เฮอริเคนเมลิสซาเคลื่อนตัวเข้าสู่คิวบาแล้ว หลังจากสร้างความเสียหายอย่างหนักทั่วจาเมกาในฐานะพายุเฮอริเคนที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยพัดถล่มประเทศอย่างโหดร้ายทั้งลมแรงและฝนตกหนัก

ชายคนหนึ่งเดินไปตามถนนที่ถูกน้ำท่วมก่อนที่พายุเฮอริเคนเมลิสซาจะมาถึง ที่ย่านลาสคูคาราคัสในซานโตโดมิงโก สาธารณรัฐโดมินิกัน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม (Photo by Danny Polanco / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า พายุเฮอริเคน "เมลิสซา" ขึ้นฝั่งคิวบาตะวันออกแล้ว หลังใช้เวลาหลายชั่วโมงเคลื่อนตัวผ่านจาเมกาและกำลังลมลงเหลือระดับ 3 จากระดับสูงสุด ตามประกาศเตือนภัยล่าสุดของศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC)
"คาดว่าเมลิสซาจะยังคงเป็นเฮอริเคนที่มีกำลังแรงสูงเมื่อเคลื่อนตัวผ่านคิวบา, บาฮามาส และพื้นที่เบอร์มิวดา" ศูนย์เฮอริเคนฯ ระบุ พร้อมเสริมว่า เมลิสซาขึ้นฝั่งคิวบาในฐานะเฮอริเคนขนาดใหญ่ที่อันตรายอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีแอนดรูว์ โฮลเนสส์ ของจาเมกา ประกาศให้เกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และเจ้าหน้าที่ได้เตือนประชาชนให้อยู่ในที่กำบังเพื่อความปลอดภัยจากน้ำท่วมและดินถล่มที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพอากาศที่อันตรายยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าพายุเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดเคลื่อนตัวออกไปแล้วก็ตาม
ขนาดของความเสียหายที่เมลิสซาได้กระทำไว้ในจาเมกายังไม่ชัดเจน โดยการประเมินความเสียหายอย่างครอบคลุมอาจใช้เวลาหลายวัน แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และเครือข่ายการสื่อสารหยุดชะงักอย่างหนัก
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในช่วงที่พายุรุนแรงที่สุดคือกำลังลมแรงต่อเนื่อง 185 ไมล์ต่อชั่วโมง
รัฐบาลจาเมการะบุว่า โรงพยาบาลหลายแห่งได้รับความเสียหาย รวมถึงในเซนต์เอลิซาเบธ ซึ่งเป็นเขตชายฝั่งที่จมอยู่ใต้น้ำ โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเซนต์เอลิซาเบธนั้นกินพื้นที่เกือบทั้งหทด
"เซนต์เอลิซาเบธเป็นแหล่งผลิตอาหารของประเทศ แต่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จาเมกาทั้งหมดจึงต้องรับผลกระทบอย่างหนักจากพายุเมลิสซา" รัฐบาลระบุ
พายุเฮอริเคนลูกนี้ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยพัดถล่มจาเมกา โดยพัดขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุดซึ่งรุนแรงกว่าพายุที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์หลายลูกที่ผ่านมา รวมถึงพายุแคทรีนาในปี 2005 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมืองนิวออร์ลีนส์ของสหรัฐอเมริกา
แม้กระทั่งก่อนที่พายุเมลิสซาพัดถล่มจาเมกา มีรายงานผู้เสียชีวิต 7 รายอยู่ก่อนแล้ว แบ่งเป็น 3 รายในจาเมกา, 3 รายในเฮติ และ 1 รายในสาธารณรัฐโดมินิกัน โดยทั้งหมดได้รับการกล่าวโทษว่าเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย
รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของจาเมกากล่าวว่า ผลกระทบของพายุเมลิสซานั้นร้ายแรงมาก โดยอ้างอิงถึงบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม และโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง รวมถึงโรงพยาบาล
ความเห็นพ้องทางวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวางระบุว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์เป็นสาเหตุของพายุที่รุนแรงขึ้น ซึ่งเกิดบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ และอาจทำให้เกิดการทำลายล้างและน้ำท่วมร้ายแรงได้
ขณะที่พายุเมลิสซานั้นพัดอยู่เหนือจาเมกานานพอที่จะทำให้ฝนตกหนักเป็นพิเศษ
"การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์กำลังทำให้ด้านที่เลวร้ายที่สุดของพายุเฮอริเคนเมลิสซาเลวร้ายลงไปอีก" แดเนียล กิลฟอร์ด นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศกล่าว
ปัจจุบัน สหประชาชาติกำลังวางแผนขนส่งชุดบรรเทาทุกข์ประมาณ 2,000 ชุดจากสถานีบรรเทาทุกข์ในบาร์เบโดสไปยังจาเมกา เมื่อการเดินทางทางอากาศเป็นไปได้
สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติกล่าวกับสื่อมวลชนว่ายังมีแผนให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงคิวบาและเฮติ.

