โดนัลด์ ทรัมป์ออกเดินทางเยือนเอเชียเพื่อเจรจาที่มีเดิมพันสูงกับผู้นำจีน ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันลดกระแสคาดหวังต่อการนัดพบคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ

โลโก้ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ถูกถ่ายภาพก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม (Photo by Mohd RASFAN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เดินทางมุ่งหน้าสู่การเยือนเอเชียครั้งสำคัญที่มีทั้งการประชุมสุดยอดของภูมิภาคและโต๊ะเจรจาที่โลกจับตามอง กับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน
ทรัมป์เตรียมพบกับสีจิ้นผิงที่เกาหลีใต้ในวันสุดท้ายของการเดินทาง โดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงทุกอย่างเพื่อยุติสงครามการค้าอันขมขื่นระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
ชายวัย 79 ปีผู้นี้จะเดินทางเยือนมาเลเซียและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนเอเชียครั้งแรกของเขานับตั้งแต่กลับมาครองทำเนียบขาวได้อีกวาระเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดจากมาตรการภาษีศุลกากรและการทำข้อตกลงทางภูมิรัฐศาสตร์
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ทรัมป์จะลงนามข้อตกลงทางเศรษฐกิจหลายฉบับ เพื่อให้ชาวอเมริกันได้กลับสู่ภาวะคึกคักทางเศรษฐกิจโลก
มีกระแสพูดถึงความเป็นไปได้ในการพบปะกับคิมจองอึน ของเกาหลีเหนือ ในช่วงที่ทรัมป์อยู่ในเกาหลีใต้เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดระดับภูมิภาค
แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า "ยังไม่อยู่ในกำหนดการ" แม้ว่าผู้นำทั้งสองแสดงออกว่าต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้ซึ่งพวกเขาเคยสร้างไว้ในช่วงสมัยแรกของทรัมป์
จุดหมายปลายทางแรกของทรัมป์คือมาเลเซีย ซึ่งเขาจะเดินทางมาถึงในวันอาทิตย์นี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งเป็นการประชุมที่ทรัมป์ไม่ได้เข้าร่วมหลายครั้งในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรก
ทรัมป์เตรียมลงนามข้อตกลงการค้ากับมาเลเซีย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะดูแลการลงนามในข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไม่ละทิ้งความมุ่งมั่นในการคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้ได้
มีรายงานว่า ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล อาจพบกับทรัมป์นอกรอบการประชุมสุดยอด เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่สูญเสียไปเพราะความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน
จุดหมายปลายทางต่อไปของทรัมป์คือโตเกียว ซึ่งเขาจะเดินทางไปถึงในวันจันทร์ และเขาจะพบกับซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นในวันอังคาร
ญี่ปุ่นรอดพ้นจากภาษีศุลกากรที่เลวร้ายที่สุดที่ทรัมป์เรียกเก็บจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อยุติสิ่งที่เขาเรียกว่าดุลการค้าที่ไม่เป็นธรรมซึ่งกำลังฉ้อโกงสหรัฐอเมริกา
แต่ไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้คาดว่าจะอยู่ที่เกาหลีใต้ โดยทรัมป์มีกำหนดเดินทางถึงเมืองท่าปูซานทางตอนใต้ในวันพุธ ก่อนการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค)
ทรัมป์จะพบกับประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้, กล่าวปราศรัยในงานเลี้ยงอาหารกลางวันกับผู้นำภาคธุรกิจของเอเปค และพบปะกับผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมสุดยอดเอเปคที่เมืองคย็องจู
ในวันพฤหัสบดี ทรัมป์จะได้พบกับสี จิ้นผิง เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลับมาดำรงตำแหน่งวาระสอง
ตลาดโลกจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าทั้งสองจะสามารถหยุดยั้งสงครามการค้าที่เกิดจากมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของทรัมป์เมื่อต้นปีนี้ได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากข้อพิพาทเรื่องมาตรการควบคุมแร่ธาตุหายากของรัฐบาลปักกิ่ง
ในตอนแรกทรัมป์ขู่ว่าจะยกเลิกการประชุมและกำหนดมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรใหม่สำหรับข้อพิพาทด้านแร่ธาตุสำคัญ แต่เปลี่ยนใจและพร้อมจะเดินหน้าต่อไป
"ประธานาธิบดีสนใจที่จะหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจมากที่สุด" เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ กล่าว
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า หัวข้อแรกในวาระการประชุมกับสีจิ้นผิงคือเฟนทานิล เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลปักกิ่งควบคุมการค้ายาเสพติดและปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติดในละตินอเมริกา
สตีฟ แบนนอน อดีตที่ปรึกษาของทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกับประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการกระทำที่เสี่ยงของผู้นำสหรัฐฯ เนื่องจากจะเกิดผลกระทบมหาศาลหากการเจรจาล้มเหลว โดยเรียกมันว่า "การโยนลูกเต๋าเหล็ก"
แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าอย่าคาดหวังความก้าวหน้าใดๆ
ไรอัน แฮสส์ นักวิจัยอาวุโสของสถาบันบรูคกิงส์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นไปตามข้อมูลการดำเนินงานที่มีอยู่ มากกว่าที่จะเป็นจุดเปลี่ยนใดๆในความสัมพันธ์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' แนะรัฐบาลเดิน 2 ทาง 'หวดก้นเขมร-เอาใจนานาชาติ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา

