ซาอุดีอาระเบียให้การต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างหรูหรา พร้อมสัญญาว่าจะทำข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กับสหรัฐฯ ตั้งแต่ด้านกลาโหมไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และมกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ปรบมือแสดงความยินดีหลังการลงนามข้อตกลงระหว่างการประชุมทวิภาคีในกรุงริยาด เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม (Photo by Brendan Smialowski / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ และได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ พร้อมเข้าเฝ้าหารือกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน
ซาอุดีอาระเบียส่งเครื่องบินขับไล่ไปคุ้มกันเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วันให้เข้าสู่ราชอาณาจักรโดยสวัสดิภาพ และจัดกองทหารเกียรติยศพร้อมทหารม้าในขบวนรถของทรัมป์ที่เดินทางไปยังพระราชวัง
ภายใต้โคมระย้าอันโอ่อ่า ทรัมป์ได้แสดงความยินดีกับคำสัญญาของมกุฎราชกุมารซึ่งปกครองราชอาณาจักรนี้โดยพฤตินัย ที่ให้คำมั่นว่าจะลงทุน 600,000 ล้านเหรียญในสหรัฐ
ทำเนียบขาวกล่าวว่าซาอุดีอาระเบียจะซื้ออาวุธมูลค่าเกือบ 142,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นข้อตกลงด้านอาวุธที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แม้ว่าทรัมป์จะเคยประกาศตัวเลขที่มากกว่านี้ในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกก็ตาม
ทำเนียบขาวกล่าวว่าบริษัท 'DataVolt' ของซาอุดีอาระเบียจะลงทุน 20,000 ล้านเหรียญในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ในสหรัฐ ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีรวมถึง 'Google' จะลงทุนในทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับซาอุดีอาระเบียที่เผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐมาตลอด
ทรัมป์ยกย่องคำมั่นของมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย และดำเนินการตามคำร้องขอในนโยบายสำคัญของพระองค์ด้วยการประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรียซึ่งปกครองโดยกลุ่มอิสลามิสต์ตั้งแต่การโค่นล้มบาชาร์ อัลอัสซาดเมื่อเดือนธันวาคม
ในการเลือกซาอุดีอาระเบียเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรก เช่นเดียวกับที่เขาทำในวาระก่อนหน้า มหาเศรษฐีวัย 78 ปีผู้นี้กำลังหลีกเลี่ยงการไปเยือนซาอุดีอาระเบียตามแบบแผนเดิมอีกครั้งท่ามกลางพันธมิตรตะวันตก ซึ่งบางส่วนรู้สึกไม่สบายใจกับการใช้การทูตที่ทำลายบรรทัดฐานของเขา
การที่ทรัมป์ยอมรับซาอุดีอาระเบียแตกต่างไปจากแนวทางเริ่มต้นของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเคยให้คำมั่นว่าจะลงโทษมกุฎราชกุมาร หลังจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐพบว่าพระองค์ทรงบัญชาสังหารจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบียผู้ต่อต้านรัฐบาลในปี 2018
นับตั้งแต่คาช็อกกีถูกสังหารอย่างโหดร้าย มกุฎราชกุมารทรงพยายามอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่การผ่อนปรนข้อจำกัดต่อผู้หญิง ไปจนถึงการเปลี่ยนจากอุตสาหกรรมน้ำมันไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์
"ซาอุดีอาระเบียพิสูจน์ให้เห็นว่าคำวิจารณ์นั้นผิดอย่างสิ้นเชิง" ทรัมป์กล่าวในการประชุมการลงทุน ขณะที่มกุฎราชกุมารซึ่งอยู่เคียงข้างเขาตลอดทั้งวันทรงพระสรวลตลอดเวลา
ทรัมป์กล่าวชื่นชมตึกระฟ้าแวววาวในเมืองหลวงกลางทะเลทรายว่า "การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของกษัตริย์ซัลมานและมกุฎราชกุมารมุฮัมมัดนั้นพิเศษจริงๆ"
"ผมไม่เคยเห็นอะไรในระดับนี้เกิดขึ้นมาก่อน" ทรัมป์กล่าว
เป้าหมายสูงสุดที่ทั้งทรัมป์และไบเดนผลักดันคือการโน้มน้าวซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของศาสนาอิสลาม ให้ดำเนินการตามขั้นตอนสำคัญในการรับรองอิสราเอล
ทรัมป์เรียกการคืนดีกับอิสราเอลว่าเป็น "ความหวังและความปรารถนาอันแรงกล้า และแม้แต่ความฝันของผม"
"ท่านจะทำมันในเวลาของท่านเอง และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ ซึ่งหวังว่าจะตรงกับสิ่งที่ท่านยอมรับได้" ทรัมป์กล่าว
ซาอุดีอาระเบียกล่าวว่าไม่สามารถทำตามสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน และโมร็อกโก ซึ่งทั้งหมดได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลในช่วงวาระแรกของทรัมป์ หากไม่มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์เสียก่อน
หลังจากนี้ ผู้นำสหรัฐจะเดินทางเยือนกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นประเทศอาหรับที่ร่ำรวยน้ำมันและยังมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับทรัมป์ด้วย
ที่กาตาร์ ทรัมป์จะได้รับเครื่องบินโบอิ้งสุดหรูสำหรับการปรับปรุงให้เป็นแอร์ ฟอร์ซ วันลำใหม่ และเครื่องบินลำนี้จะกลายเป็นทรัพย์สินส่วนตัวภายหลังเขาพ้นวาระจากทำเนียบขาว
คู่แข่งของทรัมป์จากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า ของขวัญดังกล่าวเป็นการทุจริตอย่างโจ่งแจ้ง แต่ทรัมป์ได้โต้กลับว่าข้อตกลงดังกล่าวเปิดเผยต่อสาธารณะและโปร่งใสมาก
จอน อัลเทอร์แมน รองประธานอาวุโสของศูนย์การศึกษากลยุทธ์และระหว่างประเทศกล่าวว่า สำหรับทรัมป์แล้ว อ่าวเปอร์เซียคือสถานที่แห่งความสุขของเขา
"บรรดาผู้นำจะประจบประแจงเขา, ไม่วิพากษ์วิจารณ์เขา และจะปฏิบัติต่อเขาดั่งหุ้นส่วนทางธุรกิจทั้งในอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต" นักวิเคราะห์กล่าว.
