สองมือปืนกราดยิง 15 ศพในงานเทศกาลชาวยิวที่หาดบอนไดของออสเตรเลีย

มือปืนสองคนร่วมก่อเหตุสังหารผู้คนไป 15 ราย ที่หาดบอนไดในซิดนีย์ ซึ่งตำรวจออสเตรเลียระบุว่าเป็นการก่อการร้ายต่อการชุมนุมในเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว

ผู้คนกำลังวิ่งหนีออกจากหาดบอนไดของซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลังจากมือปืนสองคนเปิดฉากกราดยิงในงานชุมนุมเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม (Photo by Mike Ortiz / UGC / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า เกิดเหตุมือปืนสองคนกราดยิงผู้คนที่มาชุมนุมเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว ที่หาดบอนไดในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีผู้เสียชีวิต 15 ราย ด้านผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญตาย 1 ราย และสาหัส 1 ราย

ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 40 คนส่งโรงพยาบาลในพื้นที่จากชายหาดซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โดยมีผู้บาดเจ็บ 5 คนอยู่ในอาการสาหัส ส่วนผู้บาดเจ็บอื่นๆ อาการหนักและทรงตัว

"นี่เป็นการโจมตีเป้าหมายต่อชาวออสเตรเลียเชื้อสายยิวในวันแรกของเทศกาลฮานุกกะห์ ซึ่งควรจะเป็นวันแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองศรัทธา แต่การกระทำที่ชั่วร้ายนี้เป็นการต่อต้านชาวยิวและเป็นการก่อการร้ายที่กระทบกระเทือนจิตใจของชาติเรา" นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีกล่าว และเสริมว่า "การโจมตีชาวออสเตรเลียเชื้อสายยิวคือการโจมตีชาวออสเตรเลียทุกคน" พร้อมยกย่องพลเมืองดีที่เข้าต่อสู้และปลดอาวุธมือปืนคนหนึ่งได้ว่าเป็น "วีรบุรุษ"

หน่วยงานตำรวจประกาศว่าเหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้เป็น "เหตุก่อการร้าย" และระบุว่าพวกเขาพบอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องในรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่งใกล้ชายหาด ซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตไปแล้ว

ตำรวจกล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุถูกยิงเสียชีวิต และอีกคนอยู่ในอาการสาหัส

เหตุกราดยิงเกิดขึ้นระหว่างงาน "Hanukkah by the Sea" ประจำปีที่หาดบอนได ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน

ผู้นำและรัฐบาลทั่วโลกต่างแสดงความรังเกียจและประณามเหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้ รวมถึงในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยประธานสหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ระบุว่า "ยุโรปยืนเคียงข้างออสเตรเลียและชุมชนชาวยิวทุกแห่ง"

ขณะที่ประธานาธิบดีอิสราเอลประณามโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่าเป็น "การโจมตีชาวยิวอย่างโหดร้าย" และเรียกร้องให้ทางการออสเตรเลียเพิ่มความพยายามในการจัดการกับการต่อต้านชาวยิว

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวหาว่ารัฐบาลออสเตรเลียเป็นผู้ปลุกปั่นความรู้สึกต่อต้านชาวยิวในช่วงก่อนเกิดเหตุกราดยิง

กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านซึ่งให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์มานานหลายปี ประณามการโจมตีอย่างรุนแรงในซิดนีย์เช่นกัน

หน่วยบริการฉุกเฉินได้รับแจ้งเหตุยิงปืนครั้งแรกเมื่อเวลา 18.47 น. ตามเวลาท้องถิ่น

มีรายงานว่าเมื่อเสียงปืนดังขึ้นที่ชายหาดทางตะวันออกของซิดนีย์ ฝูงชนต่างวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว โดยหาดดังกล่าวเป็นสถานที่ที่มีนักเล่นกระดานโต้คลื่น, นักว่ายน้ำ และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์

เนินเขาที่ปกคลุมด้วยหญ้าซึ่งมองเห็นหาดบอนไดเต็มไปด้วยสิ่งของที่ถูกทิ้งไว้จากผู้คนที่กำลังหนีตาย รวมถึงรถเข็นเด็กที่ถูกทิ้งไว้ด้วย ตามรายงานของนักข่าวเอเอฟพี ณ ที่เกิดเหตุ

