หน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายของอินเดียได้ทำการสอบสวนเหตุการณ์ระเบิดรถยนต์ในเมืองหลวงเป็นวันที่สาม ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 12 รายแล้ว

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียกำลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดใกล้ป้อมแดง ที่โรงพยาบาลโลกนายัก ในกรุงนิวเดลี เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน (Photo by Indian Press Information Bureau (PIB) / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดรถยนต์ในกรุงนิวเดลีของอินเดียผ่านพ้นมาเป็นวันที่สาม แต่หน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายยังคงสอบสวนหาสาเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 12 รายแล้ว
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เรียกเหตุการณ์ระเบิดเมื่อเย็นวันจันทร์ว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิด และให้คำมั่นว่าผู้เกี่ยวข้องจะต้องเผชิญกระบวนการยุติธรรม
ตำรวจยังไม่ให้รายละเอียดที่แน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุของการระเบิดอย่างรุนแรงใกล้กับป้อมแดงอันเก่าแก่ในย่านโอลด์เดลีที่พลุกพล่านของเมืองหลวง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดของอินเดีย และเป็นสถานที่จัดสุนทรพจน์วันประกาศอิสรภาพประจำปีของนายกรัฐมนตรี
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่มีพลเรือนชาวฮินดูเสียชีวิต 26 รายในพาฮาลแกมซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวในแคชเมียร์และส่งผลให้เกิดการปะทะกับปากีสถาน
"มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 30 คน" ริตู ซักเซนา หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของโรงพยาบาล LNJP ในเดลี กล่าว
สำนักงานสอบสวนแห่งชาติของอินเดียกำลังดำเนินการสืบสวนเหตุระเบิดครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ตำรวจระบุว่าได้จับกุมแก๊งอาชญากรและยึดวัตถุระเบิดกับปืนไรเฟิลจู่โจม
ตำรวจกล่าวว่าชายกลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มจาอิช-อี-โมฮัมเหม็ด ซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามิสต์ในปากีสถาน และกลุ่มอันซาร์ กัซวัต-อุล-ฮินด์ ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของกลุ่มญิฮาดอัลกออิดะห์ในแคชเมียร์ โดยทางการอินเดียระบุว่าทั้งสองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย
ทั้งนี้ รัฐมนตรีมหาดไทยทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมด้านความมั่นคงหลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อวันจันทร์ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้กระทำผิดทุกคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อินเดีย มีแผนสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังภูฏานเป็นครั้งแรก
ราชอาณาจักรภูฏานในเทือกเขาหิมาลัย เตรียมขยายเส้นทางรถไฟสองสายให้ใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านและคู่ค้าสำคัญที่สุดอย่างอินเดียมา


