
ประเทศของเรากำลังเผชิญกับปัญหาและความท้าทายหลายประการทั้งในเชิงโครงสร้างและปัญหาอื่นๆที่สะสมมายาวนานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนี้ภาคครัวเรือน ความสามารถด้านการแข่งขัน การขาดนวัตกรรมและสภาพคล่องของเอสเอ็มอี การเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ การทุจริตคอร์รัปชัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และรวมถึงการขาดเสถียรภาพด้านการเมือง ทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุน เกิดการย้ายฐานการผลิต การปิดโรงงาน ปิดกิจการที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอยู่บนความไม่แน่นอน แรงงานจำนวนมากผันตัวเองเป็นการรับจ้างขับรถโดยสารสาธารณะ ส่งอาหารหรือวินมอเตอร์ไซค์ที่มีรายได้น้อยและมีความไม่แน่นอนในการดำรงชีพ
โดยในปัจจุบัน การขาดความซื่อสัตย์สุจริต ขาดธรรมาภิบาลของผู้บริหารในภาคตลาดทุน ยิ่งเป็นการซ้ำเติมความน่าเชื่อถือของประเทศ ส่งผลให้เกิดการย้ายเงินทุนออกไปในตลาดทุนอื่นๆและยังส่งผลต่อการจัดระดับความน่าเชื่อถืออีกด้วย ยังไม่นับรวมถึงการเข้ามาของสินค้าจีนที่ถล่มราคาตั้งแต่ต้นน้ำคือสินค้าเหล็กเรื่อยไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆในทุกช่องทาง การขาดความมั่นใจของผู้บริโภคที่ไม่ยอมใช้จ่ายหรือมีความกังวลซึ่งหากมีจำนวนมากและเกิดติดต่อกันนานขึ้นแล้วย่อมอาจก่อให้เกิดภาวะเงินฝืดได้
แม้ว่ารัฐบาลในฐานะผู้รับผิดชอบในการบริหารบ้านเมืองจะเพียรพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายต่างๆโดยเฉพาะโครงการดิจิทัล วอลเล็ตด้วยการแจกเงินเพื่อใช้จ่ายคนละ 10,000 บาทให้แก่ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านคุณสมบัติครบแต่ก็มีนักวิชาการและผู้มีส่วนได้เสียอีกจำนวนมากแสดงความกังวลว่าจะเป็นการเพิ่มภาระของประเทศด้วยเงินกว่าสี่แสนล้านบาทและไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวได้
ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและภาคส่งออกนั้น แม้จะมีตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นเพียงการฟื้นตัวจากช่วงการระบาดของโควิด 19 และกระตุ้นจีดีพีและภาคการท่องเที่ยวในลักษณะของ K shape ที่มีการเติบโตอยู่ได้เป็นการเฉพาะกิจการเท่านั้น และหากมีการขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศในปลายปีนี้จริงด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านเช่นเวียตนามและอินโดนีเซียได้
ปัญหาต่างๆที่รุมเร้าประเทศข้างต้นนั้น แม้ว่าหลายๆเรื่องจะแก้ไขได้ยากและต้องใช้เวลาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถแก้ไขหรือบรรเทาให้ลดลงได้ เพราะหากประชาชนทุกทุกหมู่เหล่าร่วมมือร่วมใจกันใช้หลักสำคัญของธรรมาภิบาลคือ “การมีส่วนร่วม” ในการแก้ไขปัญหาอย่างมุ่งมั่นและเป็นระบบแล้ว ปัญหาต่างๆโดยเฉพาะด้านสังคมและปากท้องสามารถบรรเทาและลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น หากแต่เป็น “หน้าที่พลเมือง”ของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีกำลัง มีศักยภาพ มีจิตอาสาที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะน้องๆคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจต่อปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องขอชื่นชมและให้กำลังใจบรรดาจิตอาสา กลุ่มคน คณะบุคคลที่ต่างทำหน้าที่พลเมืองได้อย่างเข้มแข็งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เช่น จส. 100 เรื่องจราจร/ของหาย/คนหาย/สภาพอากาศ มูลนิธิกระจกเงาที่นำพาคนไร้บ้านมาทำงานมีรายได้ในโครงการ “จ้างวานข้า” หรือ โครงการ Young Happy ที่ปลุกพลังคนสูงวัยให้ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงสังคมรวมถึง เทใจดอทคอม ด้านการระดมทุนหรือ ACT AI ที่เปิดข้อมูลใช้ต่อต้านการทุจริต และยังมีอีกหลากหลายโครงการที่ประชาชนผู้ทำหน้าที่พลเมืองได้ออกไปช่วยพัฒนาสังคม พัฒนาชาติอยู่ในหลากหลายมิติ จึงขอเชิญชวนผู้อ่านทุกท่านได้ช่วยกันทำหน้าที่พลเมืองและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไทยของเราทุกคนด้วยกัน
เทวัญ อุทัยวัฒน์
กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิตอาสาแม่ครัวพังงา ลงพื้นที่หาดใหญ่ ลุยทำอาหารร้อนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ทีมแม่ครัวจิตอาสาจากหลายอำเภอเร่งประกอบอาหารกล่องภายในโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ ส่งต่อศูนย์พักพิงและชุมช
ภูเก็ตรวมพลัง! ปล่อยคาราวานกว่า 10 คัน ลุยช่วยน้ำท่วมใต้ 4 จังหวัด
ภาครัฐ-เอกชน-เครือสมาคมในภูเก็ต ระดมสิ่งของ บุคลากร เจ็ตสกี อุปกรณ์แพทย์ และเงินบริจาค ส่งต่อพัทลุง สงขลา สตูล ตรัง รอง
ผู้ว่าฯพังงา ส่งแม่ครัวจิตอาสาเกือบ 100 คน พร้อมวัตถุดิบ เปิดครัวสนามช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่
ผู้ว่าพังงาส่งแม่ครัวจิตอาสาเกือบ 100 คนพร้อมวัตถุดิบ ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่อำเภอหาดใหญ่ เปิดครัวสนามจัดทำอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
‘ไทยสร้างไทย’ เปิดศูนย์ช่วยน้ำท่วมใต้ ระดมกำลังจิตอาสาเร่งช่วยผู้ประสบภัย
คุณหญิงหน่อย นำไทยสร้างไทย ตั้ง “ศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้” รับมือสถานการณ์หนัก
‘พีระพันธุ์’ เล่าภารกิจช่วยน้ำท่วมใต้ เห็นจิตอาสาช่วยคนติดค้างมากกว่าภาครัฐ
หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเล่าการลงพื้นที่พัทลุง-หาดใหญ่ พบหลายชุมชนยังมีประชาชนติดค้างบนบ้าน-บนหลังคา ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากจิตอาสาและกู้ภัยเอกชน ทีมพร
จิตอาสา ปตท.สผ. ร่วมเปลี่ยนขยะให้มีคุณค่า สร้างประโยชน์แก่ชุมชน
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม “Waste to Value” ณ ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีพนักงานจิตอาสา ปตท.สผ. กว่า 50 คน

