ราคาข้าวในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

ราคาข้าวในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 12 เดือนเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งสำคัญในเดือนหน้า

ถุงข้าวสารที่มุมซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน (Photo by Kazuhiro NOGI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568 กล่าวว่า การได้รับเสียงสนับสนุนในรัฐสภาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นในขณะนี้ หลังจากคะแนนนิยมภาคประชาชนต่อรัฐบาลของเขาลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความผิดหวังเกี่ยวกับค่าครองชีพ

แหล่งที่มาหลักของความโกรธแค้นประการหนึ่งคือราคาอาหารหลักที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน ภายใต้ปัญหาขาดแคลนที่เกิดจากหลากหลายสาเหตุ รวมถึงห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงัก

ราคาข้าวในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนพฤษภาคม ขณะที่ราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น 101% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคมเช่นเดียวกัน โดยก่อนหน้านั้นพุ่งขึ้น 98.4% ในเดือนเมษายน และพุ่งขึ้นมากกว่า 92.5% ในเดือนมีนาคม

ด้วยเหตุดังกล่าวอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดที่ผันผวน จึงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.7% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2023

วิกฤตการณ์ข้าวทำให้รัฐบาลโตเกียวต้องดำเนินการระบายสต็อกข้าวฉุกเฉินตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งโดยปกติแล้วรัฐบาลจะทำได้เฉพาะเมื่อเกิดภัยพิบัติเท่านั้น

แต่ราคาข้าวไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น เพราะค่าไฟฟ้าสูงขึ้น 11.3% ในเดือนพฤษภาคมและค่าแก๊สพุ่งสูงขึ้น 5.4% ด้วยเช่นกัน

หากไม่นับรวมพลังงานและอาหารสด ราคาผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับ 3% ในเดือนเมษายน

เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนต่างๆ ในการแก้ปัญหาค่าครองชีพ อิชิบะได้ให้คำมั่นว่าจะแจกเงินสด 20,000 เยน (ประมาณ 4,500 บาท) ให้กับประชาชนทุกคน และสองเท่าสำหรับเด็กๆ

พรรคร่วมรัฐบาลของผู้นำวัย 68 ปี สูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่างไปในเดือนตุลาคม เนื่องจากผู้มีสิทธิออกเสียงได้ระบายความโกรธแค้นต่อราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นและเรื่องอื้อฉาวทางการเมือง

ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นถือเป็นผลที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 ปีสำหรับพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งปกครองญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1955

ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ใช้มาตรการการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้วขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น แต่ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ทำให้ธนาคารต้องใช้มาตรการที่ช้าลง ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการเติบโตจะชะลอตัวในอนาคต

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมและระบุว่าจะลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในอัตราที่ช้าลง

ทั้งนี้ ปัจจัยเบื้องหลังการขาดแคลนข้าว ได้แก่ ฤดูร้อนที่ร้อนและแห้งแล้งอย่างรุนแรงเมื่อสองปีก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตทั่วประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าตั้งแต่นั้นมา ผู้ค้าบางรายก็กักตุนข้าวเพื่อหวังเพิ่มกำไรในภายหลัง

ปัญหาดังกล่าวยิ่งเลวร้ายลงเนื่องจากการซื้อของตุนเมื่อปีที่แล้วซึ่งเกิดจากคำเตือนของรัฐบาลเกี่ยวกับ "แผ่นดินไหวครั้งใหญ่" ที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้น

การสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่ทวีความรุนแรงขึ้นยังเพิ่มแรงกดดันให้ราคาพลังงานสูงขึ้นอีก ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการสิ่งแวดล้อม แนะการแสดงออกของผู้นำในภาวะวิกฤติ ทำอย่างไรได้ใจประชาชน

นายกรัฐมนตรีของไทยลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนถูกน้ำท่วมใหญ่ที่ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวขอโทษประ ชาชนที่ผิดพลาดจะเร่งฟื้นฟูใหม่โดยเร็ว

ชาวนาอ่างทองใจสลาย น้ำท่วมนาใกล้เก็บเกี่ยว สูญเงินลงทุน รายได้หายไปกับน้ำ

ชาวนาอ่างทองจำนวนมากกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ข้าวใกล้เก็บเกี่ยวไม่ถึง 2 สัปดาห์ถูกน้ำท่วมทุ่ง สร้างความสูญเสีย