
เครื่องบินโดยสารของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์สจอดเทียบท่าที่สนามบินนานาชาติชิคาโกโอแฮร์ ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน หลายร้อยเที่ยวบินทั่วสหรัฐอเมริกาถูกยกเลิกหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์สั่งลดจำนวนเที่ยวบินเพื่อบรรเทาภาระงานของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศซึ่งทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ท่ามกลางภาวะชะงักงันของรัฐสภาเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณของสหรัฐฯ (Photo by KAMIL KRZACZYNSKI / AFP)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้รวมตัวในกระบวนการครั้งสำคัญที่สุดในการยุติการชัตดาวน์รัฐบาลในประวัติศาสตร์อเมริกา ด้วยการเปิดทางให้มีการอภิปรายอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับญัตติที่จะให้เงินทุนแก่หน่วยงานรัฐบาลกลางอีกครั้ง
วุฒิสภาที่นำโดยพรรครีพับลิกันอนุมัติการลงมติเกี่ยวกับขั้นตอนด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 40 เสียง ซึ่งเป็นการกำหนดขีดจำกัดระยะเวลาที่วุฒิสมาชิกจะสามารถอภิปรายมาตรการทางกฎหมายนี้ได้
สภาให้เวลาอภิปรายเพิ่มเติมสูงสุด 30 ชั่วโมงก่อนลงมติ ซึ่งต้องใช้คะแนนเสียงเพียง 50 เสียงจึงจะผ่าน
อย่างไรก็ตาม มติยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันควบคุมอยู่ก่อนที่จะส่งไปยังโต๊ะของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวัน
แต่ความคืบหน้านี้ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการยุติภาวะปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลที่ยืดเยื้อมานานกว่า 40 วัน, การระงับการให้เงินทุนแก่โครงการของรัฐบาลกลาง และผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศและอุตสาหกรรมสำคัญอื่นๆ
ความคืบหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการจัดหาเงินทุนให้กับรัฐบาลจนถึงเดือนมกราคม หลังจากเกิดการโต้เถียงกันเรื่องงบอุดหนุนด้านการดูแลสุขภาพ, สวัสดิการด้านอาหาร และการปลดพนักงานรัฐบาลกลางของทรัมป์
เมื่อข่าวนี้ถูกเปิดเผย ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดินทางมาถึงทำเนียบขาวหลังจากใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่บ้านพักของเขาในรัฐฟลอริดาว่า "ดูเหมือนว่าเรากำลังใกล้จะสิ้นสุดการชัตดาวน์แล้ว"
ทิม เคน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐเวอร์จิเนีย เป็นหนึ่งในแปดคนที่เข้าร่วมกับพรรครีพับลิกันเพื่อสนับสนุนมาตรการนี้ โดยกล่าวว่า "ผมต้องการระงับการทำร้ายพนักงานรัฐบาลกลาง"
รัฐเวอร์จิเนียเป็นที่ตั้งของพนักงานรัฐบาลกลาง 300,000 คน และข้อตกลงนี้จะคืนเงินให้พนักงานที่ถูกพักงานทั้งหมด และยกเลิกการเลิกจ้างพนักงานโดยรัฐบาลทรัมป์
เคนกล่าวเสริมว่า ร่างกฎหมายที่กำหนดให้รัฐบาลได้รับเงินทุนสนับสนุนในระดับก่อนการชัตดาวน์จะช่วยปกป้องพนักงานรัฐบาลกลางจากการถูกไล่ออกโดยไม่มีมูลความผิด, คืนเงินให้แก่ผู้ที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมในช่วงการชัตดาวน์ และรับรองว่าพนักงานรัฐบาลกลางจะได้รับเงินเดือนย้อนหลังตามที่กฎหมายกำหนด
แต่ชัค ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตลงมติคัดค้านมาตรการดังกล่าว โดยระบุว่า "พรรครีพับลิกันใช้เวลา 10 เดือนที่ผ่านมาในการรื้อถอนระบบสาธารณสุข, ทำให้ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้น และทำให้ชีวิตประจำวันของครอบครัวชาวอเมริกันยากลำบากขึ้น"
แต่วุฒิสมาชิกจอห์น ธูน จากพรรครีพับลิกัน แสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ที่อาจส่งผลต่อชาวอเมริกันที่กำลังเผชิญกับความตึงเครียดทางการเงินอย่างหนัก
ธูนกล่าวว่า "หลังจากความไม่แน่นอนมา 40 วัน ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่สามารถประกาศได้ว่าโครงการโภชนาการ, ทหารผ่านศึก และภารกิจสำคัญอื่นๆ จะได้รับเงินทุนสนับสนุนตลอดทั้งปี"
ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีคมนาคมกล่าวเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า หากการชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป จำนวนเที่ยวบินที่ถูกลดจำนวนลงจะทวีคูณขึ้น แม้ว่าชาวอเมริกันจะเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้าปลายเดือนนี้บ้างแล้วก็ตาม
ดัฟฟีเตือนว่าการเดินทางทางอากาศของสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีเที่ยวบินอีกหลายพันเที่ยวบินถูกยกเลิกหรือล่าช้าในช่วงสุดสัปดาห์
จำนวนการยกเลิกเที่ยวบินทั้งภายในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งขาเข้าและขาออกของประเทศพุ่งสูงกว่า 3,000 เที่ยวบิน และมีความล่าช้ามากกว่า 10,000 เที่ยวบิน ภายในเย็นวันอาทิตย์ ตามข้อมูลจาก FlightAware ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มติดตามเที่ยวบิน
หากไม่มีข้อตกลง ดัฟฟีเตือนว่าชาวอเมริกันจำนวนมากที่วางแผนเดินทางในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้าวันที่ 27 พฤศจิกายนจะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ เพราะจะไม่มีเที่ยวบินเปิดให้บริการมากนัก
ตารางเที่ยวบินอาจใช้เวลาหลายวันกว่าจะฟื้นตัวหลังจากมาตรการชัตดาวน์สิ้นสุดลง และเงินทุนจากรัฐบาลกลาง รวมถึงเงินเดือน จะเริ่มไหลกลับมาอีกครั้ง
ตามรายงานระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะคืนเงินให้กับโครงการแสตมป์อาหาร SNAP ซึ่งช่วยเหลือชาวอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนในการจ่ายค่าอาหาร และจะทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีการลงมติเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการอุดหนุนด้านการดูแลสุขภาพที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้.


