จากน้ำดื่มพัชรธรรม .. สู่ปัญหาพระธาตุแท้หรือปลอม!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. นับเป็นวาระมงคลพิเศษของบ้านเมืองที่ได้เฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลกไปอย่างสมบูรณ์ สมกับเป็นประเทศพระพุทธศาสนาไปเรียบร้อย เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ และนับเป็นกาลมงคลยิ่งเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ .. จ.ลำพูน จึงได้จัดบริการน้ำดื่มพัชรธรรม แจกจ่ายแก่ประชาชนและองค์กรภาครัฐ-เอกชน ตลอดจนวัดวาอาราม องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ ทั้งที่มารับ น้ำดื่มพัชรธรรม มาตรฐาน อย. (สาธารณสุข) ด้วยตนเอง และทั้งที่ได้จัดส่งไปให้ โดยมีการบรรจุลงขวดน้ำดื่มพัชรธรรม เพื่อสะดวกต่อการบริโภค เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในน้ำดื่มพัชรธรรม ที่มีความสะอาด ถูกหลักการสาธารณสุขตามมาตรฐาน อย. และยังมีรสชาติดี สมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ โดยพระกรุณาของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่ได้เสด็จมาเปิดสถานีน้ำดื่มพัชรธรรม ด้านหน้าวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ โดยพระองค์เอง โดยเฉพาะทรงอนุมัติงบประมาณในการจัดสร้างสถานีน้ำดื่มพัชรธรรมแห่งที่ ๒ โดยมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔

ด้วยน้ำดื่มพัชรธรรมเป็นที่นิยมบริโภคของประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่เดินทางนำภาชนะมารับน้ำดื่มด้วยตนเองในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา ๐๖.๓๐-๒๑.๐๐ น. ของแต่ละวัน และด้วยมีองค์กรภาครัฐ-เอกชน ได้ติดต่อขอรับน้ำดื่มที่บรรจุขวดน้ำดื่มพัชรธรรมมาจำนวนมากขึ้น จึงมีการขยายสถานีผลิตน้ำดื่มพัชรธรรมให้มีขีดประสิทธิภาพ ที่สามารถรองรับความต้องการของประชาชนและองค์กรต่างๆ ได้อย่างพอเพียง

และจำเป็นอย่างยิ่งต่อการติดตั้งชุดเครื่องบรรจุน้ำดื่มแบบทันสมัย เพื่อความสะดวกต่อการบรรจุน้ำดื่มลงในขวดน้ำพัชรธรรมขนาดต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง เมื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้อนุมัติงบประมาณจัดหาชุดเครื่องบรรจุน้ำดื่มที่มีระบบทันสมัยมาให้ เป็นมูลค่า เจ็ดแสนเก้าหมื่นกว่าบาท เพื่อทางวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ โดย คณะศิษย์จิตอาสาน้ำดื่มพัชรธรรม จะได้สะดวกคล่องตัวต่อการช่วยกันบรรจุน้ำดื่มพัชรธรรมลงในภาชนะ/ขวดขนาดต่างๆ ในการแจกจ่ายสู่ประชาชน จะได้สืบสาน พระมโนปณิธานการตั้งสถานีน้ำดื่มพัชรธรรม เพื่อสุขภาพของประชาชนทุกหมู่เหล่า..

กลับมาพูดคุยเรื่องธรรมะในหมู่ชาวบ้านกันบ้าง ที่มีการถามกันมากในขณะนี้ คือ เรื่องของพระธาตุ ว่ามีจริงไหม.. จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นพระธาตุแท้.. และความเป็นพระอริยสงฆ์จะบ่งบอกด้วยพระธาตุได้หรือไม่... ฯลฯ

จริงๆ แล้ว เรื่องพระธาตุ.. คุณลักษณะของพระธาตุ.. ความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุ นับเนื่องเข้าสู่ความเป็น อจินไตย คือ ไม่ใช่เรื่องที่จะรู้ได้ด้วยชั้นของการคิดนึกหรือตรรกของปุถุชน ซึ่งในทางพระพุทธศาสนาไม่แนะนำให้คิดเรื่องอจินไตย เพราะวิสัยปุถุชนไม่อาจเข้าใจได้โดยถูกต้องถ่องแท้ ทั้งเพราะความเข้าใจไม่ได้ในฐานะที่เป็นของลึกซึ้ง เป็นเรื่องทางจิตหรือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาคำตอบเป็นที่สุดได้

ดังที่มีญาติโยมนำพระธาตุที่ได้รับมาไปถวายพระเถราจารย์ผู้มีภูมิธรรมชั้นสูงทั้งหลาย ซึ่งท่านก็จะเข้าสมาธิเพื่อตั้งจิตอธิษฐาน พิจารณาดูพระธาตุนั้นๆ ว่า เป็นพระธาตุจริงหรือไม่.. เป็นของพระอริยสงฆ์รูปใด.. หรือเป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้า

สำหรับเรื่องการพิจารณาพระธาตุดังกล่าว เคยเรียนถามวิธีการพิจารณาจากครูบาอาจารย์ที่มีภูมิธรรมระดับสูง ซึ่งท่านก็ได้เมตตาสั่งสอนโดยให้รู้จักการเข้าสมาธิระดับสูง ให้เข้าถึงเอกัคคตาจิตอุเบกขารมณ์.. เมื่อกำลังสมาธิสมบูรณ์ดีแล้ว ก็ให้ถอยออกมาตามลำดับ เพื่อตั้งจิตอธิษฐาน ขอทราบถึงความเป็นพระธาตุดังกล่าวว่าใช่หรือไม่.. ของพระอริยสงฆ์รูปใด.. มีคุณธรรมอยู่ในขั้นใด ก่อนจะละคำอธิษฐาน เพื่อยกจิตเข้าสมาธิชั้นสูงไปตามลำดับอีกครั้ง สู่เอกัคคตาจิตอุเบกขารมณ์ โดยประมวลกำลังสมาธิที่ไม่เต็มอุเบกขาจนจิตติดนิ่งเฉย ให้เข้าสู่ความสงบที่ใสสว่าง.. ไม่ใช่ความนิ่งเฉย.. ก็จะเกิดนิมิตเป็นภาพหรือเสียงมาบอกกล่าว..ในเรื่องต่างๆ โดยหากต้องการความมั่นใจ ก็ให้กระทำการอธิษฐานเข้า-ออกสมาธิสัก ๒-๓ ครั้ง.. ซึ่งในบางนิมิตที่ปรากฏเป็นภาพ ต้องสามารถอ่านรายละเอียดได้จากภาพที่ปรากฏนั้น ดังเช่น ปรากฏภาพพระภิกษุ ที่สวมใส่ ผ้ากาสาวพัสตร์ ว่ามีลักษณะการแต่งองค์ทรงจีวรแบบใด มีสีอย่างไร.. ในภาพดังกล่าวมีอะไรเป็นพิเศษบ้าง.. เป็นต้น

จึงได้เห็นการคัดเลือกพระธาตุว่า.. ใช่หรือไม่ใช่... ทั้งนี้ เพื่อการอัญเชิญบูชาได้อย่างถูกต้อง.. จะได้ไม่เป็นโทษ ด้วยความไม่เหมาะควรในการจัดเก็บรักษาเพื่อการบูชา...

สมัยก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการทำปลอมพระธาตุโดยเจตนา.. จึงสามารถแยกแยะได้เลยตามรูปพรรณสัณฐาน ขนาด ผิวพรรณ.. และแหล่งที่มาที่ปรากฏอ้างอิงได้จริง มีข้อควรระวังไม่มาก

มาสู่สมัยปัจจุบัน มีการสร้างพระธาตุปลอมกันมาก..​ เพื่อสนองตอบความนิยมของหมู่ชนที่ใคร่ต้องการมีพระธาตุไว้บูชาประจำบ้าน... ดังที่มีข่าวผ่านสื่อออกมาบ่อยครั้ง ว่า ผู้มีศรัทธาถูกหลอกให้ทำบุญ เพื่อการได้ พระบรมสารีริกธาตุ ไปบูชา โดยมีการออกใบอนุโมทนาบัตรให้ด้วย ทำให้มีการยอมจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อแลกกับการได้พระบรมสารีริกธาตุมาในบางรายเป็นมูลค่าเสียหายนับล้านบาท จนต้องไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับแก๊งขายพระธาตุปลอมด้วย

จริงๆ แล้ว.. เรื่องพระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเรื่องเฉพาะพิเศษที่ปรากฏประกอบเรื่องอยู่ในพุทธประวัติ เมื่อถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระที่มกุฏพันธนเจดีย์ เมืองกุสินารา ซึ่งปรากฏสิ่งที่เพลิงมิได้เผาให้ย่อยยับไปด้วยอานุภาพพระพุทธอธิษฐานมี ๑.ผ้าห่อหุ้มพระพุทธสรีระชั้นใน ๑ ผืน ๒.ผ้าห่อหุ้มภายนอกผ้าห่อหุ้มพระพุทธสรีระ ๑ ผืน กับพระเขี้ยวแก้วทั้ง ๔ พระรากขวัญทั้ง ๒ พระอุณหิส ๑ รวมพระบรมธาตุ ๗ องค์นี้ ยังคงปกติมิได้แตกกระจัดกระจาย.. นอกนั้นแตกกระจัดกระจายทั้งสิ้น โดยมีสัณฐานต่างกันเป็น ๓ ขนาด คือ ขนาดโต ประมาณเมล็ดถั่วแตก ขนาดกลาง ประมาณเมล็ดข้าวสารหัก และขนาดเล็ก ประมาณเมล็ดพันธุ์ผักกาด

สาเหตุที่พระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแตกกระจัดกระจาย ไม่คงอยู่เป็นแท่ง.. ตามบันทึกอ้างว่า ด้วยพระดำริว่า “ตถาคตมีชนมายุน้อย ประกาศพระศาสนาอยู่ไม่นาน ก็จะปรินิพพาน พระศาสนาจะไม่แผ่ไพศาลไปนานาประเทศ” เหตุดังนั้นจึงทรงอธิษฐานว่า “เมื่อตถาคตปรินิพพาน เสด็จถวายพระเพลิงแล้ว พระธาตุทั้งหลายจะแตกกระจายออกไปเป็น ๓ สัณฐาน มหาชนจะได้อัญเชิญไปสักการบูชาในนานาประเทศของตน เพื่อเป็นทางเข้าถึงกุศล อันอำนวยผลให้เกิดในสุคติภพต่อไป...”

ส่วนเรื่องธาตุพระสาวก..​ คือ อัฐิที่ภายหลังถวายเพลิงแล้วก็จะจัดเก็บเข้าสถูปให้หมู่ชนไว้บูชา.. ไม่บอกปรากฏว่าเป็นสี สัณฐาน ขนาด อย่างไร.. จึงไม่สามารถค้นหาหลักฐานทางพระพุทธศาสนามารับรองได้.. เว้นแต่การเชื่อถือในครูบาอาจารย์ที่มีภูมิธรรมสูงนั้นๆ ที่ท่านรับรอง.. หรือการพบเห็นอิทธิปาฏิหาริย์จากพระธาตุนั้นๆ ด้วยตนเอง.. ที่ต้องนับเป็นเรื่องเฉพาะตน

จึงได้ตอบคำถามไปเสมอว่า..

พระธาตุจะแท้หรือไม่แท้.. จริงหรือไม่จริง.. ก็อยู่ที่ใจของเรา.. หากเราเข้าใจธรรมแท้จริง.. มีศรัทธามั่นคงอย่างมีปัญญา.. แม้สิ่งที่ถืออยู่ในมือว่าปลอม..ก็แท้ได้ และแม้ว่าจะมีพระธาตุแท้จริงไว้บูชา แต่หากจิตใจเรายังปลอมๆ อยู่.. ก็หาได้ถึงคุณค่าแท้จริงของพระธาตุไม่.. ก็ไม่ต่างกับพระธาตุปลอม.. ที่สุดจึงอยู่ที่จิตใจของผู้บูชาต่างหาก.. ว่า เคารพธรรม..​ เข้าใจธรรม แท้จริงหรือไม่!!.

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า น้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯ

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาที่อากาศร้อนจัด จนเข้าสู่วิกฤตการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศ

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า.. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในภาวะที่เข้าสู่วิกฤตการณ์โลกร้อน.. ด้วยภาวะการเปลี่ยนแปลงแบบผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติปกติ (Climate Change) อันเป็นผลจากการกระทำของมนุษยชาติ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม จึงได้ถือโอกาสคิดทำโครงการนำพระคืนสู่ป่า.. เพื่อศึกษาวงจรธรรมชาติของชีวิตที่เนื่องกับสิ่งแวดล้อม อันประกอบด้วยสรรพสิ่งต่างๆ ที่เกาะเกี่ยวเนื่องกันอย่างมีความสมดุล (Nature Cycle in Balance)

ลัทธิผีบุญ .. ภัยร้ายต่อพระศาสนา!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ปัญหาของพุทธศาสนาในปัจจุบันที่ยังเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การยึดถือคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระสัทธรรมดั้งเดิม...

คุณค่าแท้–คุณค่าเทียม ที่ชาวพุทธควรคำนึง..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. คำว่า “วิกฤตศรัทธา” เริ่มมีการพูดถึงกันมากในห้วงเวลานี้ ด้วยเหตุปัจจัยในเรื่องนั้น ที่นำไปสู่ความสั่นคลอนในความเชื่อมั่น ที่เคยอบรมสั่งสมมานานในสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ บุคคลนั้นๆ.. ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตสัตว์ทั้งหลายที่พยายามหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณ

บูชาพระโอวาทปาติโมกข์ .. ณ เวฬุวันมหาวิหาร ปี พ.ศ.๒๕๖๗

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. กลับมาจาก งานมาฆบูชาโลก ที่เวฬุวันมหาวิหาร พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ พร้อมกับติดเชื้อเป็นของแถม ด้วยมีไวรัสแพร่ระบาดในหมู่คณะที่มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสติดตามไปร่วมร้อยชีวิต

บนเส้นทางมหาปรินิพพาน “มัชฌิมาปฏิปทา สู่ อัปปมาทธรรม”..

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนา.. บนเส้นทางมหาปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปัจฉิมสมัย มีปรากฏร่องรอยธรรมที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง