ม็อบขวาจัด 150,000 ปะทะตำรวจในลอนดอน

เกิดการปะทะกันขึ้นในลอนดอนและตำรวจได้จับกุมผู้ชุมนุม 25 คน หลังจากมีประชาชนมากถึง 150,000 คนรวมตัวกันในการประท้วงของกลุ่มขวาจัดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในสหราชอาณาจักร

กลุ่มผู้ประท้วงขวาจัดเดินถือธงชาติไปตามใจกลางกรุงลอนดอนในระหว่างการเดินขบวนที่ชื่อ "เทศกาลเสรีภาพในการพูด" เมื่อวันที่ 13 กันยายน (Photo by CARLOS JASSO / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 กล่าวว่า ประชาชนมากถึง 150,000 คนออกมารวมตัวกันที่กรุงลอนดอน ในการประท้วงของกลุ่มขวาจัดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในสหราชอาณาจักร ซึ่งจัดโดยทอมมี โรบินสัน นักเคลื่อนไหว

เกิดการปะทะกันระหว่างฝูงชนและตำรวจที่ได้จับกุมผู้ชุมนุม 25 คน จากกิจกรรมดังกล่าว มีรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ 26 นายได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนี้ 4 นายอาการสาหัส หลังจากเผชิญกับความรุนแรงขณะพยายามควบคุมฝูงชนซึ่งหลายคนห่มตัวด้วยธงชาติอังกฤษและสหราชอาณาจักร ในช่วงเวลาตึงเครียดหลายชั่วโมงที่บริเวณขอบการชุมนุม

ตำรวจนครบาลซึ่งประเมินว่ามีประชาชนออกมาชุมนุมราว 110,000 ถึง 150,000 คนที่เกินกว่าการประมาณการของผู้จัดงานอย่างมาก กล่าวว่า การปะทะกันเกิดขึ้นหลังจากผู้เข้าร่วมบางส่วนพยายามเข้าไปในพื้นที่กันชนใกล้กับกลุ่มผู้ประท้วงอีกกลุ่มซึ่งเป็นฝ่ายซ้าย นั่นคือการเดินขบวน 'Stand Up to Racism' ประมาณ 5,000 คน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นทางตอนเหนือราวหนึ่งไมล์ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1,000 นายถูกส่งไปเพื่อควบคุมกลุ่มผู้ประท้วงที่เป็นคู่อริกับฝั่งขวาจัดให้แยกตัวออกจากกัน

"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลายคนมาเพื่อใช้สิทธิตามกฎหมายในการประท้วง แต่ก็มีหลายคนที่ตั้งใจจะใช้ความรุนแรง พวกเขาเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่, ทำร้ายร่างกาย และพยายามอย่างแน่วแน่ที่จะฝ่าแนวป้องกันเพื่อความปลอดภัยของทุกคน" แมตต์ ทวิสต์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจกล่าว

เขากล่าวเสริมว่า มีการจับกุมผู้ก่อความวุ่นวายรุนแรง, การทำร้ายร่างกาย และความผิดอื่นๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ ฟันหัก, จมูกหัก, สมองกระทบกระเทือน และหมอนรองกระดูกเคลื่อน

ชาบานา มาห์มูด รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษประณามผู้ที่ทำร้ายและทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และยืนยันว่าผู้ใดก็ตามที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางอาญาจะต้องเผชิญกับการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่

กลุ่มผู้ประท้วงที่ชื่อว่า 'Unite the Kingdom' ครั้งล่าสุดของทอมมี โรบินสัน ได้เดินข้ามสะพานเวสต์มินสเตอร์ ก่อนที่จะรวมตัวกันใกล้ถนนดาวนิงสตรีทเพื่อรับฟังคำกล่าวสุนทรพจน์จากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มขวาจัดจากทั่วยุโรปและอเมริกาเหนือ รวมถึงอีลอน มัสก์

องค์กรการกุศลต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ 'Hope Not Hate' ซึ่งติดตามการชุมนุมดังกล่าวมานานกว่าทศวรรษ กล่าวว่า "กลุ่มหัวรุนแรงขวาจัดที่มีชื่อเสียงหลายคนรวมถึงโรบินสัน ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีและอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย"

