ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโรงเรียนถล่มในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น 17 ราย ขณะที่หน่วยกู้ภัยได้ใช้เครื่องจักรกลหนักเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกหลายสิบคนที่เชื่อว่ายังคงฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายยังคงดำเนินต่อไป ณ บริเวณอาคารถล่มของโรงเรียนประจำอิสลามอัลโคซินี ในเมืองซิโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม (Photo by Juni KRISWANTO / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า เหตุโรงเรียนถล่มในอินโดนีเซียยังคงไม่ยุติ โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 17 ราย ขณะที่หน่วยกู้ภัยได้ใช้เครื่องจักรกลหนักเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกหลายสิบคนที่เชื่อว่ายังคงฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ส่วนหนึ่งของอาคารเรียนประจำหลายชั้นพังถล่มลงมาอย่างกะทันหันตั้งแต่วันจันทร์ ขณะที่นักเรียนกำลังรวมตัวกันเพื่อประกอบพิธีละหมาดช่วงบ่าย
ยูธี บรามันตโย ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ (Basarnas) ระบุในแถลงการณ์ว่า ล่าสุดหน่วยกู้ภัยได้กู้ร่างผู้เสียชีวิต 2 รายและชิ้นส่วนร่างกายออกจากซากปรักหักพัง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 17 ราย
"กระบวนการค้นหายังคงดำเนินต่อไป โดยจะเน้นการกำจัดเศษซากไปทางทิศเหนือในพื้นที่ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับโครงสร้างหลัก" ยูธีกล่าว
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่ากู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ 9 รายในวันศุกร์
ซูฮาร์ยันโต หัวหน้าสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (BNPB) ระบุว่า หน่วยกู้ภัยกำลังค้นหาผู้สูญหาย 49 คน ก่อนที่จะกู้ร่างผู้เสียชีวิตชุดล่าสุด
ซูฮาร์ยันโตกล่าวว่า อาจพบผู้ประสบเหตุเพิ่มเติมได้ ขณะที่หน่วยกู้ภัยนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเคลียร์พื้นที่ที่เชื่อว่าอาจมีผู้ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
"หลังจากพบรายสุดท้ายเมื่อคืนที่ผ่านมา เรากำลังมุ่งเน้นไปที่การเคลียร์พื้นที่ครั้งใหญ่ โดยนำอุปกรณ์หนักเข้าไปในพื้นที่ที่พังถล่ม" เขากล่าว
การพังถล่มของอาคารโรงเรียนรุนแรงมากจนทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วละแวกนั้น ตามรายงานของผู้อยู่อาศัย
เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังตรวจสอบสาเหตุของการพังถล่ม แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าสัญญาณเบื้องต้นบ่งชี้ว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าปฏิบัติการกู้ภัยมีความซับซ้อน เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนในพื้นที่หนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่นๆ
แต่ครอบครัวของผู้สูญหายได้ตกลงกันในวันพฤหัสบดีว่าจะขอให้ใช้อุปกรณ์หนัก หลังผ่านพ้นช่วงเวลา 72 ชั่วโมงซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสรอดชีวิตสูงสุด
นอกจากนี้ ปฏิบัติการกู้ภัยยังชะงักลงเนื่องจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร ทำให้การค้นหาต้องหยุดชั่วครู่.