ขณะที่อาวุธปืนลูกซองแบบปั๊มแอคชั่นวางอยู่ข้างต้นไม้ริมชายหาด

ทั้งนี้ การโจมตีต่อต้านชาวยิวหลายครั้งได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชุมชนชาวยิวในออสเตรเลีย นับตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 และสงครามในฉนวนกาซาที่ตามมา

รัฐบาลออสเตรเลียกล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีสองครั้ง และขับไล่เอกอัครราชทูตเตหะรานออกไปเมื่อเกือบสี่เดือนที่แล้ว

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวในเดือนสิงหาคม โดยอ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองว่า รัฐบาลเตหะรานสั่งการให้เผาร้านกาแฟโคเชอร์ในย่านบอนไดของซิดนีย์ในเดือนตุลาคม 2024 และการวางเพลิงครั้งใหญ่ที่โบสถ์ยิวอาดัส อิสราเอลในเมลเบิร์นเมื่อเดือนธันวาคม 2024 แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บจากการโจมตีทั้งสองครั้ง

โรเบิร์ต เกรกอรี ประธานสมาคมชาวยิวแห่งออสเตรเลียกล่าวว่า การกราดยิงที่หาดบอนไดถือเป็นโศกนาฏกรรม แต่เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้โดยสิ้นเชิง

เขากล่าวกับเอเอฟพีว่า "รัฐบาลได้รับการเตือนหลายครั้งแล้ว แต่ล้มเหลวที่จะดำเนินการอย่างเพียงพอเพื่อปกป้องชุมชนชาวยิว"

เช่นเดียวกับองค์กรชาวมุสลิมชั้นนำของออสเตรเลียที่ประณามเหตุกราดยิงครั้งนี้ว่าเป็น "เรื่องน่าสยดสยอง"

สภาอิหม่ามแห่งชาติออสเตรเลียระบุว่า "หัวใจ, ความคิด และคำอธิษฐานของเราอยู่กับเหยื่อ, ครอบครัวของพวกเขา และทุกคนที่เห็นเหตุการณ์หรือได้รับผลกระทบจากการโจมตีที่สร้างความบอบช้ำทางจิตใจอย่างลึกซึ้งครั้งนี้"

ล่าสุด นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีกล่าวว่า ออสเตรเลียจะลดธงลงครึ่งเสาเพื่อแสดงความไว้อาลัยระดับชาติแก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 15 รายจากเหตุกราดยิงดังกล่าว

"ธงจะถูกลดลงครึ่งเสาทั่วประเทศในวันจันทร์ เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมด" ผู้นำออสเตรเลียกล่าว

หนึ่งในมือปืนที่ต้องสงสัยก่อเหตุได้รับการระบุตัวตนในสื่อท้องถิ่นว่าเป็นชายชื่อว่า นาวีด อัคราม จากย่านบอนนีริกก์ ชานเมืองซิดนีย์

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าอัครามเป็นมือปืนที่รอดชีวิตแต่บาดเจ็บสาหัส หรือเป็นอีกคนที่เสียชีวิตจากการถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ ABC ที่ระบุเพิ่มเติมว่าตำรวจได้บุกค้นบ้านของชายคนดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ เนื่องจากมือปืนซึ่งเป็นชายวัย 50 ปีถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 16 ราย โดยมีข้อมูลว่าเด็กหญิงวัย 10 ขวบเป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายด้วย

ส่วนมือปืนคนที่สองซึ่งเป็นชายวัย 24 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลภายใต้การดูแลของตำรวจ

ย้อนไปในเดือนเมษายนปีที่แล้ว เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงผู้คนเสียชีวิต 6 รายที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งไม่ไกลจากหาดบอนได มีรายงานว่าเขาป่วยเป็นโรคจิตเภทแต่หยุดกินยา และยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยก้าวใหม่ดัน ‘ทนายเจมส์’ ลุยซิดนีย์ ขยายฐานคนไทยต่างแดนร่วมเลือกตั้ง

“ไทยก้าวใหม่” ส่ง “ทนายเจมส์” อินฟูลฯคนดัง เสาหลักในออสเตรเลีย โกยแต้มนอกราชอาณาจักร ชูคนไทยต่างแดนมีคุณภาพชีวิตดี อยู่อย่างสง่า มีศักดิ์ศรี

เนทันยาฮู กล่าวหาว่ามาครงส่งเสริมการต่อต้านชาวยิว ปารีสตอบกลับอย่างเฉียบคม

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวหาประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ว่ายุยงให้เกิดการต่อต้านชาวยิวด้วยแผนการรับรองรัฐปาเลสไ