เลือกตั้งซ่อมระยอง เขต 3 การต่อสู้ระหว่าง 'คนรุ่นใหม่-คนรุ่นเก่า' สะท้อนการเกิดของ 'พรรคอนาคตไกล'

โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จังหวัดระยอง แทน นายนครชัย ขุนณรงค์ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล ที่ลาออกจำตำแหน่ง หลังพบมีปัญหาคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ หากวิเคราะห์เกมต่อสู้ทางการเมือง เป็นการต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่างสองพรรคการเมืองใหญ่ที่น่าจับตาว่าใครจะเข้าวิน ระหว่างนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หมายเลข 1 ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล โดยมีคู่แข่งเป็นอดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่แชมป์เก่า อย่าง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ หมายเลข 2 ผู้สมัคร ส.ส.จาก พรรคปชป. พรรคก้าวไกลจะรักษาแชมป์แทนอดีต ส.ส.นครชัย ได้หรือไม่ พี่น้องประชาชนชาวอำเภอแกลง อำเภอเขาชะเมา เขต 3 จะเป็นผู้ให้คำตอบ

ขณะเดียวกัน ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.จากพลังประชารัฐ สจ.พายับ ผ่องใส ได้คะแนนมาลำดับ 2 และตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย นายกโอ๊ะ อดีตนายก อบต.ทุ่งควายกิน ที่ได้คะแนนลำดับ 4 ต่างหลีกทางให้ เหตุเพราะพรรคไม่เคาะส่งลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ทำให้การแข่งขันตัวแทนที่แบ่งกันได้ชัดเจน ระหว่างตัวแทนคนรุ่นใหม่ สมัยแรก กับคนรุ่นเก่า เจ้าของพื้นที่ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแกลง คนรุ่นเก่า ในพื้นที่ของประชาธิปัตย์เดิม โดยมี นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง และนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กุมบังเหียน

ขณะที่อีกฟากหนึ่ง พรรคการเมืองขนาดเล็ก พรรคแรงงานสร้างชาติ ได้ส่งตัวเต็งอดีตนายตำรวจในพื้นที่เข้าประกวด ร.ต.ต.เรืองชัย สมบัติภูธร หมายเลข 3 ประกาศปักธง กับพี่น้องแรงงานในเขต 3 จังหวัดระยอง ขอสู้ฟัดกับสองพรรคการเมืองใหญ่

อีกฟากมุมหนึ่ง สวนกระแสการเมือง สร้างความร้อนแรง สะเทือน การเกิดขึ้นของกลุ่มอนาคตไกล ก่อร่างสร้างตัวยื่นเตรียมการจัดตั้งพรรคอนาคตไกล ชื่อย่อว่า อนก. ภาษาอังกฤษ FFT.โดยใช้โลโก้พรรคการเมือง เป็นรูปอินฟินิตี้ มีคำว่า “อนาคตไกล” อยู่ในวงล้อม เป็นเส้นสีแดงผสมสีส้ม หมายถึง เป็นพรรคของประชาชน อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน จังหวะเดียวที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องและสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อีกเรื่องหนึ่ง รับคำร้องประเด็นนโยบายแก้ไข ปอ.มาตรา 112 หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นโยบายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือล้มล้างการปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเพียงสั่งให้หยุดการกระทำเท่านั้น ส่งผลให้หยิบคำพิพากษาไปยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อให้ยุบพรรคก้าวไกล ดังนั้น การก่อตั้งพรรคอนาคตไกล หากมองในมิติทางกฎหมาย ประชาชนสามารถร่วมอุดมการณ์จัดตั้งพรรคการเมืองได้ และชื่อพรรค โลโก้พรรค ต้องไม่ซ้ำซ้อนหรือพ้องหรือคล้ายกับพรรคการเมืองที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วหรือสิ้นสภาพไม่เกิน 20 ปี

หากมองในมิติทางการเมือง การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตไกล สะท้อนถึง การเตรียมตัวความพร้อมสู่สนามการเลือกตั้งในสมัยหน้า ที่แกนนำระดับบิ๊กอนาคตไกล ยืนยันว่า เป็นฐานที่มั่นคนรุ่นใหม่ พร้อมที่จะชนทุกพรรคการเมือง แสดงให้เห็นว่า เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ Gen X Gen Y Gen Z เป็นคู่แข่งของพรรคก้าวไกลเช่นกัน จะเห็นได้จาก การเลือกตั้งซ่อม ระยอง เขต 3 ไม่ได้แข่งว่า เป็นตัวแทนหลากสี แต่เป็นการแข่งสู้ศึกระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า เหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ความไม่พร้อม อาจเกิดจากกระแสความร้อนแรงของด้อมส้ม คนรุ่นใหม่ กระแสความเปลี่ยนแปลง เป็นการส่งเสาไฟฟ้าลง ก้าวไกลก็ชนะ ไม่ต่างจาก ปชป.ภาคใต้ในอดีต ไม่ใช่ประเด็นแก้มาตรา 112 ทั้งก้าวไกล เจอกระแสขุดจากการไม่เสียภาษีของผู้สมัคร กินหรู อยู่แพง ขายเบียร์ไม่เสียภาษี รวมทั้งงัดประวัติเคยต้องคดียักยอกทรัพย์ แม้คดีจะจบไปแล้ว เป็นการดิสเครดิตทางการเมืองในช่วงโค้งสุดท้าย

ขณะเดียวกัน คนรุ่นเก่า อย่าง นพ.บัญญัติ งัดกลยุทธ์ เลือกคนบ้านเรา ออกมาสู้ ดังนั้น การเกิดของพรรคอนาคตไกล ย่อมมีนัยยะทางการเมืองที่ต้องจับตามอง ว่า พรรคอนาคตไกล พรรคการเมืองน้องใหม่ จะเป็นตัวแทนฝ่ายใด จะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเศรษฐา 1 ต่างร้องยี้ ทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไปไม่ถึงฝัน เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ชื่อพรรคว่า” อนาคตไกล ในทางการเมือง จะไปแปลว่า อนาคตไกล จนมองไม่เห็นอนาคต เป็นละอ่อนทางการเมือง เพราะการก่อร่างสร้างตัว จนก่อเป็นพรรคการเมือง ต้องใช้ทุน ใช้ระยะเวลา โจทย์การเมือง อยู่ที่ว่า เริ่มก่อตัวเมื่อไหร่ เป็นการขับเคลื่อนของใคร นโยบายคนรุ่นใหม่ จึงเกิดคำถามจากประชาชนต่อการเกิดของอนาคตไกลว่า มีนโยบายอย่างไร

แต่หากย้อนดูจากไทม์ไลน์การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตไกล ช่วงระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสำเร็จ หากพรรคอนาคตไกลไม่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล หรือตัวแทนของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไปแล้ว ถือว่า เป็นการก่อร่างสร้างพรรคอนาคตไกลที่จะเป็นคู่แข่งสำคัญในสนามการเลือกตั้งสมัยหน้า เป็นฐานแบ่งปันคะแนนจากคนรุ่นใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเกิดคำถามจากประชาชนว่า “พรรคอนาคตไกล” มีนโยบายแก้ไข มาตรา 112 หรือไม่?