ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับแผนสันติภาพกาซาของทรัมป์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ถ่ายรูปร่วมกันที่ปีกตะวันตกของทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 29 กันยายน (Photo by SAUL LOEB / AFP)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาได้เสนอแผนยุติสงครามในฉนวนกาซา และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลยืนยันการสนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว

พันธมิตรทั้งสองเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสยอมรับแผนสันติภาพนี้ เพื่อยุติสงครามที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ตุลาคม 2023 ซึ่งได้จุดชนวนให้เกิดการโจมตีครั้งใหญ่ของอิสราเอลในดินแดนกาซา โดยเนทันยาฮูเตือนว่าเขาจะเดินหน้าแต่เพียงฝ่ายเดียวหากฮามาสปฏิเสธ

ประเด็นสำคัญของแผนนั้นมีดังนี้ :

- สงครามยุติลงและปล่อยตัวตัวประกัน -

อิสราเอลจะระงับปฏิบัติการทางทหารทันทีเมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน และกลุ่มฮามาสจะมีเวลา 72 ชั่วโมงในการส่งคืนตัวประกันทั้งหมดที่จับกุมไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 รวมถึงร่างของผู้เสียชีวิต

อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 250 คนที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต, ชาวกาซา 1,700 คนที่ถูกคุมขังระหว่างการทำสงคราม และร่างของชาวปาเลสไตน์ 15 ราย แลกกับร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแต่ละราย

ท้ายที่สุดอิสราเอลจะถอนตัวออกจากฉนวนกาซาเป็นระยะ

- ทรัมป์จะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน -

โดนัลด์ ทรัมป์จะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสันติภาพเปลี่ยนผ่านในกาซา ร่วมกับโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ

คณะกรรมการจะพิจารณา "แนวคิดการพัฒนาที่น่าจับตา" และเปลี่ยนดินแดนที่ถูกทำลายจากสงครามให้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีอัตราภาษีพิเศษ

- ไม่มีการบังคับอพยพ -

ตรงกันข้ามกับคำเรียกร้องของรัฐมนตรีฝ่ายขวาของรัฐบาลอิสราเอล ชาวปาเลสไตน์จะไม่ถูกบังคับให้ออกจากฉนวนกาซา และอิสราเอลจะไม่ผนวกดินแดนนี้

แต่แผนดังกล่าวระบุว่าองค์กรเปลี่ยนผ่านจะ "ส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ต่อและมอบโอกาสให้พวกเขาสร้างฉนวนกาซาที่ดีขึ้น"

- ฮามาสไม่มีบทบาท แต่มีการนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข -

กลุ่มฮามาสซึ่งเข้ายึดครองฉนวนกาซาในปี 2007 จะไม่มีบทบาทในการปกครองในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สมาชิกฮามาสจะได้รับการนิรโทษกรรม หากพวกเขามุ่งมั่นที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติและปลดอาวุธ โดยสมาชิกฮามาสจะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากฉนวนกาซาได้อย่างปลอดภัย

- กองกำลังรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศ -

แผนดังกล่าวเรียกร้องให้มี "กองกำลังรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศ" ประจำการในฉนวนกาซาโดยทันที โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศอาหรับ

กองกำลังนี้จะฝึกอบรมตำรวจปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และทำงานเพื่อประกันความมั่นคงกับอิสราเอลและประเทศเพื่อนบ้านอย่างอียิปต์

ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยแสดงความเต็มใจที่จะส่งกำลังทหารเข้าประจำการและให้ความช่วยเหลือเช่นกัน

- อนาคตที่ไม่แน่นอนของปาเลสไตน์และการเป็นรัฐ -

แผนดังกล่าวไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะมีรัฐปาเลสไตน์ แม้เนทันยาฮูจะให้คำมั่นสัญญามายาวนานว่าจะต่อต้านการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ โดยหลายชาติทั้งฝรั่งเศส, อังกฤษ และมหาอำนาจอื่นๆ รับรองรัฐปาเลสไตน์ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้

แผนดังกล่าวระบุว่า "ในที่สุดเงื่อนไขต่างๆ อาจพร้อมสำหรับเส้นทางที่น่าเชื่อถือสู่การกำหนดชะตากรรมด้วยตนเองและการเป็นรัฐของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเรายอมรับว่าเป็นความปรารถนาของชาวปาเลสไตน์"

แผนดังกล่าวยังเสนอให้รัฐบาลปาเลสไตน์มีบทบาทเมื่อดำเนินโครงการปฏิรูปเสร็จสิ้น และชี้ให้เห็นถึงโครงการริเริ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลที่ตั้งอยู่ในเมืองรามัลเลาะห์ซึ่งต่อต้านกลุ่มฮามาส

แต่เนทันยาฮูกล่าวในสุนทรพจน์ร่วมกับทรัมป์ว่า เขาไม่เห็นบทบาทใดๆ สำหรับรัฐบาลปาเลสไตน์ หากปราศจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และแท้จริง.