โจ มัลฮอลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยขององค์กรฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "น่าจะเป็นการประท้วงของกลุ่มขวาจัดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสหราชอาณาจักร"

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสต่อต้านผู้อพยพที่เพิ่มสูงขึ้น และผู้ประท้วงมุ่งเป้าไปที่โรงแรมที่ใช้เป็นที่พักของผู้ลี้ภัย

เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาจากเหตุจลาจลต่อต้านผู้อพยพในหลายเมืองเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งโรบินสันถูกกล่าวหาว่ายุยงปลุกปั่นด้วยการโพสต์ข้อความออนไลน์

ชายวัย 42 ปีผู้นี้ ซึ่งมีประวัติอาชญากรรมมายาวนานและมีผู้ติดตามจำนวนมากทางออนไลน์ หลังจากเป็นผู้นำในวาระต่อต้านมุสลิมและผู้อพยพอย่างแรงกล้ามาหลายปี ได้เรียกวันเสาร์นี้ว่าเป็น "เทศกาลเสรีภาพในการพูด"

"ผู้รักชาติหลายล้านคนแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน" โรบินสัน ซึ่งมีชื่อจริงว่า สตีเฟน แย็กซ์ลีย์-เลนนอน ได้โพสต์ภาพฝูงชนบน X ไม่นานหลังจากงานจบลงในช่วงค่ำ

มีการสรรเสริญหลายครั้งต่อชาร์ลี เคิร์กที่เพิ่งถูกลอบสังหารในสหรัฐ เพื่อรำลึกถึงนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาชาวอเมริกันผู้เป็นพันธมิตรของโดนัลด์ ทรัมป์

กลุ่มผู้ประท้วงขวาจัดกล่าวว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากความกังวลเกี่ยวกับการอพยพ

ผู้ประท้วงคนหนึ่งวัย 28 ปี อ้างว่าสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับการรุกรานของผู้ขอลี้ภัยที่เดินทางมาด้วยเรือขนาดเล็กข้ามช่องแคบเป็นประจำทุกปี

อีกฟากหนึ่งในการชุมนุมต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ไดแอน แอ็บบอตต์ สมาชิกสภานิติบัญญัติอาวุโสจากพรรคแรงงาน กล่าวหาโรบินสันและพันธมิตรว่าเผยแพร่เรื่องไร้สาระและคำโกหกอันตรายที่ว่าผู้ขอลี้ภัยเป็นภัยคุกคาม

"เราต้องร่วมแสดงน้ำใจกับผู้ขอลี้ภัย และเราต้องแสดงให้เห็นว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน" เธอกล่าว

วิทยากรในงานของโรบินสันประกอบด้วย มัสก์ ซึ่งเข้าร่วมผ่านวิดีโอลิงก์, เอริก เซมมูร์ นักการเมืองฝ่ายขวาจัดชาวฝรั่งเศส และเพเตอร์ ไบสตรอน จากพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ซึ่งต่อต้านผู้อพยพ

"คุณอยู่ในสถานการณ์พื้นฐานที่นี่" มัสก์กล่าวกับฝูงชน โดยอ้างว่าฝ่ายซ้ายคือพรรคแห่งการฆาตกรรมและเฉลิมฉลองการฆาตกรรม

"ไม่ว่าคุณจะเลือกความรุนแรงหรือไม่ ความรุนแรงจะเข้ามาหาคุณ คุณต้องสู้กลับหรือไม่ก็ต้องตาย" มัสก์กล่าว

ขณะที่นักการเมืองฝ่ายขวาจัดชาวฝรั่งเศสย้ำทฤษฎีสมคบคิด "การแทนที่ครั้งยิ่งใหญ่" ของกลุ่มชาตินิยมผิวขาวฝ่ายขวาจัดอีกครั้ง โดยทฤษฎีนี้ระบุว่าชาวยุโรปผิวขาวกำลังถูกผู้อพยพที่ไม่ใช่คนผิวขาวเข้ามาแทนที่โดยเจตนา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง