ทางการศรีลังกาออกคำเตือนดินถล่มอีกครั้ง โดยมีฝนตกหนักในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลนก่อนหน้า ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 627 ราย

พระสงฆ์กำลังเดินผ่านต้นไม้ที่โค่นล้มและบ้านเรือนที่เสียหายจากดินถล่ม หลังพายุไซโคลนดิตวะฮ์พัดถล่มหมู่บ้านอูลาปาเน ในเมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า การมาของพายุโซนร้อนและฝนมรสุมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ส่งผลให้เกิดดินถล่ม, น้ำท่วมพื้นที่กว้างใหญ่ และตัดขาดชุมชนจากป่าฝนบนเกาะสุมาตราไปยังพื้นที่เพาะปลูกบนที่สูงของศรีลังกา
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,826 รายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่พัดถล่มศรีลังกา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนามในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีอินโดนีเซียประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะเพิ่มความช่วยเหลือ โดยมีผู้ประท้วงรวมตัวกันแสดงความไม่พอใจหลังจากยอดผู้เสียชีวิตในประเทศทะลุ 900 ราย
ขณะที่ชาวศรีลังกามากกว่า 2 ล้านคน หรือเกือบ 10% ของประชากร ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและดินถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากอิทธิพลของไซโคลนดิตวะฮ์ ซึ่งเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ
ศูนย์จัดการภัยพิบัติแห่งชาติศรีลังการะบุว่า พายุมรสุมทำให้ฝนตกหนักขึ้นและทำให้ดินเนินเขาไม่มั่นคง รวมถึงในพื้นที่ภูเขาตอนกลางและพื้นที่ตอนกลางตะวันตกเฉียงเหนือ
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการใช้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินเพื่อส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังชุมชนต่างๆ ที่ถูกตัดขาดจากเหตุดินถล่มในภาคกลางของประเทศ
กองทัพอากาศศรีลังการะบุว่าได้รับสิ่งของบรรเทาทุกข์จากเมียนมาจำนวนหนึ่งลำ ซึ่งเป็นความช่วยเหลือจากต่างประเทศชุดล่าสุด
รัฐบาลยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 627 ราย โดย 471 รายมาจากพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดที่ปลูกชาอันอุดมสมบูรณ์ ขณะที่อีก 190 คนยังคงสูญหาย
ศูนย์จัดการภัยพิบัติฯระบุว่า จำนวนผู้พักอาศัยในค่ายผู้ประสบภัยที่ดำเนินการโดยรัฐลดลงเหลือ 90,000 คน จากระดับสูงสุด 225,000 คน หลังจากระดับน้ำท่วมลดลงทั่วเกาะในวันอาทิตย์
ทั้งนี้ มีบ้านเรือนกว่า 80,000 หลังได้รับความเสียหาย รวมถึงบ้านเรือนเกือบ 5,000 หลังที่ถูกทำลายจนหมดสิ้น
รัฐบาลโคลัมโบได้เปิดเผยมาตรการชดเชยครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูบ้านเรือนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกาะแห่งนี้ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากวิกฤตในปี 2022
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การฟื้นฟูและบูรณะอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุเมื่อวันศุกร์ว่ากำลังพิจารณาคำขอเงินเพิ่มเติม 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากศรีลังกาเพื่อใข้ในการฟื้นฟูดังกล่าว
ประธานาธิบดีศรีลังกากล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ว่า เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตครั้งล่าสุดนี้เพียงอย่างเดียว
ในอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโตเดินทางไปยังจังหวัดอาเจะห์บนเกาะสุมาตราซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยการเยือนครั้งนี้เป็นไปเพื่อเร่งรัดการตอบสนองและฟื้นฟูสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลจาการ์ตายังคงเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องให้ประกาศภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งจะช่วยประหยัดทรัพยากรและช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลประสานงานการรับมือได้ โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมในอินโดนีเซียล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 921 ราย และยังคงสูญหายอีก 392 คน
หลังจากเดินทางถึงกรุงบันดาอาเจะห์ เมืองหลวงของจังหวัดได้ไม่นาน ปราโบโวให้สัญญาว่า "เราจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ และหลังจากนั้นเราจะซ่อมแซมสะพานทั้งหมด โดยหวังว่าจะเสร็จสิ้นภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์".

