
นับเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ในแวดวงการเมืองตะวันออกกลาง เมื่อ 4 ประเทศตะวันตก ได้แก่ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่าได้ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ นักการเมืองจากทั้งสี่ประเทศต่างย้ำถึงความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงสองรัฐ และเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างอิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ออกมาวิจารณ์การเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยย้ำว่านอกจากจะไม่มีวันได้เห็นรัฐปาเลสไตน์แล้ว อิสราเอลยังจะเร่งสร้างนิคมชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ให้มากขึ้นอีกด้วย
สหราชอาณาจักรและแคนาดาเป็นสมาชิก G7 กลุ่มแรกที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ จากการประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างน้อย 144 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติจากทั้งหมด 193 ประเทศได้ให้การรับรองแล้ว ตามรายงานของสำนักข่าว
“เพื่อฟื้นความหวังในสันติภาพสำหรับชาวปาเลสไตน์และอิสราเอล และสำหรับแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ อังกฤษยอมรับรัฐปาเลสไตน์” นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ โพสต์ข้อความดังกล่าวบนแพลตฟอร์ม X นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ของแคนาดา ก็แสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกัน พร้อมทั้งเสนอการสนับสนุนความร่วมมือของประเทศต่อการ “บรรลุถึงอนาคตที่สงบสุขสำหรับทั้งรัฐปาเลสไตน์และรัฐอิสราเอล”
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีสของออสเตรเลีย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยอมรับ “ความปรารถนาอันชอบธรรมและยาวนานของชาวปาเลสไตน์ที่มีต่อรัฐของตนเอง” เขากล่าวเสริมว่า ออสเตรเลียมีความตั้งใจที่จะใช้ขั้นตอนนี้เพื่อสนับสนุนความพยายามในการแก้ปัญหาแบบสองรัฐ ซึ่งมุ่งหวังให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ร่วมกับอิสราเอลอย่างสันติ
เปาโล รังเกล-รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของโปรตุเกส กล่าวถึง “การปฏิบัติตามนโยบายที่เป็นพื้นฐาน สอดคล้อง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง” โปรตุเกสมุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางสองรัฐ ซึ่งเป็น “หนทางเดียวที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน” ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูตอบโต้ด้วยการกล่าวว่า จะไม่มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้น “ผมมีข้อความที่ชัดเจนคือ จะไม่มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนอย่างเด็ดขาด” ประเทศที่ยอมรับรัฐปาเลสไตน์หลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสหัวรุนแรงในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ถือเป็นการให้รางวัลแก่ “การก่อการร้าย” นายกรัฐมนตรีอิสราเอลย้ำเตือนว่า รัฐปาเลสไตน์จะเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่และ “ไร้สาระ” สำหรับอิสราเอล
คาดว่าจะมีประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลราว 140 คนเดินทางไปเยือนนิวยอร์กในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อร่วมการอภิปรายทั่วไปของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดในวันจันทร์นี้ นอกรอบการอภิปรายทั่วไป ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสและรัฐบาลอื่นๆ ก็วางแผนที่จะประกาศรับรองการเป็นรัฐของปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาปฏิเสธขั้นตอนนี้โดยสิ้นเชิง ส่วนเยอรมนีนั้นไม่มีแผนที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ “ในระยะสั้น”
แรงกดดันจากนานาชาติต่ออิสราเอลทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซา นายกรัฐมนตรีของอังกฤษกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ลอนดอนได้ตัดสินใจ “ท่ามกลางความหวาดกลัวที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง” เขาเรียกร้องให้หยุดยิงอีกครั้ง และเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรัมป์เตือนอิสราเอล อย่าแทรกแซงซีเรีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนอิสราเอลไม่ให้แทรกแซงซีเรีย “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องรักษาการเจรจาที่มั่นคงและจริงใจกับซีเรีย และต้องไม่มีการกระทำใด ๆ ที่อาจขัดขวางการพัฒนาซีเรียให้กลายเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง” ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาเมื่อวันจันทร์ เขายังเสริมด้วยว่า “ยังมีโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”
เนทันยาฮู ประณามความรุนแรงจากกลุ่มหัวรุนแรงในเวสต์แบงก์
เนื่องด้วยการโจมตีหมู่บ้านชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ที่เพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จึงประณามผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่ก่อเ
5 ทศวรรษแห่ง ‘Green March’ โมร็อกโก! เรื่องราวของสันติภาพ, อำนาจอธิปไตย และการเจริญเติบโต
สถานเอกอัครราชทูตราขอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย เผยแพร่บทความเนื่องในโอกาสเป็นปีพิเศษที่ประเทศโมร็อกโกระลึกถึงการครบรอบ
เขมรยังลอบกัด! ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ขาขาดรายที่ 7
กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี เกิดเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง
ระวังขัดรธน.! ปฏิบัติตาม 'ถ้อยแถลง' เหตุเขมรยังเป็นภัยมั่นคงของไทย
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "คนไทย Shock…อนุทิน!" โดยระบุว่า 27 ตุลาคม 2568 วันแห่งความอัปยศของคนไทย
‘อนุทิน’บินด่วน ลงนามมาเลย์ สันติภาพเขมร
นายกฯ บินไปมาเลเซีย ลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา ย้ำเพื่อความปลอดภัย รักษาอธิปไตย หลังสหรัฐตอบรับเงื่อนเวลา ส่วนประชุมเอเปกที่เกาหลีใต้รอดูสถานการณ์ก่อน


