ฟิลิปปินส์และไต้หวันสั่งอพยพประชาชน ก่อนที่พายุไต้ฝุ่นรากาซาจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ด้วยกำลังที่แรงขึ้นเรื่อยๆ

(Photo by I-Hwa Cheng / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568 กล่าวว่า ฟิลิปปินส์และไต้หวันสั่งอพยพประชาชนก่อนการมาเยือนของพายุไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าใกล้และกำลังทวีกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมุ่งหน้าทางตอนใต้ของจีน
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์กล่าวว่า พายุกำลังทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งบนเกาะบาตาเนสหรือบาบูยันซึ่งมีประชากรเบาบางภายในบ่ายวันอังคาร
ความเร็วลมสูงสุดที่ศูนย์กลางของพายุอยู่ที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ณ เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีลมกระโชกแรงถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเข้าสู่ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้
จอนวิค เรมุลลา เลขาธิการกระทรวงมหาดไทยฟิลิปปินส์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องรีบอพยพครัวเรือนประชาชนออกจากพื้นที่อันตรายโดยเร็ว
จอห์น เกรนเดอร์ อัลมาริโอ ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศของฟิลิปปินส์ กล่าวในการแถลงข่าววันอาทิตย์ว่า คาดว่าจะเกิดน้ำท่วมรุนแรงและดินถล่ม ในพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน
"เราคาดว่าผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะรู้สึกได้ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป โดยผลกระทบที่รุนแรงที่สุดจะเกิดขึ้นในเวลา 08.00 น. ของวันพรุ่งนี้" เขากล่าว
ในไต้หวัน เจ้าหน้าที่กล่าวว่าจะมีการอพยพประชาชนเกือบ 300 คนออกจากเขตฮัวเหลียนทางตะวันออก และเสริมว่าตัวเลขอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของพายุไต้ฝุ่น
สำนักงานอุตุนิยมวิทยากลางกล่าวว่า "เราคาดการณ์ว่าจะมีการออกประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่นบนบกในคืนนี้ และในวันพรุ่งนี้เวลา 06.00 น. ไต้ฝุ่นจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งของไต้หวัน"
ทั้งนี้ ลมแรงและฝนตกหนักมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของลูซอน แต่อาจจะไม่กระทบไปถึงเมืองหลวงมะนิลา
ฟิลิปปินส์เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่แห่งแรกที่ต้องเผชิญกับพายุไซโคลนแปซิฟิก และหมู่เกาะนี้เผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นโดยเฉลี่ย 20 ลูกต่อปี ทำให้ประชาชนหลายล้านคนในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องตกอยู่ในภาวะยากจนอย่างต่อเนื่อง
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าพายุกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากโลกร้อนขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงาน-จิตอาสา บริการตัดผมฟรีให้แก่ผู้อพยพชายแดน
ส่วนราชการ อาสาสมัครภาคประชาชน และจิตอาสา ให้บริการตัดผมชาย-หญิงฟรี แก่ประชาชนผู้อพยพหนีภัยสู้รบ และเจ้าหน้าที่ ยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ เพื่อสร้างรอยยิ้ม ความประทับใจ และผ่อนคลายความตึงเครียดจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ชรบ.ชายแดน ทำหน้าที่แข็งขัน ให้อาหารสัตว์เลี้ยง รดน้ำต้นไม้ของชาวบ้านอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ ชรบ. พร้อมผู้นำชุมชนในหมู่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ นอกจากจะทำหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัย บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนผู้อพยพแล้ว ยังคงต้องหมั่นคอยไปเอาอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงด้วย
ตร.-ชรบ. จับสองผัวเมียตระเวนขโมยยางพาราในพื้นที่เสี่ยงภัย ซ้ำเติมผู้อพยพชายแดน
ตำรวจ สภ.หนองไม้งาม สนธิกำลัง ชรบ.อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สกัดจับสองผัวเมียตระเวนขโมยยางพาราพื้นที่เสี่ยงภัยสู้รบซ้ำเติมผู้อพยพ กรรมติดจรวดยางแตกหนีต่อไม่ได้โดนรวบพร้อมของกลาง สารภาพขโมยไปขายซื้อยาบ้าเสพ
ชรบ.ฝ่าเสียงระเบิด ทำหน้าที่เข้มแข็งในแนวหลัง ดูแลทรัพย์สิน-สัตว์เลี้ยงชาวบ้าน
ชรบ.ชายแดนบ้านกรวด ดูแลบ้าน ให้อาหารสัตว์เลี้ยงแทนชาวบ้าน ที่อพยพหนี ท่ามกลางเสียงปืนดังต่อเนื่อง
'วิโรจน์' ชี้กองทัพไทยตอบโต้เขมรได้สัดส่วน อพยพประชาชนทำได้ดี
"วิโรจน์" ชมทหาร-ฝ่ายปกครอง อพยพประชาชนทำได้ดีระดับหนึ่ง กองทัพการข่าวแม่นยำ ตอบโต้ได้สัดส่วน ทำลายแสนยานุภาพ เขมร ชี้ ต้องบี้แจงนานาชาติ แนะขุดภาพถ่ายทางอากาศ เอาหลักฐานทุกอย่างโชว์ให้เห็น ทำไม ไทย ต้องบึ้มตึกสแกมเมอร์ เชื่อ เป็นเหตุผลรับฟังได้
อ.เฉลิมพระเกียรติ ยังต้องอพยพประชาชนแม้อยู่ห่างชายแดน เหตุปะทะไทย-กัมพูชารุนแรงขึ้น
การปะทะรุนแรงต่อเนื่อง นายอำเภอสั่งอพยพเพิ่ม หวั่นประชาชนไม่ปลอดภัย เผยศูนย์อพยพยังขาดแคลนอาหาร แพมเพิสเด็ก นม ขณะชาวบ้านผู้อพยพต่างสาปแช่งเขมรขอให้ฉิบหาย ไม่คิดถึงในหลวง ร.9 ที่เคยช่วยเหลือมาโดยตลอดตอนที่เขมรลำบาก

