
เรากำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของระเบียบโลก ที่เราคุ้นเคยและใช้ได้ดีระดับหนึ่งมาเป็นเวลาถึง 80 ปีระเบียบเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1944-1946 เริ่มตั้งแต่หนึ่งปีก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองจบลง หลังชัดเจนว่า สหรัฐและพันธมิตรจะเป็นผู้ชนะสงคราม รวมทั้งชัดเจนแล้วว่า สหรัฐจะเป็นผู้ที่เข้มแข็งสุดทั้งหมด เพื่อเตรียมการสำหรับโลกใหม่ ที่ทุกคนจะต้องช่วยกันฟื้นฟู บูรณะ ปฏิสังขรณ์ ร่วมกันวางระเบียบ
การปกครอง ระเบียบการอยู่ร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งด้านเศรษฐกิจ และไม่นำไปสู่สงครามอีกครั้ง
ระเบียบโลกที่ถูกสร้างขึ้นเหล่านี้ประกอบด้วย IMF ที่ดูแลระบบการเงินโลก World Bank ดูแลการกู้ยืมการฟื้นฟูระหว่างประเทศ Bretton Woods System ที่วางระบบการแลกเปลี่ยนเงิน และยกให้ดอลลาร์เป็นเงินสำรองหลักของโลก GATT ข้อตกลงด้านการค้าและภาษีการค้า UN ที่ดูแลความสัมพันธ์และการทูตระหว่างประเทศ ตลอดจน ศาลโลกที่คอยตัดสินกรณีความขัดข้อขัดแย้งต่างๆ ระหว่างสมาชิก
โดยประเทศต่างๆ ได้ไปตกลงกันที่ New Hampshire และ California ในบ้านของพี่ใหญ่ ที่วางกรอบ คิดและเขียนรายละเอียดของระเบียบโลก (Made in US, Made by US, Made for US) ที่กำหนดชะตาและทิศทางการเดินให้ทุกคน เพื่อให้ทุกประเทศอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยมีสหรัฐยืนควบคุมอยู่ข้างหลังที่จุดสุดยอดของปิรามิด
หากเมื่อ 80 ปีที่แล้ว พี่ใหญ่เป็นคนสร้างระบบ จุดเปลี่ยนที่กำลังทำให้ระเบียบโลกเหล่านี้ ต้องปรับตัว ก็มาจากพี่ใหญ่คนนี้เช่นกัน
จากระบบที่เคยดี ที่เคยเอื้อต่อการบริหารจัดการในด้านต่างๆ และเคยเป็นคุณต่อพี่ใหญ่และพันธมิตรหลักมาช้านาน ล่าสุด ได้เกิดสิ่งใหม่ที่ “แตกต่าง” ปรากฏขึ้นในระบบ คือ ประเทศจีน ที่สามารถพัฒนาก้าวขึ้นมาเป็นอำนาจใหม่
ในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 20 ปี ยืนท้าทาย ส่งผลกระทบต่อสมดุลอำนาจของโลกเดิมที่วางไว้ดียิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลด้านต่างๆ ชี้ตรงกันว่า หากยอมปล่อยไปเช่นนี้ ความเป็นเบอร์หนึ่งของพี่ใหญ่ก็อาจหลุดมือไปในที่สุด ทั้งหมด จึงนำมาถึงความจำเป็นที่จะต้อง “ล้มกระดาน”
จากการคุมโลกทางอ้อม ผ่านระเบียบโลกที่ตนเองสร้างมา มาเป็นการคุมโลกโดยตรงผ่าน “ระบบกำปั้น”Strength is rule หรือ “อำนาจคือกฎ”เมื่อระบบไม่เอื้อประโยชน์และผลที่ต้องการ ก็ถึงเวลาเปลี่ยนระบบ แม้ว่าจะสร้างขึ้นระบบดังกล่าวขึ้นมาเอง และได้หว่านล้อมทุกคนให้เชื่อแล้วก็ตาม
การยกเลิกพันธะสัญญาต่างๆ ที่คิดว่าตนเองเสียเปรียบการไม่สนใจโลกร้อนและขุดน้ำมันอีกรอบการเร่งคิดภาษีนำเข้ากับบางอุตสาหกรรม
การประกาศ Reciprocal Tariffs
การประกาศกร้าวเตือนคนที่อยากมาทดแทนเงินดอลลาร์ ว่าจะมีผลตามมารวมทั้ง การไม่สนใจ WTO การบอกว่า IMF และ World Bank กำลังหลงทาง ต้องเปลี่ยนใหญ่
ทั้งหมด คือจุดเริ่มต้นของการสร้างระเบียบโลกใหม่ ที่รอบนี้ สหรัฐจะไม่ชวนทุกคนมาสร้างร่วมกัน แต่จะสร้างคนเดียว ตามใจตนเอง เพื่อทำให้สหรัฐยิ่งใหญ่อีกครั้ง สร้างสมดุลใหม่ที่จะนำไปสู่ความเป็นใหญ่ ไร้คู่เปรียบเทียบ ดังที่เป็นมาในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา
โดยการต่อสู้เผชิญหน้ารอบนี้ มีจีนเป็นเป้าหมายสำคัญที่สหรัฐต้องจัดการให้ได้ เพื่อไม่ให้ขึ้นมาเทียบรัศมี แย่งความเป็นใหญ่ไปจากมือ
แต่สิ่งที่น่ากังวลใจในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ก็คือ ไม่เพียงสหรัฐเท่านั้น ที่กำลังใช้ระบบกำปั้น จีนก็เช่นเดียวกัน คำประกาศที่ว่า “ใครเข้าข้างสหรัฐมารังแกจีน จีนจะตอบโต้” สะท้อนแนวทางเดียวกัน ที่จีนจะใช้อำนาจของตน เลือกที่จะไม่ไปหา WTO ไม่หาคนกลางมาตัดสิน แต่จะตัดสินเอง
หมายความว่า เรากำลังจะเข้าระเบียบโลกใหม่ ที่ “กำปั้นคือกฎ” ที่คนเล็กอย่างประเทศไทย จะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่รอดให้ได้
ทั้งนี้ ระเบียบโลกใหม่ภายใต้ระบบกำปั้นของทั้งคู่นี้ จะอยู่กับเราไปอีกระยะ เพราะการต่อสู้รอบนี้ จะไม่จบง่าย ต้องใช้เวลา เนื่องจากสหรัฐยังคงแข็งแรงอยู่ระดับหนึ่ง และจีนยังต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าที่จะก้าวข้ามสหรัฐได้ ซึ่งการเผชิญหน้าจะค่อยๆ ลุกลามไปสู่มิติต่างๆ เริ่มจากสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี สงครามระบบการเงิน สงครามพรมแดนพื้นที่อิทธิพลและการแข่งขันหาพรรคพวก และอาจจะนำไปสู่สงครามทางการทหารในที่สุด
ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้ ระเบียบโลกจะเปลี่ยนจาก Hegemony เป็น Multi-Polars จากระบบพี่ใหญ่คนเดียว มาเป็นระบบพี่ใหญ่หลายคน ก่อนที่จะมีเบอร์หนึ่งขึ้นมาอย่างชัดเจนอีกรอบ
หากโลกจะหมุนไปเช่นนี้ คงถึงเวลาแล้ว ที่เราทุกคนต้องมาช่วยกันคิด เริ่มเตรียมการ เริ่มวางกลยุทธ์ว่า ไทยจะอยู่อย่างไรในระเบียบโลกยุคเปลี่ยนผ่าน ยุคเผชิญหน้าเช่นนี้เพราะถึงจุดหนึ่ง เค้าจะมาบอกว่า “เลือกมา จะอยู่ข้างใคร”
เราคงต้องคิดเรื่องนี้ไว้ก่อน อย่างรอบคอบ
เราถึงจะผ่านช่วงวิกฤตที่จะทัดเทียมกับยุคล่าอาณานิคมเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วไปได้
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ
คอลัมน์ พิจารณ์นโยบายสาธารณะ กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คาดส่งออก‘กุ้งไทย’ปี69 ฟื้นรับอานิสงค์ภาษีทรัมป์ทุบคู่แข่ง
ผู้เลี้ยงกุ้งไทยรับอานิสงค์ภาษีทรัมป์ทุบคู่แข่งอินเดียอ่วม 60% คาดส่งออกปี 69 ฟื้น วอนรัฐเร่งแก้ปัญหากุ้งทั้งระบบ เพิ่มผลผลิตกุ้งคุณภาพ 4 แสนตัน พร้อมแนะผู้เลี้ยงมุ่งสู่มาตรฐานกุ้งยั่งยืน ASC
‘สีหศักดิ์’ ยึดคำพูด ‘อนุทิน-ทรัมป์’ เดินหน้าเจรจาภาษีต่อ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ส่งหนังสือระงับ
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!
'จตุพร' ปลุกม็อบต้าน 'ทรัมป์-อันวาร์' 22 พ.ย. ฟาดฝ่ายค้านหัวหด
'คณะรวมพลัง' นัดสำแดงพลังเอกราชชาติ ม็อบหน้าสถานทูต 22 พ.ย. ต้าน 'ทรัมป์-อันวาร์' รุมข่มเหงไทย ฟาดฝ่ายค้านหัวหดกลัวสหรัฐ
ลั่นไทยไม่ใช่นักเรียนประถม! จวกสหรัฐทำตัวเป็นครูใหญ่ถือไม้เรียวขู่
จวกสหรัฐอเมริกาใช้กำแพงภาษีขู่ไทยเหมือนครูใหญ่คุมเด็กประถม พร้อมชี้ไทยไม่ใช่สนามเด็กเล่นของวอชิงตัน และอธิปไตยไม่ใช่ของแลกผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์กับใครทั้งนั้น
คนชายแดนโวย 'ทรัมป์' ใช้ภาษีบีบไทยให้เสียเปรียบ วอนรัฐบาลเด็ดขาดรบเขมรม้วนเดียวจบ
ชาวบ้านชายแดนบุรีรัมย์ ไม่พอใจ "ทรัมป์" ระงับลดภาษีนำเข้า แนะแยกเรื่องความั่นคงออก


