เอกชนติงติดเชื้อเพิ่มหากระบบคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่รัดกุมพอ

28 ต.ค. 2564 เอกชนห่วงใยการลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทยโดยระบบ Thailand Pass หรือระบบคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบ web-based ที่จะนำมาคัดกรองนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ ยังขาดการตรวจสอบเอกสารย้อนกลับที่ประเทศต้นทาง โดยระบบคัดกรองนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ดังกล่าว จะเป็นการนำมาใช้ทั้งสำหรับคนต่างชาติและคนไทยที่ประสงค์เดินทางเข้าประเทศไทยต้องเข้าไปลงทะเบียน กรอกข้อมูล และอัพโหลดเอกสารต่าง ๆ อาทิ หลักฐานการฉีดวัคซีน การตรวจหาเชื้อโควิด ฯลฯ ก่อนเดินทางเข้าประเทศ เพื่อเป็นการลดขั้นตอนการกรอก และอัพโหลดเอกสารของผู้เดินทางก่อนเข้าประเทศไทยนั้น

นางสาวบุษบา ศรีรัตนากร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท โก ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โก ไทยแลนด์ จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีความกังวลว่า ระบบคัดกรองนักท่องเที่ยว และการบริหารจัดการข้อมูลนักท่องเที่ยวดังกล่าว จะมีความพร้อมที่จะรองรับการเปิดประเทศ และมีความสามารถในการตรวจสอบเอกสารที่นักท่องเที่ยวส่งมาให้หรือไม่ และที่สำคัญการส่งต่อข้อมูลของนักท่องเที่ยวต่างประเทศไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายๆ ครั้ง จะทำให้ประเทศไทยต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎหมายส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป หรือกฎหมาย General Data Protection Regulations : GDPR หรือไม่
ภาคธุรกิจเอกชนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตระหนักถึงความจำเป็นในการที่จะต้องเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่ภาคธุรกิจยังเป็นกังวลในการเปิดประเทศ คือ ควรมีมาตรการตรวจสอบในเรื่องโควิด-19 อย่างเข้มข้น รัดกุม เพราะเราไม่ต้องการที่จะให้เกิดการระบาดรอบ 4 หรือทำให้ต้องกลับมาใช้มาตรการปิดประเทศอีกครั้ง

ระบบคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ระบุว่าได้เชื่อมต่อกับระบบ PKI : Public Key Infrastructure) ของ Vaccine Certificate ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก และได้รับการตอบกลับมาแล้วประมาณ 30 ประเทศ นั้นมีหน้าที่เป็นเพียงการอ่านอย่างเดียวไม่ใช่สร้างระบบ Vaccine Validation หรือการตรวจสอบใบรับรองการฉีดวัคซีน และใบตรวจโรค ของคนต่างชาติก่อนเข้าประเทศที่ประเทศต้นทาง ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 21 กันยายน 2564 ที่มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงร่วมประสานงานกับหน่วยราชการอื่นเพื่อให้มีระบบตรวจ Vaccine Certificate โดยให้บูรณาการกับหน่วยราชการ และภาคเอกชนเพื่อให้เกิดระบบตรวจสอบนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเมืองเป็นระบบเดียว จึงเกิดคำถามว่าแล้วระบบนี้จะทำงานได้จริงหรือไม่

นอกจากนี้ การใช้งานระบบในเบื้องต้นจะเป็นการใช้สแกนอ่านคิวอาร์โค้ด ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือก็สามารถสแกนอ่านคิวอาร์โค้ดได้อยู่แล้ว อีกทั้งไม่ใช่ทุกประเทศที่มีการใช้คิวอาร์โค้ด เกือบ 60% ของประเทศทั่วโลกไม่ได้ใช้ คิวอาร์โค้ด ก็พบว่าสำหรับประเทศที่ไม่ได้ใช้คิวอาร์โค้ดว่า ก็ให้ใช้เจ้าหน้าที่เป็นคนตรวจสอบเอกสารแทน ภาคเอกชนจึงเป็นห่วงว่า หากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศวันละ 2,000 คน การใช้เจ้าหน้าที่เป็นคนตรวจเอกสารนอกจากเป็นงานที่หนักแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้นไปอีกด้วย

ที่น่ากังวลที่สุด ก็คือ ระบบคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาตินี้ มีความเสี่ยงสูงที่อาจจะละเมิดกฎหมายส่วนบุคคลสหภาพยุโรป หรือ กฎหมาย General Data Protection Regulations (GDPR) อีกด้วย เนื่องจากระบบนี้แจ้งว่า เมื่ออ่านข้อมูลต่างชาติที่เข้ามาแล้ว จะมีการบันทึกข้อมูลดังกล่าวแล้วส่งต่อไปหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น เพราะใน GDPR ระบุไว้ว่า Consent is not a free pass หมายความว่า การยินยอมไม่ใช่บัตรผ่านฟรีที่จะเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างไรก็ได้ ดังนั้น หากมีประเทศใดตีความว่า ประเทศไทยมีการบันทึก และส่งต่อข้อมูล เขาสามารถที่จะเรียกปรับเป็นเงินถึง 20 ล้านยูโรต่อประเทศ แต่ภาครัฐสามารถขอขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกับสหภาพยุโรปได้แต่ต้องใช้เวลาเกือบปีกว่าจะขึ้นทะเบียนได้

“ในฐานะที่เป็นภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านสถาปนิกระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงหวังว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะให้ความสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงระบบ Thailand Pass ให้สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารก่อนการเดินทางเข้าประเทศล่วงหน้าตามหลักเกณฑ์ที่ภาครัฐกำหนดให้มีประสิทธิภาพและทำหน้าที่คัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างเข้มงวด และรัดกุม เพื่อป้องกันการติดเชื้อรอบใหม่” นางสาวบุษบา ศรีรัตนากร กล่าวในตอนท้าย

อ่านเพิ่มเติม รัฐบาล แจงเพิ่ม ‘ไทยแลนด์พาส’ ลดขั้นตอนเอกสาร รออนุมัติ 1-3 วัน รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาหลี-อินเดีย เข้าไทยเพิ่มขึ้นชี้ 8 เดือนนักท่องเที่ยวเข้าไทยทะลุ 20 ล้าน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพรวมนักท่องเที่ยวลดลงเล็กน้อย

'มวยไทย'บุก'สกอตแลนด์' ตั้งเป้าดึงต่างชาติ กลับมาเที่ยวประเทศไทย 

"มวยไทย" ช่วยชาติ! อนุกรรมการ "ซอฟต์ เพาเวอร์" เร่งทำงาน เดินหน้าดึงชาวต่างชาติมาเรียน "มวยไทย" มั่นใจ ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วง "โลว์ซีซั่น" เหตุ เรียนได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวฝนตกแดดออก ด้าน "แสนชัย" สุดฮอต แฟนคลับชาวสกอตต์ แห่เรียนเต็มคลาส เจ้าตัวสุดปลื้ม วอนภาครัฐเดินหน้าผลักดันมวยไทยในต่างแดนต่อไป มั่นใจ โกยรายได้เข้าประเทศมหาศาล