ประชาชนฟิลิปปินส์หลายพันคนเดินขบวนในกรุงมะนิลา เพื่อระบายความโกรธแค้นต่อเรื่องอื้อฉาวที่บานปลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการควบคุมน้ำท่วมปลอมที่เชื่อว่าทำให้ประชาชนสูญภาษีหลายพันล้านดอลลาร์

ผู้ประท้วงเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านการทุจริต หลังจากมีการเปิดเผยโครงการควบคุมน้ำท่วมปลอม ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบหลายทศวรรษ ณ อนุสาวรีย์พลังประชาชน ในเมืองเกซอนซิตี เขตมหานครมะนิลา เมื่อวันที่ 21 กันยายน (Photo by Jam STA ROSA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568 กล่าวว่า ประชาชนชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนออกมารวมตัวเดินขบวนในกรุงมะนิลา เพื่อระบายความโกรธแค้นต่อเรื่องอื้อฉาวซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการควบคุมน้ำท่วมปลอม
ความโกรธแค้นต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีอยู่จริงนี้ ได้ทวีความรุนแรงขึ้นในประเทศนับตั้งแต่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอสกล่าวสุนทรพจน์ต่อชาติในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมร้ายแรงหลายสัปดาห์
มาร์กอสกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาไม่ได้ตำหนิประชาชนที่ออกมาประท้วงแม้แต่นิดเดียว ขณะที่เรียกร้องให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบสุข ซึ่งการชุมนุมส่วนใหญ่ก็เป็นไปอย่างสงบสุข
แต่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีได้พบเห็นกลุ่มชายหนุ่มส่วนใหญ่ขว้างปาก้อนหินและขวดใส่ตำรวจในสองเหตุการณ์ที่แยกจากกัน โดยเหตุการณ์หนึ่งทำให้ยางรถพ่วงที่ใช้เป็นเครื่องกีดขวางใกล้สะพานที่มุ่งหน้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดีถูกเผา
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า ตำรวจได้เคลื่อนกำลังฝ่าเครื่องกีดขวางและจับกุมเยาวชน 17 คนในการปะทะครั้งแรก
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงต่อมา การปะทะครั้งที่สองทำให้ตำรวจต้องใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันฉีดใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากอีกกลุ่มหนึ่ง ขณะที่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่อยู่ในที่เกิดเหตุเห็นตำรวจบางคนหยิบก้อนหินและขว้างปาใส่ผู้ประท้วงเช่นกัน
การประท้วงเริ่มต้นด้วยสันติในช่วงเช้าบริเวณสวนสาธารณะลูเนตาในกรุงมะนิลา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเกือบ 50,000 คน ตามการประมาณการของทางการ
มีผู้คนอีกหลายพันคนเข้าร่วมการเดินขบวนในช่วงบ่าย ณ ถนนสายหลัก 'EDSA' ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวในปี 1986 ที่โค่นล้มบิดาผู้เป็นเผด็จการของมาร์กอส
"การทุจริตคอร์รัปชันทำให้ผู้คนต้องออกมาเดินขบวนบนท้องถนนและแสดงความไม่พอใจ โดยหวังว่าจะกดดันให้รัฐบาลทำงานของพวกเขาให้สำเร็จ" ผู้เดินขบวนคนหนึ่งกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประเมินว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์สูญเสียเงินมากถึง 118,500 ล้านเปโซ (ประมาณ 63,500 ล้านบาท) ระหว่างปี 2023 ถึง 2025 เนื่องจากการทุจริตในโครงการป้องกันน้ำท่วม
ต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งกล่าวหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกือบ 30 คน และเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและทางหลวง (DPWH) ว่าเรียกร้องเงินใต้โต๊ะ
เรื่องอื้อฉาวนี้ได้จุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำในทั้งสองสภาของรัฐสภา โดยมาร์ติน โรมูอัลเดซ ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของมาร์กอส ได้ยื่นใบลาออกเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่การสอบสวนกำลังดำเนินอยู่
ฟิลิปปินส์มีประวัติอันยาวนานเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับเงินงบประมาณของรัฐ ซึ่งนักการเมืองระดับสูงที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันมักจะรอดพ้นจากโทษจำคุกอย่างหนัก.


