รัฐสภาบัลแกเรียจัดตั้งคณะกรรมการ สอบสวนมูลนิธิ ‘โซรอส’

ในบัลแกเรีย รัฐสภาได้จัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนกิจกรรมการเคลื่อนไหวของ จอร์จ โซรอส-มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน และอเล็กซานเดอร์ โซรอส ลูกชายของเขา รวมถึงองค์กรพัฒนาเอกชนและมูลนิธิต่างๆ

เป้าหมายของคณะกรรมการซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันพุธ คือ “การระบุกระแสเงินทุนและค้นหาความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นกับพรรคการเมือง ผู้พิพากษา โรงเรียน สื่อมวลชน วงการธุรกิจ และสถาบันสาธารณะ” นักเคลื่อนไหวพากันวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐสภา โดยเปรียบเทียบกับการกระทำของรัฐบาลในรัสเซียและฮังการี

ความคิดริเริ่มในการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนของรัฐสภามาจากพรรคการเมืองของอดีตเจ้าพ่อสื่อผู้ทรงอิทธิพลอย่าง เดลยาน เปเยฟสกี นอกจากกลุ่มฝ่ายขวาจัดและฝ่ายสนับสนุนรัสเซียแล้ว ยังมีพรรคการเมืองอีกสองพรรคจากรัฐบาลผสมที่ลงมติเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ในขณะที่พรรครัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดคือ GERB (พลเมืองเพื่อการพัฒนายุโรปแห่งบัลแกเรีย) และพรรคพันธมิตร CC/BD ที่สนับสนุนยุโรป ลงมติไม่เห็นชอบ

จอร์จ โซรอส ซึ่งมีพื้นเพจากฮังการี ให้การสนับสนุนโครงการและองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วโลก ผ่านเครือข่ายมูลนิธิโอเพนโซไซตี้ (OSF) ที่เขาก่อตั้งขึ้น เป้าหมายที่ OSF ระบุไว้ ได้แก่ ธรรมาภิบาลการปกครองที่มีความรับผิดชอบและการส่งเสริมประชาธิปไตย

OSF ได้เปิดสาขาในบัลแกเรียเมื่อปี 1990 เพียงไม่กี่เดือนหลังจากการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในประเทศยุโรปตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ในปี 2023 นักการกุศล หรือในแวดวงธุรกิจเรียกว่า “พ่อมดการเงิน” วัย 95 ปีได้ประกาศลาออกจากองค์กรที่เขาก่อตั้ง และส่งต่อกิจการให้กับอเล็กซานเดอร์ ลูกชายของเขา

โซรอสถูกมองว่าเป็นศัตรูของนักประชานิยมฝ่ายขวาจำนวนมาก ซึ่งกล่าวหาเขาในหลายประเด็น เช่น พยายามโค่นล้มรัฐบาลที่ไม่พึงปรารถนาในหลายประเทศ หรือก่อให้เกิดวิกฤตผู้อพยพในยุโรป ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะชาวยิว โซรอสยังตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายต่อต้านชาวยิวหลายครั้ง

เทโอดอร์ สลาฟ-ผู้อำนวยการสถาบันบัลแกเรียเพื่อหลักนิติธรรม (BILI) กล่าวถึงคณะกรรมการสอบสวนโซรอสว่าเป็นความพยายามของรัฐสภา “ที่จะคงข้อจำกัดต่อกิจกรรมขององค์กรภาคประชาสังคมที่สำคัญ” เขากล่าวเสริมอีกว่านี่เป็น “สถานการณ์ที่คุ้นเคย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของเครมลิน และยังถูกนำไปใช้ในฮังการีด้วย”

อาเดลา คัตโชโนวา จากคณะกรรมการเฮลซิงกิของบัลแกเรียซึ่งมีมายาวนาน กล่าวหาสมาชิกรัฐสภาว่าจงใจเล็งเป้าไปที่ “พลเมืองและองค์กรที่เคลื่อนไหว”.