เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือผู้ติดค้างจากหลังคาบ้านที่จมอยู่ใต้น้ำ จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ตอนกลางของเวียดนาม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย

สภาพน้ำท่วมในเมืองญาจาง จังหวัดคั้นห์หว่า บริเวณชายฝั่งทะเลของเวียดนาม เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน (Photo by Duc Thao / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า ฝนตกหนักต่อเนื่องพัดถล่มภาคกลางตอนใต้ของเวียดนามมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมริมชายฝั่งหลายแห่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหลายระลอก
ภาพถ่ายจากสำนักข่าวเอเอฟพีเผยให้เห็นว่า ญาจางซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดอันบริสุทธิ์ ถูกน้ำท่วมจนอาคารหลายช่วงตึกและรถยนต์หลายร้อยคันจมอยู่ใต้น้ำ
หน่วยกู้ภัยในจังหวัดยาลายและดั๊กลักทางตอนกลาง ได้งัดหน้าต่างและเจาะทะลุหลังคาเพื่อช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยที่ติดค้างจากน้ำท่วมสูงในวันพุธ เช่นเดียวกับกระทรวงกลาโหมที่ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกไปค้นหาผู้ประสบภัย ตามรายงานของสื่อทางการ
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 รายนับตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งผู้ที่ยังสูญหายอีก 5 คน
บ้านเรือนกว่า 43,000 หลังจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ถนนสายหลักหลายสายยังคงถูกปิดกั้นเนื่องจากดินถล่ม
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติเวียดนามรายงานว่า ยังมีดินถล่มรุนแรงในพื้นที่ราบสูงรอบเมืองดาลัด โดยบางพื้นที่มีฝนตกหนักถึง 600 มิลลิเมตร (2 ฟุต) นับตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
บริษัทรถไฟฮานอยที่ดำเนินการโดยรัฐบาล ประกาศระงับการเดินรถไฟหลายสายที่เชื่อมต่อภาคเหนือและภาคใต้ เนื่องจากน้ำท่วม
สื่อของรัฐรายงานว่า สายด่วนฉุกเฉินมีปริมาณการโทรเข้ามากผิดปกติเมื่อคืนวันพุธ เนื่องจากระดับน้ำทั่วภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้นฉับพลัน
ระดับน้ำในแม่น้ำบาในจังหวัดดั๊กลัก สูงเกินสถิติของปี 1993 ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ขณะที่แม่น้ำไกในจังหวัดคั้นห์หว่าก็พุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่เช่นกัน ตามรายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนามระบุว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 279 ราย และสร้างความเสียหายมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้มีแนวโน้มที่จะมีฝนตกหนักในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ระบุถึงรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งทำให้สภาพอากาศรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้งและก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้น.


