สีจิ้นผิงประกาศกระชับสัมพันธ์พระมหากษัตริย์ไทยที่เสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งแรก

ประธานาธิบดีจีนประกาศกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับประเทศไทย ระหว่างการสนทนากับพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จเยือนนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 50 ปีก่อน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณและสมเด็จพระราชินีสุทิดาแห่งราชอาณาจักรไทยเสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีต้อนรับ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง โดยมีประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนและเผิง ลี่หยวน ภริยา ถวายการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน (Photo by TINGSHU WANG / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งแทบจะไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการเลยนับตั้งแต่ทรงครองราชย์เมื่อ 9 ปีก่อน ได้เสด็จฯ เยือนกรุงปักกิ่งของจีนอย่างเป็นทางการครั้งแรกพร้อมกับพระราชินีสุทิดา

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกล่าวถึงทั้งสองประเทศว่าเปรียบเสมือน "ครอบครัว" และกล่าวกับราชวงศ์ว่าจีนจะเสริมสร้างความสอดคล้องเชิงยุทธศาสตร์กับประเทศไทย ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี

เขากล่าวว่าความร่วมมือจะขยายวงกว้างขึ้นในเส้นทางรถไฟจีน-ไทย รวมถึงในสาขาที่กำลังเติบโต เช่น ปัญญาประดิษฐ์, อวกาศ และเศรษฐกิจดิจิทัล

"การที่กษัตริย์วชิราลงกรณ์ทรงเลือกจีนเป็นประเทศสำคัญประเทศแรกสำหรับการเสด็จเยือนอย่างเป็นทางการ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำคัญอย่างสูงที่พระองค์ทรงมอบให้กับความสัมพันธ์จีน-ไทย" ผู้นำจีนกล่าวสรรเสริญ

ไทยเคยเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเย็น แต่ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และปักกิ่งก็อบอุ่นขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งสองประเทศได้เพิ่มการปราบปรามร่วมกันในการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและแก๊งพนันผิดกฎหมายที่ดำเนินการในพื้นที่ชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมียนมาและมักมุ่งเป้าไปที่ชาวจีน

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไทยได้ส่งตัวเฉอ จื้อเจียง ชาวจีนผู้ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับแหล่งฉ้อโกงใหญ่ในเมียนมาและถูกควบคุมตัวในไทยตั้งแต่ปี 2022

จีนยังผลักดันให้มีการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของรัฐบาลปักกิ่ง หลังจากการปะทะกันบริเวณชายแดนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย

การหยุดยิงครั้งนี้ค่อนข้างเปราะบาง โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไทยได้ระงับการบังคับใช้ชั่วคราว หลังจากอ้างว่าระเบิดที่เพิ่งวางใหม่ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และในเวลาต่อมาทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อกล่าวหาเรื่องการปะทะกันครั้งใหม่ตามแนวชายแดน.