต้องการที่จะ “สังเวย” ตัวประกัน กลุ่มครอบครัวของตัวประกันกล่าวว่า แผนที่ได้การรับรองแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการยึดครองดินแดนมากกว่าการปล่อยตัวประกัน
เส้นทางของรัฐบาลขวาจัดของเนทันยาฮูในสงครามฉนวนกาซาเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในหมู่ประชาชนชาวอิสราเอล มีการชุมนุมประท้วงเป็นประจำเพื่อเรียกร้องให้ทำข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสเพื่อปล่อยตัวประกัน ปัจจุบันกลุ่มฮามาสยังคงมีตัวประกันอยู่ 58 คน แม้ว่าแหล่งข่าวจากอิสราเอลจะระบุว่ามีตัวประกันเสียชีวิตแล้ว 34 คนก็ตาม
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศในกรุงเบอร์ลินแสดงความกังวลต่อรายงานเกี่ยวกับแผนการใหม่ของอิสราเอล “ฉนวนกาซาเป็นของชาวปาเลสไตน์” เขากล่าว เยอรมนีปฏิเสธที่จะยอมรับการยึดครองพื้นที่ดังกล่าวอย่างถาวร ด้านสหภาพยุโรป และอันโตนิโอ กูแตร์เรส-เลขาธิการสหประชาชาติก็แสดงปฏิกิริยาด้วยความกังวลเช่นกัน
ในช่วงกลางเดือนมีนาคม หลังจากการหยุดยิงเกือบสองเดือน อิสราเอลได้กลับมาโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อเป้าหมายของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาอีกครั้ง และกองทัพอิสราเอลยังได้เปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินอีกด้วย
เอจัล ซามีร์-ผู้บัญชาการทหารบกประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะเรียกกำลังสำรองหลายหมื่นนาย “เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและขยายปฏิบัติการของเราในฉนวนกาซา” กองทัพจะเคลื่อนพลเข้าไปยังพื้นที่ในดินแดนปาเลสไตน์เพิ่มเติม และทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของกลุ่มฮามาส ทั้งบนดินและใต้ดิน
จากแหล่งข่าวของรัฐบาล คณะรัฐมนตรียังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้คนในฉนวนกาซาด้วย แต่จะทำ “เมื่อจำเป็น” และจะขัดขวางไม่ให้กลุ่มฮามาสเข้าถึงสิ่งของช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามคณะรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า “ขณะนี้ในฉนวนกาซายังมีอาหารเพียงพอ”
องค์กรช่วยเหลือปฏิเสธแผนดังกล่าวอย่างรุนแรง รัฐบาลอิสราเอล “ต้องการที่จะทำให้ความช่วยเหลือมีลักษณะทางทหาร จัดการ และทำให้เป็นเรื่องการเมือง โดยอนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือไปถึงเฉพาะศูนย์กลางบางแห่งในภูมิภาคตอนใต้เท่านั้น” ซึ่งขัดแย้งกับหลักการพื้นฐานด้านมนุษยธรรม ยาน เอเกลันด์-เลขาธิการสภาผู้ลี้ภัยนอร์เวย์กล่าว “เราจะไม่เข้าร่วมในเรื่องนี้” สำนักงานกิจการมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) กล่าวว่า แผนของอิสราเอลหมายความว่า “พื้นที่ขนาดใหญ่ในฉนวนกาซาจะต้องถูกปล่อยทิ้งไว้โดยปราศจากเสบียง”
อิสราเอลได้ปิดล้อมพื้นที่ชายฝั่งอย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม องค์การการกุศลเคยเตือนถึงความอดอยากและวิกฤตด้านสุขภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น.


