ชิเงรุ อิชิบะประกาศจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังอยู่บริหารได้ไม่ถึงหนึ่งปีแต่สูญเสียเสียงข้างมากในทั้งสองสภา

นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นเข้าร่วมการแถลงข่าวที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 7 กันยายน (Photo by TORU HANAI / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นประกาศจะลาออก หลังจากดำรงตำแหน่งได้ไม่ถึงหนึ่งปีทึ่สูญเสียเสียงข้างมากในทั้งสองสภา
การประกาศครั้งนี้หมายถึงความไม่แน่นอนครั้งใหม่สำหรับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก เนื่องจากต้องต่อสู้กับปัญหาราคาครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นและผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่มีต่อภาคยานยนต์ของประเทศ
"ตอนนี้การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปแล้ว ผมเชื่อว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสม" อิชิบะกล่าวในการแถลงข่าว
"ผมจึงตัดสินใจหลีกทางให้คนรุ่นต่อไป" เขากล่าว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีเพื่อลดภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่น โดยในที่สุดรัฐบาลวอชิงตันก็ดำเนินการตามข้อตกลงการค้าที่เจรจากับโตเกียวในเดือนกรกฎาคม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารถยนต์ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า 15% จากเดิม 27.5% ที่มีผลบังคับใช้ในในปัจจุบัน แต่การจัดเก็บภาษีนำเข้าก็ยังคงสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับอุตสาหกรรมสำคัญนี้
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากที่ชายวัย 68 ปีได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่ครองเสียงข้างมากมายาวนาน
เขาชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคในเดือนกันยายน ปี 2024 และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของพรรค LDP นับตั้งแต่ปี 2000
รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า อิชิบะต้องการหลีกเลี่ยงความแตกแยกในพรรค และเขาไม่สามารถต้านทานเสียงเรียกร้องที่มากขึ้นเรื่อยๆ ให้ลาออกได้
มีรายงานว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งได้พบกับอิชิบะในคืนวันเสาร์ เพื่อเรียกร้องให้เขาลาออกโดยสมัครใจ
เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรค LDP สี่คน รวมถึงฮิโรชิ โมริยามะ ผู้นำหมายเลขสองของพรรค ได้เสนอตัวลาออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามของอิชิบะเรียกร้องให้เขาลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งสภาสูงที่ย่ำแย่ในเดือนกรกฎาคม
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวนี้ ได้แก่ ทาโร อาโซ อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 84 ปีผู้ทรงอิทธิพล
ทั้งนี้ วาระการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของอิชิบะมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2027
ซานาเอะ ทาคาอิจิ คู่แข่งคนสำคัญที่สุดของเขา ซึ่งถูกมองว่าเป็นชาตินิยมหัวรุนแรง ได้กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเธอจะพยายามลงสมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้มีสิทธิเลือกหัวหน้าพรรคน่าจะไม่ค่อยสนใจทาคาอิจิ ถึงแม้เธอเคยได้ที่สองรองจากอิชิบะในการเลือกตั้งผู้นำครั้งล่าสุดในปี 2024
ถึงกระนั้น ผลสำรวจของนิกเคอิที่จัดทำขึ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ระบุว่าทาคาอิจิเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำที่เหมาะสมที่สุดต่อจากอิชิบะ ตามมาด้วยชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร
พรรค LDP บริหารประเทศมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1955 แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลับละทิ้งพรรคฯ แล้วหันไปสนับสนุนกลุ่มสุดโต่งแทนในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด บวกกับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ราคาข้าวที่สูงขึ้น, มาตรฐานการครองชีพที่ตกต่ำ และความโกรธแค้นต่อเรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชันภายในพรรค LDP
อิชิบะซึ่งเป็นนักการเมืองอาชีพผู้ไม่ละความพยายาม ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค LDP เมื่อปีที่แล้วพร้อมคำมั่นสัญญาที่ว่าจะทำให้ประเทศกลายเป็นญี่ปุ่นยุคใหม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการสิ่งแวดล้อม แนะการแสดงออกของผู้นำในภาวะวิกฤติ ทำอย่างไรได้ใจประชาชน
นายกรัฐมนตรีของไทยลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนถูกน้ำท่วมใหญ่ที่ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวขอโทษประ ชาชนที่ผิดพลาดจะเร่งฟื้นฟูใหม่โดยเร็ว


