โดนัลด์ ทรัมป์เสนอให้ใช้โทษประหารชีวิตกับผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตที่เรียกร้องกองทัพให้ปฏิเสธคำสั่งที่ผิดกฎหมาย โดยเรียกคนเหล่านั้นว่าผู้ทรยศชาติที่มีพฤติกรรมก่อกบฏ
อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ จากมุมมองระยะไกล (Photo by Heather Diehl / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตที่เรียกร้องกองทัพให้ปฏิเสธคำสั่งใดๆที่ผิดกฎหมายของผู้นำ โดยเรียกพวกเขาว่าคนทรยศชาติและควรได้รับโทษประหารชีวิตจากความพยายามก่อกบฏ
"ชั่วร้ายอย่างที่สุด" คือคำที่พรรคเดโมแครตใช้ประณามทันทีถึงคำขู่ของทรัมป์ที่มีต่อวุฒิสมาชิกและผู้แทนราษฎรทั้ง 6 คน ซึ่งได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวในวิดีโอที่โพสต์บน X เมื่อวันอังคาร
ทรัมป์กล่าวบน Truth Social ว่า "นี่มันแย่มาก และเป็นอันตรายต่อประเทศของเรา คำพูดของพวกเขาไม่ควรได้รับการยอมรับ พฤติกรรมที่เสื่อมทรามจากคนทรยศชาติ!!! จับพวกมันไปขังซะ"
จากนั้นเขาก็ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมในภายหลังว่า "พฤติกรรมที่เสื่อมทราม มีโทษถึงตาย!"
ชายวัย 79 ปีผู้นี้ยังได้โพสต์ข้อความจากผู้ใช้รายหนึ่งที่เรียกร้องให้เขา "แขวนคอคนเหล่านั้น" และกล่าวว่าประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ อย่างจอร์จ วอชิงตัน ก็คงทำเช่นเดียวกัน
นักรณรงค์หาเสียงของพรรคเดโมแครตทุกคนล้วนมีภูมิหลังในกองทัพหรือหน่วยข่าวกรอง รวมถึงวุฒิสมาชิกมาร์ค เคลลี ซึ่งเป็นอดีตทหารเรือและนักบินอวกาศของนาซา และวุฒิสมาชิกเอลิสซา สล็อตกิน ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอในอิรัก
"คุณสามารถปฏิเสธคำสั่งที่ผิดกฎหมายได้" กลุ่มนักการเมืองจากพรรคเดโมแครตกล่าวในวิดีโอ โดยกล่าวหาว่าทรัมป์เอาทหารในเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของประเทศไปใช้สู้กับพลเมืองอเมริกัน
แม้พวกเขาไม่ได้ระบุชัดเจนว่าคำสั่งใดที่พวกเขากำลังอ้างถึง แต่ทรัมป์ได้สั่งให้กองกำลังรักษาดินแดนเข้าไปแทรกแซงยังหลายเมืองของสหรัฐฯ เพื่อพยายามควบคุมความไม่สงบที่ลุกลามและรุนแรง ซึ่งหลายกรณีขัดต่อความต้องการของทางการท้องถิ่น
ในต่างประเทศ ทรัมป์ได้สั่งโจมตีเรือขนยาเสพติดหลายลำที่ถูกกล่าวหาว่าลักลอบขนยาเสพติดในทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 ราย และผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย
ต่อมา แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของทรัมป์ โดยกล่าวว่าประธานาธิบดีไม่ได้ต้องการเห็นสมาชิกรัฐสภาถูกประหารชีวิตจริงๆ
เธอยังตั้งคำถามกลับว่า "ทำไมไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่สมาชิกรัฐสภาเหล่านี้กำลังทำเพื่อปลุกปั่นและยุยงให้เกิดความรุนแรงล่ะ"
ขณะที่พรรคเดโมแครตออกมาตอบโต้อย่างรุนแรงต่อคำพูดของทรัมป์
"ทรัมป์เพิ่งเรียกร้องให้ประหารชีวิตเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตที่มาจากการเลือกตั้ง น่ารังเกียจสิ้นดี!" พรรคฯโพสต์บนบัญชี X อย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ กลุ่มบุคคลในวิดีโอประกาศว่าจะไม่หวั่นไหวต่อคำขู่ของทรัมป์ โดยกล่าวว่าพวกเขาคือทหารผ่านศึกและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติที่รักประเทศนี้และได้ให้คำสาบานว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
"คำสาบานนี้จะคงอยู่ตลอดชีวิต และเราตั้งใจที่จะรักษาไว้ ซึ่งไม่มีการข่มขู่หรือการเรียกร้องความรุนแรงใด ๆ ที่จะหยุดยั้งเราจากพันธกรณีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ได้" พวกเขากล่าว
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต กล่าวหาทรัมป์ว่าโหมกระพือไฟแห่งความรุนแรงในหมู่ผู้สนับสนุนของพรรคฯ
"เขากำลังจุดไม้ขีดไฟในประเทศที่โชกไปด้วยน้ำมันเบนซินทางการเมือง" ชูเมอร์กล่าวในการปราศรัยต่อวุฒิสภา
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยอ้างถึงโทษประหารชีวิตเมื่อปี 2023 ในความเกี่ยวข้องกับมาร์ค มิลลีย์ อดีตนายทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีอย่างเปิดเผย
หลังจากที่มิลลีย์บอกกับนักข่าวบ็อบ วูดเวิร์ด ว่าเขาแอบโทรหาคู่หูชาวจีนท่ามกลางความตึงเครียดหลังจากผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม 2021 ซึ่งทรัมป์ตอบสนองมิลลีย์ด้วยการกล่าวว่า "หากเป็นในอดีต การกระทำเช่นนี้คือโทษประหารสถานเดียว"
ความคิดเห็นเกี่ยวกับโทษประหารชีวิตของทรัมป์เกิดขึ้นในขณะที่เขากำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองที่อาจจะมากที่สุดนับตั้งแต่กลับเข้าทำเนียบขาวในเดือนมกราคม
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อิทธิพลของเขาที่มีต่อพรรครีพับลิกันสั่นคลอนจากเรื่องอื้อฉาวของเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ นักการเงินผู้เสื่อมเสียชื่อเสียง และความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งที่นิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์ และเวอร์จิเนีย ซึ่งพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย.
