ทหารเนปาลออกลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อพยายามฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยหลังจากผู้ประท้วงจุดไฟเผารัฐสภาและกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งถือเป็นความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดที่ประเทศนี้เคยเผชิญในรอบสองทศวรรษ

ควันดำพวยพุ่งปกคลุมกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 10 กันยายน หลังจากผู้ประท้วงจุดไฟเผาอาคารหลายหลังทั้งในส่วนของราชการและเอกชน (Photo by PRABIN RANABHAT / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 10 กันยายน 2568 กล่าวว่า จากเหตุประท้วงรัฐบาลที่ลุกลามกลายเป็นจลาจลในเนปาล อันสืบเนื่องจากความไม่พอใจของประชาชนรุ่นใหม่ในกรณีการแบนโซเชียลมีเดียและความต้องการปราบปรามทุจริตนักการเมือง
ล่าสุด ทหารเนปาลถูกส่งไปลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อพยายามฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงกระจายกำลังไปจุดไฟเผาอาคารรัฐสภาและตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งถือเป็นความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดที่ประเทศนี้เคยเผชิญในรอบสองทศวรรษ
ทหารออกคำสั่งผ่านเครื่องขยายเสียงให้บังคับใช้เคอร์ฟิวในช่วงที่เป็นสุญญากาศทางการเมืองจากการประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรี ขณะที่รถลำเลียงพลหุ้มเกราะเคลื่อนผ่านซากรถและอาคารที่ถูกเผาบนถนนที่เงียบสงัด
พลเอก อโศก ราช ซิกเดล ผู้บัญชาการทหารบกเนปาล ได้เรียกร้องให้ผู้ประท้วงทุกคนยุติการชุมนุมและเข้าสู่การเจรจา
การเดินขบวนประท้วงเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่เมืองหลวง เพื่อต่อต้านการแบนโซเชียลมีเดียของรัฐบาลและการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลุ่มผู้ประท้วงหนุ่มสาวผู้โกรธแค้นที่เรียกตัวเองว่า "Gen Z"
แต่กลับทวีความรุนแรงขึ้นเป็นความโกรธแค้นทั่วประเทศ โดยอาคารรัฐบาลถูกเผาทำลายหลังจากมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 รายในการปราบปรามด้วยการใช้ความรุนแรง
ความวุ่นวายที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้หลายคนตกใจ และกองทัพเนปาลได้เตือนถึงกิจกรรมที่อาจนำประเทศไปสู่ความไม่สงบและไร้เสถียรภาพ
กองทัพเนปาลเตือนเมื่อวันพุธว่า "การทำลายทรัพย์สิน, การปล้นสะดม, การวางเพลิง หรือการโจมตีบุคคลและทรัพย์สินในนามของการประท้วง ถือเป็นความผิดทางอาญา"
คาดว่าสนามบินกาฐมาณฑุจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงบ่ายวันพุธ
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มควันยังคงคุกรุ่นพวยพุ่งขึ้นจากอาคารรัฐบาล, บ้านพักของนักการเมือง, ซูเปอร์มาร์เก็ต และอาคารอื่นๆ ที่ตกเป็นเป้าโจมตีของผู้ประท้วง
บนกำแพงที่ไหม้เกรียมของอาคารรัฐสภาเนปาล ผู้ประท้วงได้เขียนข้อความอำลาอันหยาบคายถึงรัฐบาลที่ถูกโค่นล้ม โดยระบุว่าพวกเขาเลือก "ฝ่ายที่ผิด" และลงชื่อว่า "คน Gen Z"
เมื่อวันอังคาร ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งได้บุกโจมตีและจุดไฟเผาบ้านของเคพี ศรรมะ โอลี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี 4 สมัยวัย 73 ปี และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์
ต่อมาเขาได้ลาออกเพื่อเปิดทางให้เกิดขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง และปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่าเขาเก็บตัวอยู่ที่ใด
กลุ่มวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศ (International Crisis Group) เรียกเหตุการณ์นี้ว่า "จุดเปลี่ยนสำคัญในประสบการณ์อันย่ำแย่ของประเทศกับการปกครองแบบประชาธิปไตย"
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจเพื่อหลีกเลี่ยงการยกระดับความรุนแรง ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในเนปาลต่อจากนี้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกับเอเอฟพีว่า "ผู้ประท้วง, ผู้นำที่พวกเขาไว้วางใจ และกองทัพเนปาล ควรร่วมมือกันเพื่อปูทางไปสู่รัฐบาลรักษาการ ซึ่งขณะนี้จำเป็นต้องจัดทำแผนงานช่วงเปลี่ยนผ่านโดยเร็ว และต้องรวมเอาบุคคลที่ยังคงรักษาความน่าเชื่อถือของชาวเนปาลไว้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนของประเทศ"
แต่ด้วยความกระทันหันของการลุกฮือที่นำโดยเยาวชน ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าผู้ประท้วงจะสนับสนุนใครหลังจากสถานการณ์สงบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'มาร์ค พิตบูล' ยกเหตุจราจลในเนปาล เตือน 'อนุทิน' จัดโควตารมต.ให้กลุ่มการเมือง รัฐบาลจะอายุสั้น
นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ “มาร์ค พิตบูล” หัวหน้าทีมยุทธศาสตร์พรรคเศรษฐกิจ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลประเทศเนปาลจนเกิดเหตุรุนแรง ว่า ไทยอาจจะเป็นประเทศต่อไป ?


