เจ้าหน้าที่ยูเครนและสหรัฐฯ จะพบกันที่สวิตเซอร์แลนด์ในเร็วๆ นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการยุติสงครามกับรัสเซียที่ออกแบบโดยรัฐบาลวอชิงตันซึ่งแก้ไขให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของรัฐบาลมอสโก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน (Photo by Jim WATSON and Tetiana DZHAFAROVA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า ยูเครนและสหรัฐฯ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปหารือกันที่สวิตเซอร์แลนด์เร็วๆ นี้ ในเรื่องแผนการยุติสงครามกับรัสเซียที่ถูกแก้ไขและออกแบบโดยรัฐบาลวอชิงตันเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของรัฐบาลมอสโก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ให้เวลายูเครนน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ในการอนุมัติแผน 28 ข้อเพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปี ซึ่งจะทำให้ประเทศที่ถูกรุกรานต้องสละดินแดน, ลดกำลังทหาร และให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมนาโต
ขณะเดียวกัน พันธมิตรยุโรปของยูเครนซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในร่างข้อตกลง ระบุว่าแผนดังกล่าวจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากพวกเขาต้องเร่งหาข้อเสนอตอบโต้เพื่อเสริมสร้างจุดยืนของรัฐบาลเคียฟในการประชุมสุดยอด G20 ที่แอฟริกาใต้
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวว่า "ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีการหารือกับพันธมิตรเกี่ยวกับขั้นตอนที่จำเป็นในการยุติสงคราม" และได้ส่งอันเดรย์ เยอร์มัค ผู้ช่วยคนสำคัญของเขาไปเป็นตัวแทนร่วมเจรจา
เซเลนสกีกล่าวเสริมว่า "ตัวแทนของเรารู้วิธีปกป้องผลประโยชน์ของชาติยูเครน และรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียรุกรานเป็นครั้งที่สาม"
โดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากฝรั่งเศส, อังกฤษ และเยอรมนี จะเข้าร่วมการเจรจาในเช้าวันอาทิตย์ที่เจนีวา
รุสเทม อูเมรอฟ เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเครน ซึ่งเข้าร่วมในการเจรจาครั้งนี้ด้วย ระบุก่อนหน้านี้ว่าสวิตเซอร์แลนด์จะเป็นสถานที่สำหรับการเจรจา
"นี่เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งของการเจรจาที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และมีเป้าหมายหลักเพื่อปรับวิสัยทัศน์ของเราสำหรับขั้นตอนต่อไป" อูเมรอฟ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมกล่าวเสริม โดยเขาเคยเป็นผู้นำการเจรจากับรัสเซียในตุรเคียหลายรอบ ซึ่งมีเพียงการแลกเปลี่ยนนักโทษและการส่งศพทหารกลับประเทศเท่านั้น
มีการกล่าวอ้างว่า การเจรจาจะรวมถึงตัวแทนของสหพันธรัฐรัสเซีย แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันในทันทีจากรัสเซียว่าจะเข้าร่วมการเจรจาหรือไม่
"แผนฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ในการยุติสงครามในยูเครนเป็นพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติม" บรรดาผู้นำตะวันตกที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ที่แอฟริกาใต้กล่าวเมื่อวันเสาร์
"เรายึดมั่นในหลักการที่ว่าพรมแดนต้องไม่เปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง เรายังกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอจำกัดกำลังทหารของยูเครน ซึ่งจะทำให้ยูเครนเสี่ยงต่อการถูกโจมตีในอนาคต" ผู้นำประเทศสำคัญๆ ในยุโรป รวมถึงแคนาดาและญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ร่วม
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสได้ส่งสารอันน่าเศร้าไปยังที่ประชุม โดยกล่าวว่า "กลุ่ม G20 อาจกำลังจะถึงจุดสิ้นสุดของวัฏจักร" และเสริมว่ากลุ่ม G20 กำลังดิ้นรนเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์สำคัญๆ ทั่วโลก โดยอ้างถึงแผนฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ในการแก้ไขสงครามยูเครน
สหราชอาณาจักร, เยอรมนี และฝรั่งเศส กลายเป็นผู้สนับสนุนยูเครนรายสำคัญ โดยให้การสนับสนุนทั้งทางการทหารและการเงินที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สหรัฐฯ ลดการสนับสนุนลงทันทีที่ทรัมป์กลับเข้ารับตำแหน่งวาระสอง
เซเลนสกีกล่าวเมื่อวันศุกร์ในการปราศรัยต่อประเทศว่า ยูเครนกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ และเสริมว่าเขาจะเสนอทางเลือกอื่นแทนข้อเสนอของทรัมป์
"แรงกดดันต่อยูเครนเป็นหนึ่งในแรงกดดันที่หนักหนาสาหัสที่สุด ยูเครนอาจต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากอย่างยิ่ง นั่นคือการสูญเสียศักดิ์ศรี หรือความเสี่ยงที่จะสูญเสียพันธมิตรสำคัญ" เซเลนสกีกล่าวในสุนทรพจน์ โดยอ้างถึงความเป็นไปได้ที่จะตัดขาดกับรัฐบาลวอชิงตัน
ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้แสดงความเห็นไว้ว่า แผนดังกล่าวอาจเป็นการวางรากฐานสำหรับการแสวงหาสันติภาพขั้นสุดท้าย และขู่ว่าจะยึดดินแดนเพิ่มเติมหากยูเครนถอนตัวจากการเจรจา
ปัจจุบัน กองทัพรัสเซียซึ่งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีขึ้นและมีจำนวนกำลังพลมากขึ้น กำลังค่อยๆ ขยายกำลังพลในแนวรบอันยาวไกลอย่างช้าๆ แต่มั่นคง
ขณะเดียวกัน ชาวยูเครนกำลังเผชิญกับฤดูหนาวที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมอสโกได้ดำเนินการทิ้งระเบิดอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ร่วมหารือแผนสันติภาพกาซาระยะที่ 2
ผู้ไกล่เกลี่ยในตะวันออกกลางอย่าง อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ได้พบปะกันที่กรุงไคโรเมื่อวันอังคาร เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพกาซาระยะที่สองของสหรัฐฯ การประชุมมีหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอียิปต์และตุรเกียเข้าร่วมด้วย ตามรายงานของสถานีข่าวอัล-คาเฮรา นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด บิน อัลดุลเราะห์มาน อัล-ธานี แห่งกาตาร์ ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน


