สหประชาชาติระบุว่ารัฐบาลทหารเมียนมากำลังใช้ความรุนแรงและการข่มขู่เพื่อบังคับให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งที่ควบคุมโดยกองทัพ ในขณะที่กลุ่มต่อต้านติดอาวุธก็ใช้ยุทธวิธีที่คล้ายกันเพื่อกีดกันประชาชนไม่ให้ไปใช้สิทธิ์
ผู้สมัครรับเลือกตั้งกำลังทำกิจกรรมระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในเมืองคอว์มู เขตย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม (Photo by Sai Aung MAIN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า โวลเกอร์ เติร์ก หัวหน้าสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวในแถลงการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเมียนมาว่า "ทางการทหารในเมียนมาต้องหยุดใช้ความรุนแรงโหดร้ายบังคับให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียง และหยุดจับกุมประชาชนที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง"
คณะรัฐบาลทหารของเมียนมาเตรียมจัดการเลือกตั้งแบบแบ่งระยะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม โดยอ้างว่าการเลือกตั้งที่ถูกจำกัดอย่างเข้มงวดนี้เป็นการกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยหลังจากที่โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งเป็นต้นเหตุของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อ
แต่ ออง ซาน ซู จี อดีตผู้นำพลเรือนยังคงถูกจำคุก และพรรคของเธอซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากก็ถูกยุบไปแล้ว หลังจากที่ทหารยุติการทดลองระบอบประชาธิปไตยที่ยาวนานกว่าทศวรรษของประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2021
ผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศมองว่าการเลือกตั้งที่แบ่งเป็นหลายขั้นตอนตลอดหนึ่งเดือนนี้ เป็นการเปลี่ยนชื่อใหม่ของกฎอัยการศึก
เติร์กเตือนว่าพลเรือนกำลังถูกคุกคามจากทั้งทางการทหารและกลุ่มฝ่ายค้านติดอาวุธทึ่ไม่ปรารถนาให้มีการเข้าร่วมการเลือกตั้ง
แถลงการณ์ของเขาเน้นย้ำถึงบุคคลหลายสิบคนที่ถูกควบคุมตัวภายใต้ "กฎหมายคุ้มครองการเลือกตั้ง" เนื่องจากการใช้เสรีภาพในการแสดงออก
แถลงการณ์ระบุว่า หลายคนถูกลงโทษอย่างรุนแรงมาก โดยยกตัวอย่างเยาวชน 3 คนในเขตย่างกุ้ง ที่ถูกตัดสินจำคุกระหว่าง 42 ถึง 49 ปี ในข้อหาติดโปสเตอร์ต่อต้านการเลือกตั้ง
สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้พลัดถิ่นในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึงเขตมัณฑะเลย์ ที่ได้รับคำเตือนว่าจะถูกโจมตีหรือบ้านถูกยึดหากไม่กลับไปลงคะแนนเสียง
"การบังคับให้ผู้พลัดถิ่นเดินทางกลับโดยไม่ปลอดภัยและไม่สมัครใจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน" เติร์กเน้นย้ำ
เขากล่าวว่าประชาชนยังเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรงจากกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านกองทัพ รวมถึงเหตุการณ์ที่ครูผู้หญิง 9 คนถูกลักพาตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วขณะเดินทางไปเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่ต่อมาถูกปล่อยตัวพร้อมคำเตือนจากผู้กระทำความผิด
นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่า กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากองทัพย่างกุ้ง ได้วางระเบิดสำนักงานบริหารในเขตเฮลกูและเขตออกกะลาปาเหนือในภูมิภาคย่างกุ้ง ทำให้เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งหลายคนได้รับบาดเจ็บ และได้ให้คำมั่นว่าจะโจมตีผู้จัดงานเลือกตั้งต่อไป
"การเลือกตั้งเหล่านี้เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการปราบปรามอย่างชัดเจน"
"ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ สำหรับการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก, การรวมกลุ่ม หรือการชุมนุมอย่างสันติ ที่เอื้อให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเสรีและมีความหมาย" โวลเกอร์ เติร์กกล่าว.
