ทรัมป์เตือนบริษัทต่างชาติอย่าท้าทายระบบ กรณีกักตัวแรงงานเกาหลีใต้

โดนัลด์ ทรัมป์เตือนบริษัทต่างชาติให้ปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจับกุมบุคคลประมาณ 475 คน รวมถึงคนงานเกาหลีใต้ที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ Hyundai-LG ในรัฐจอร์เจีย

ประชาชนเดินขบวนและถือป้ายหน้าสำนักงานใหญ่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน (Photo by Emily Elconin / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตือนบริษัทต่างชาติให้ปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบุกจับกุมบุคคลต่างด้าวประมาณ 475 คน รวมถึงคนงานเกาหลีใต้ที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ Hyundai-LG ที่กำลังก่อสร้างในรัฐจอร์เจียทางตอนใต้

การจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาถือเป็นปฏิบัติการครั้งใหญ่ที่สุดที่ดำเนินการภายใต้นโยบายปราบปรามผู้อพยพทั่วประเทศของทรัมป์

"โปรดเคารพกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเรา" ประธานาธิบดีโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์

"การลงทุนของคุณเป็นสิ่งที่น่ายินดี และเราขอสนับสนุนให้คุณนำบุคลากรที่มีความสามารถของคุณมาอย่างถูกกฎหมาย สิ่งที่เราขอตอบแทนคือการจ้างและฝึกอบรมคนงานชาวอเมริกัน" ทรัมป์ระบุ

ภาพการบุกจู่โจมแสดงให้เห็นคนงานที่ถูกควบคุมตัว, ถูกใส่กุญแจมือ และถูกล่ามโซ่ไว้ที่ข้อเท้า ขณะกำลังถูกพาขึ้นรถบัส

สตีเวน ชรังค์ เจ้าหน้าที่พิเศษผู้รับผิดชอบการสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในรัฐจอร์เจีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การบุกจู่โจมครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมการจ้างงานที่ผิดกฎหมายซึ่งเกิดขึ้นในสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ 100 เอเคอร์แห่งนี้

LG Energy Solution ระบุว่าพนักงาน 47 คนถูกจับกุม ซึ่งประกอบด้วยชาวเกาหลีใต้ 46 คน และชาวอินโดนีเซีย 1 คน

บริษัทฯยังกล่าวอีกว่า ผู้ที่ถูกจับกุมประมาณ 250 คนเป็นลูกจ้างของบริษัทผู้รับเหมา และส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้

นอกจากจะเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงที่สำคัญในภูมิภาคแปซิฟิกแล้ว เกาหลีใต้ยังเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชีย และเป็นผู้ผลิตรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่มีโรงงานหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา

รัฐบาลโซลได้ตอบรับข้อเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์ในการลงทุนในธุรกิจของสหรัฐฯ ระหว่างการเจรจาภาษีกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เมื่อเดือนที่แล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ พบกับทรัมป์ที่กรุงวอชิงตัน โคเรียนแอร์ได้ประกาศว่าจะจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 100 ลำ ซึ่งเป็นการลงนามข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การบินของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ รัฐบาลโซลยังได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 3,500,000 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนกรกฎาคม

และเกาหลีใต้ยังได้บรรลุข้อตกลงภาษีนำเข้าสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาในอัตรา 15% ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 25% ที่ทรัมป์เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้อย่างมาก

ในประเทศ ทรัมป์ได้ให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูภาคการผลิตของสหรัฐฯ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะส่งตัวผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารหลายล้านคนกลับประเทศ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ตักเตือนนักลงทุนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ดูเหมือนจะยอมรับว่าแรงงานในประเทศยังมีข้อบกพร่องด้านทักษะอยู่

"สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรทำถูกต้องแล้ว เพราะพวกเขาเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย" เขากล่าวถึงการบุกตรวจค้นโรงงานดังกล่าวซึ่งสร้างความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้

"แต่เราต้องหาทางนำแรงงานเสริมเข้ามา เพื่อให้คนของเราได้รับการฝึกอบรมและให้พวกเขาสามารถทำงานด้วยตนเองได้" ทรัมป์กล่าว

รัฐบาลโซลกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การเจรจาเพื่อปล่อยตัวแรงงานที่ถูกควบคุมตัวได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับบ้านในเร็วๆ นี้

"สิ่งสำคัญเร่งด่วนตอนนี้คือการปล่อยตัวพนักงาน LG Energy Solution ของเราและพนักงานของบริษัทพันธมิตรของเราโดยเร็ว" คิม คี-ซู ผู้บริหารบริษัทกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นเครื่องบินไปจอร์เจียในช่วงเช้าของวันเดียวกัน

ขณะที่ฮุนไดยืนยันว่าไม่มีพนักงานคนใดที่ถูกจับกุมเลย

ทั้งนี้ ด้วยจำนวนผู้ถูกจับกุมหลายร้อยคน ขนาดของปฏิบัติการบุกจับในจอร์เจียจึงแตกต่างจากปฏิบัติการอื่นๆ ขณะที่ในพื้นที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมักบุกจับกุมในธุรกิจขนาดเล็กหลายครั้ง โดยมุ่งเป้าไปที่ร้านฮาร์ดแวร์, ร้านอาหาร, ร้านล้างรถ และแผงลอยริมถนน.

เพิ่มเพื่อน