นาจิบ ราซักถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในคดีทุจริต 1MDB ของมาเลเซีย

นาจิบ ราซักถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อยักยอกเงินหลายล้านจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ 1MDB รวมทั้งการฟอกเงินที่ได้มาเหล่านั้น

นาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (Photo by Mohd RASFAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ของมาเลเซียถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อยักยอกเงินหลายล้านจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ 1MDB และรวมทั้งการฟอกเงินที่ได้มาเหล่านั้น

การตัดสินโทษของเขาน่าจะทำให้เขาต้องรับโทษจำคุกเพิ่มอีกหลายปี จากโทษจำคุก 6 ปีที่เขากำลังรับอยู่จากคดีอื่นที่เกี่ยวข้องกับกองทุนของรัฐที่ปัจจุบันยุบไปแล้ว

ผู้พิพากษาคอลลิน ลอว์เรนซ์ เซเควราห์ ตัดสินว่าอดีตผู้นำวัย 72 ปี มีความผิดในข้อหาใช้อำนาจในทางที่ผิดทั้ง 4 กระทง รวมถึงข้อหาฟอกเงินทั้ง 21 กระทง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินประมาณ 2,280 ล้านริงกิต (ประมาณ 17,500 ล้านบาท) จากกองทุนดังกล่าว

นาจิบซึ่งสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มและเสื้อเชิ้ตสีขาว นั่งก้มหน้าและทรุดตัวลงบนเก้าอี้ขณะที่ผู้พิพากษาอ่านคำตัดสิน

แม้ว่านาจิบ บุตรชายของหนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งประเทศ จะได้รับการเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขากลับประสบกับการตกต่ำอย่างน่าใจหาย เนื่องจากความโกรธแค้นของประชาชนเพิ่มมากขึ้นจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต

นับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2018 การสอบสวนภายใต้รัฐบาลต่างๆ ที่สืบทอดต่อมา ได้พัวพันเขาและภรรยาของเขาในข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต

อัยการกล่าวว่า นาจิบใช้อำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาของ 1MDB ในทางที่ผิด เพื่อโอนเงินจำนวนมหาศาลจากกองทุนไปยังบัญชีส่วนตัวของเขาเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว

ตามการสืบสวน เงินที่ได้จากกองทุนถูกนำไปใช้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรู, เรือยอชต์ และงานศิลปะล้ำค่า

ในเช้าวันศุกร์ ผู้พิพากษาเซเควราห์ได้ปฏิเสธข้อโต้แย้งหลายประการของทนายฝ่ายจำเลย รวมถึงข้อโต้แย้งที่ว่า นาจิบถูกหลอกโดยผู้ร่วมงานใกล้ชิดของเขา คือนักธุรกิจลึกลับชื่อ โลว์ แท็ก โจ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โจ โลว์

"หลักฐานชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นหลักฐานของความสัมพันธ์ที่โจ โลว์ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนหรือนายหน้าของจำเลย (นาจิบ) ในการบริหารจัดการกิจการของ 1MDB" ผู้พิพากษากล่าว

ผู้พิพากษายังกล่าวอีกว่า ข้อโต้แย้งของฝ่ายจำเลยที่ว่านาจิบถูกหลอกลวงและเข้าใจผิดโดยฝ่ายบริหารและโดยโจ โลว์นั้นไม่มีมูลความจริง

1Malaysia Development Berhad (1MDB) เป็นกองทุนลงทุนของรัฐที่นาจิบก่อตั้งขึ้นในปี 2009 หลังจากที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผู้เปิดเผยข้อมูลกล่าวว่า โจ โลว์ ซึ่งเป็นนักการเงินชาวมาเลเซียที่มีเส้นสายดีแต่ไม่มีบทบาทอย่างเป็นทางการ ช่วยจัดตั้งกองทุนและตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญ

มีการประเมินว่าเงินกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ถูกยักย้ายจาก 1MDB ระหว่างปี 2009- 2015 โดยเจ้าหน้าที่กองทุนและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงโลว์ ซึ่งปัจจุบันกำลังหลบหนี

ผู้พิพากษาเซเควราห์ยังปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่าผู้บริจาคจากตะวันออกกลางเป็นผู้รับผิดชอบเงินที่ไหลเข้าบัญชีของนาจิบ โดยระบุว่าเป็นเรื่องราวที่เหนือกว่านิทานอาหรับราตรีเสียอีก

ฝ่ายอัยการได้นำเสนอหลักฐานทางการเงิน ได้แก่ บันทึกบัญชีธนาคาร, คำให้การจากพยานกว่า 50 ปาก และเอกสารต่างๆ

อัยการผู้ช่วยกล่าวต่อศาลในระหว่างการแถลงปิดคดีว่า นาจิบพยายามวาดภาพตัวเองว่าเป็นเหยื่อของลูกน้องที่ทุจริต ทั้งที่ความจริงแล้ว เขาเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดเพียงคนเดียว

"จำเลยมีอำนาจควบคุมทางการเงิน, การบริหาร และการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ" อัยการกล่าว

ทนายความของนาจิบ ราซักเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า นักการเมืองผู้นี้ไม่ทราบว่าฝ่ายบริหารของ 1MDB กำลังร่วมมือกับโลว์ในการยักยอกเงินจำนวนมากจากกองทุนซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในมาเลเซีย

ทนายความฯกล่าวกับนักข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ลูกความของเขาไม่ได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม

เขากล่าวโทษโลว์อีกครั้งสำหรับเรื่องอื้อฉาวนี้ซึ่งจุดประกายการสอบสวนในหลายประเทศตั้งแต่สิงคโปร์ไปจนถึงสหรัฐอเมริกา และทำให้ภาพลักษณ์ของมาเลเซียในต่างประเทศเสียหาย

นาจิบได้ขอโทษที่ปล่อยให้เกิดเรื่องอื้อฉาว 1MDB ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง แต่เขายังคงปฏิเสธการกระทำผิด โดยยืนยันว่าเขาไม่รู้เรื่องการโอนเงินผิดกฎหมายจากกองทุนดังกล่าว

การต่อสู้ทางกฎหมายของเขาได้รับผลกระทบอีกครั้งเมื่อต้นสัปดาห์ หลังจากที่เขาพยายามขอรับโทษจำคุกที่เหลืออยู่ที่บ้านแทนที่จะเป็นเรือนจำกาจังนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่ก็ไม่สำเร็จ โดยการใช้อำนาจในทางที่ผิดแต่ละข้อหา มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี และปรับสูงสุดห้าเท่าของจำนวนเงินสินบน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กมธ.สันติสุข' ไม่ลดเงื่อนไขนิรโทษ 'คดี ม.112' แต่ปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสม ชงข้อเสนอ5แนวทาง

'กมธ.สันติสุข' ยันไม่ลดเงื่อนไข นิรโทษกรรม 'คดีม.112' แต่ปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสม เปิดข้อเสนอ 5 แนวทาง ไม่เอาโทษเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ขณะกระทำความผิด ไม่นิรโทษฯ ผู้ทำความผิด กม.อาญา ฐานทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส