
หนักมาก หนักที่สุดในชีวิต เพราะมีการซื้อเสียงที่รุนแรงที่สุด ตั้งแต่ผมเล่นการเมืองมาไม่เคยเจอขนาดนี้ เรื่องกระแสผมไม่กลัว ผมกลัวกระแสเงินมากกว่า... การเมืองท้องถิ่นมันสร้างภาพยาก บางคนชอบสร้างภาพ แต่คนในพื้นที่จะรู้ว่า ใครสร้างภาพ ใครไม่สร้างภาพ
ปี 2568 การเลือกตั้งท้องถิ่น ผ่านไปแล้วสองสนาม คือ"องค์การบริหารส่วนจังหวัด"(อบจ.)กับ"เทศบาล" หลังจากนี้ก็จะเป็นการเลือกในระดับ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ส่วนกรุงเทพมหานคร ปีหน้า 2569 คนกทม.ก็จะได้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร
สำหรับผู้บริหาร-นักการเมืองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเทศไทย หนึ่งในนักการเมืองท้องถิ่นที่หลายคนรู้จักกันดีไม่ใช่แค่คนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพราะเป็นนักการเมือง-ผู้บริหารท้องถิ่นชื่อดัง ที่ชนะการเลือกตั้งมาแล้วสิบสมัยติดต่อกัน นั่นก็คือ "สมนึก ธนเดชากุล"ที่ล่าสุดชนะการเลือกตั้ง "นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี"อีกครั้งตามความคาดหมาย และรอเข้าไปเป็น นายกเทศมนตรีนครนนทบุรีสมัยที่ 10 ติดต่อกัน ทำให้นายสมนึก ได้รับการกล่าวขานและบันทึกไว้ว่าเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรียาวนานที่สุดในประเทศไทย และยาวนานที่สุดในโลก และก่อนหน้านี้ ก็เคยเป็นอดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย(ส.ท.ท.)มาแล้วช่วงปี 2545-2547 เรียกได้ว่า ประสบการณ์การเลือกตั้ง-การบริหารงานท้องถิ่น มี ชั่วโมงบินสูงระดับต้นๆ ของการเมืองท้องถิ่นประเทศไทย
และเป็นที่รู้กันดีว่า นายสมนึก เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ที่รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นได้จากวันเลือกตั้งเมื่อ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ก็ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับนายสมนึก ในคืนวันเลือกตั้ง ช่วงที่มีการนับคะแนน โดยได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายสมนึก ที่ประสบความสำเร็จได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศบาลนครนนทบุรีสมัยที่ 10 และ เมื่อปีที่ผ่านมา คือวันที่ 12มิ.ย.2567 นายทักษิณ ก็เดินทางไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของนายสมนึก ในโอกาสครบรอบ 79 ปี ที่บ้านสวนริมคลองอ้อม ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมขอแรงใจสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งหน้า ให้ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่ง สส. นนทุบรียกจังหวัด
อันแสดงให้เห็นแล้วว่า "สมนึก ธนเดชากุล”นักการเมืองท้องถิ่นคนดังจังหวัดนนทบุรี ชื่อนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน
เมื่อเจอหน้ากัน เราไม่รอช้าถามเข้าประเด็น หลังกุมชัยชนะการเลือกตั้ง นายกเทศบาลนครนนทบุรีเป็นสมัยที่ 10 ในการเลือกตั้งเมื่อ 11 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เลือกตั้งครั้งนี้ที่ชนะอีกครั้ง ถือว่าหนักที่สุดเท่าที่เคยเจอมาในชีวิตหรือไม่ "สมนึก"ตอบทันที" หนักมากครับ หนักมาก หนักที่สุดในชีวิต เพราะมีการซื้อเสียงที่รุนแรงที่สุด ตั้งแต่ผมเล่นการเมืองมาไม่เคยเจอขนาดนี้ เรื่องกระแสผมไม่กลัว ผมกลัวกระแสเงินมากกว่า ในอดีตก็เคยเจอเหมือนกันการซื้อเสียงระดับเทศบาล ช่วงปี 2538-2539 ก็ซื้อกันหนักแต่ช่วงนั้นยังไม่มีกกต."
-สำหรับนายกสมนึก ที่ชนะเลือกตั้งมาแล้วสิบสมัย ถือว่าเป็นบ้านใหญ่ของนนทบุรีหรือไม่?
บางคนบอกว่าผมเป็นบ้านใหญ่ แต่ความจริงไม่ใช่ คล้ายๆว่าผมอยู่การเมืองมานาน และผมเป็นคนตรงไปตรงมา
ตอนแรกผมไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่ช่วงที่ พลตรีจำลอง ศรีเมือง อดีตผู้ว่าฯกทม. ตั้งพรรคพลังธรรม พลตรีจำลองเคยมาชวนผมไปเข้าพรรคพลังธรรม ผมก็เข้าไปเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังธรรมชุดแรกๆ โดยพลตรีจำลอง ให้ผมช่วยคัดคนลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นนทบุรีของพลังธรรม ส่วนพวกอดีตส.ส.นนทบุรีพลังธรรม อย่างนายอุดมเดช รัตนเสถียร คุณพิมพา จันทร์ประสงค์ ถวิล จันทร์ประสงค์ เข้าพรรคพลังธรรมทีหลังผม พวกเขาก็ลงส.ส.พลังธรรม นนทบุรี ก็ได้รับเลือกตั้งหมด ผมก็อยู่กับพลังธรรมเรื่อยมา จนถึงช่วงที่คุณทักษิณ ชินวัตร ไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม จากนั้น ก็มีการไปตั้งพรรคไทยรักไทย ผมก็ไปเป็นสมาชิกพรรคไปช่วยไทยรักไทย จนมาถึงปัจจุบันที่เป็นพรรคเพื่อไทย ก็มีความผูกพันกัน
มุมมอง-เสียงสะท้อน ท้องถิ่นกับบ้านใหญ่แต่ละจังหวัด
-ในฐานะอยู่การเมืองมาร่วมสี่สิบปี มองการที่คนมักพูดถึงการเมืองท้องถิ่นกับบ้านใหญ่ในพื้นที่แต่ละจังหวัดอย่างไรบ้าง?
คนที่ได้รับเลือกตั้งหรือเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมานาน เวลาประชาชนเดือดร้อน แล้วเขาช่วยได้ ก็ทำให้เกิดความผูกพัน และมีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ เป็นที่พูดกันว่าหากเดือดร้อนไปบอกคนนี้เขาแก้ปัญหาให้ได้ ก็จะเป็นลักษณะแบบนี้ อย่างเวลาคนเดือดร้อนอะไรมา แม้อาจจะอยู่นอกเขตเลือกตั้ง แต่ถ้าช่วยเขาได้ ผมก็ช่วย เพราะเราเป็นผู้แทนของประชาชน เราไม่สามารถเกี่ยงคนอะไรได้
ตอนที่เทศบาลนครนนทบุรี ซื้อวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนเมื่อช่วงโควิดระบาดปี 2564 ตอนนั้น มีบางคนอาจบอกว่า นายกสมนึก นำวัคซีนไปฉีดให้คนนอกเขตเทศบาลนครนนทบุรีไม่ได้ ผมก็บอกเขาว่า แม้เป็นคนนอกเขตเทศบาล แต่เขาเข้ามาทำงานในเขตเทศบาลฯ ก็ควรฉีดให้เขา หรืออย่างบางคนบอกว่าอย่าฉีดวัคซีนให้คนต่างด้าว แต่ว่าคนต่างด้าว เขามาทำงานเป็นคนใช้ที่บ้านในเขตเทศบาลฯ ถ้าไม่ฉีดให้ เกิดเขาเป็นโควิด คนในเขตก็ติด อย่างนี้เป็นต้น เราตัดสินใจฉีดให้หมด ตอนนั้นฉีดวัคซีนโควิดวันละสองพันกว่าราย
ส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่า การกล้าคิด กล้าทำ และทำจริง และไม่ทิ้งประชาชน ไม่ทิ้งชาวนนทบุรี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมได้รับเลือกตั้ง รวมถึงผลงานการจัดกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี เช่น ล่องเรือ-ไหว้พระ หรือจัดว่ายน้ำข้ามเจ้าพระยา -จัดหมูป่าว่ายน้ำแข่งกับควาย ซึ่งคนไม่รู้ว่าหมูป่าว่ายน้ำเก่ง ก็จัดกันสองครั้ง ครั้งแรก ควายแพ้ ส่วนครั้งที่สอง หมูแพ้ เป็นต้น
-การเมืองระดับชาติพวกเลือกส.ส.กับการเมืองท้องถิ่นเช่นการเลือกนายกฯอบจ. นายกเทศมนตรี มีความแตกต่างกันหรือไม่?
แตกต่างกัน เพราะการเลือกนายกเทศมนตรี คนจะเลือกผู้สมัครที่เป็นคนในพื้นที่ มีความชำนาญ รู้พื้นที่ และเป็นคนที่เข้าถึงง่าย เคยดูแลกัน เคยช่วยแก้ปัญหาให้กัน เวลาเดือดร้อนเรื่องอะไรไปหาแล้วคุยได้
แต่ถ้าเป็นการเมืองใหญ่ จะเป็นการพูดเรื่องนโยบายของพรรคการเมืองต้นสังกัด เรื่องเลือกเพื่อจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี และมีเรื่องของกระแสต่างๆ การจัดตั้งรัฐบาลผสม จะเป็นอย่างไร
การเมืองท้องถิ่นเราจะเห็นได้ว่า เวลาประชาชนจะเลือก เขาจะเลือกจากองค์ประกอบต่างๆเช่น เวลาเขามีงานอะไร บอกแล้วช่วยเหลืออะไรต่างๆได้ เช่น งานบวช บอกไปเขาก็มา งานศพก็ไปช่วยดูแลกัน ลักษณะแบบนี้เป็นต้น คือเป็นลักษณะสังคมแบบเอื้ออาทรต่อกัน ทำให้มีความผูกพันกัน ก็เลยทำให้การเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติ จะไม่เหมือนกัน
อย่างการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบางนครนนทบุรีที่ผ่านมา ผมใช้ชื่อ"กลุ่มพลังหนุ่ม"แข่งกับผู้สมัครที่ลงในนามพรรคประชาชน ผมเลือกตั้งมาหลายสมัย ผมกล้าพูด ผมไม่เคยซื้อเสียง แล้วที่มีการจับได้ ก็ไม่ใช่กลุ่มพลังหนุ่ม ก็แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังเลือกเรา
"การเมืองท้องถิ่นมันสร้างภาพยาก บางคนชอบสร้างภาพ แต่คนในพื้นที่จะรู้ว่า ใครสร้างภาพ ใครไม่สร้างภาพ"
-คิดว่าอะไรคือเบื้องหลังหรือกลยุทธ์การเลือกตั้ง ที่ทำให้ ชนะเลือกตั้งมาสิบสมัย?
ผมเป็นคนรับฟังปัญหาและความทุกข์ร้อนของประชาชน โดยเฉพาะการกล้าคิด กล้าตัดสินใจ ในการดูแลประชาชน ยกตัวอย่างเช่นช่วงโควิดระบาดทั่วประเทศ ช่วงปี 2564 ทางเทศบาลนครนนทบุรีมีการให้อสม.ไปถามประชาชนชาวนนทบุรีว่าอยากฉีดวัคซีนหรือไม่ ปรากฏว่าประชาชนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์บอกว่าต้องการฉีดวัคซีนโควิด ตอนนั้นดูแล้วการฉีดวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขคงอาจไม่ทันเพราะต้องฉีดให้ประชาชนทั้งประเทศ ก็เลยคุยกับทางสมาชิกสภาเทศบาลฯ ว่าทางเทศบาลใช้งบประมาณของเทศบาลฯ จ่ายเงินซื้อวัคซีนฉีดให้ประชาชนเองดีกว่าเพราะเทศบาลนครนนทบุรีมีศูนย์สาธารณสุขหกแห่ง ก็ตัดสินใจนัดประชุมสภาเทศบาลนครนนทบุรี นำงบประมาณสามร้อยล้านบาทไปจัดซื้อวัคซีนจากศูนย์จุฬาภรณ์ฯ มาฉีดให้ประชาชนได้วันละสองพันกว่าคน รวมถึงนำงบประมาณไปซื้อเครื่องช่วยหายใจให้กับรพ.พระนั่งเกล้าฯ รวมถึงเครื่องมือทางการแพทย์ จะเห็นได้ว่าการตัดสินใจแต่ละเรื่องที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่รอช้าไม่ได้
รวมถึงผลงานอีกหลายเรื่องในการดูแลประชาชนเช่นการป้องกันน้ำท่วมช่วงปี 2554 เกือบทุกแห่งในจังหวัดนนทบุรีน้ำท่วมหมด ยกเว้นนครนนทบุรีกับนครปากเกร็ด ที่สามารถป้องกันน้ำได้ โดยเฉพาะตรงหน้าเรือนจำกลางบางขวางที่ติดถนนยาวห้าร้อยเมตร ก็มีการสั่งให้ตั้งกระสอบทรายป้องกัน เพราะหากน้ำท่วมคุกบางขวาง อาจเกิดจลาจลได้เพราะในเรือนจำมีนักโทษร่วมหมื่นคน แต่ก็สามารถผ่านวิกฤตไปได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งให้ผม เพราะการตัดสินใจแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว
ตลอดจนผลงานในพื้นที่เช่นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นการล่องเรือ ไหว้พระเก้าวัด มีการจัดกิจกรรมให้ประชาชนในจังหวัดอื่นเข้ามาร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวดังกล่าวในพื้นที่นครนนทบุรี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะการจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง มีคนร่วมงานร่วมๆ 3,500 คน จัดหนึ่งเดือน ก็มีคนมาร่วมกิจกรรม-ท่องเที่ยวร่วมๆ 14,000 คน ก็ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้จากการขายสินค้า การจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง ก็ทำให้มีเงินสะพัดในพื้นที่หลายล้านบาท
ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนพอใจว่าเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะเรื่องประวัติความเป็นมาของนนทบุรี เราพยายามจะเน้นให้คนได้รู้ว่านนทบุรีมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาร่วมสี่ร้อยกว่าปี นอกจากนี้ ก็ดูแลประชาชนในเรื่อง"การศึกษา"ทางเทศบาลนครนนทบุรี ก็มีการยกระดับการศึกษาในพื้นที่ เพราะบางทีเด็กนักเรียนในพื้นที่เข้าโรงเรียนดังๆไม่ได้ ทางเทศบาลนครนนทบุรี ก็รับมาดูแลหมด มีการจ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษาอังกฤษให้ เป็น English program เรียนฟรีหมด แล้วก็มีการให้ทุนไปประเทศญี่ปุ่น ปีละ 25 ทุน เป็นเด็กแบบลูกชาวบ้านธรรมดาเลย ไปฟรี รวมถึงไปมาเลเซียอีก 25 ทุน รวมแล้วแต่ละปีให้ทุนไปต่างประเทศกับนักเรียนปีละ 50 ทุนและครูอีก 4 ทุน ทำมาเป็นสิบปีแล้ว เพื่อให้ลูกชาวบ้านธรรมดาๆ ได้มีโอกาส
นอกจากนี้ เทศบาลนครนนทบุรี ยังส่งเสริมด้านกีฬาด้วย จะเห็นได้ว่า นักกีฬาของเทศบาลนครนนทบุรี ติดทีมชาติในกีฟาประเภทต่างๆ เยอะมาก เพราะเด็กพวกนี้จะมีจิตใจเข้มแข็ง อดทน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นอาทิเช่น วอลเล่ย์บอล เรือพาย ฟุตซอล ฟุตบอล กรีฑา เราทำให้อย่างดี จนมีเด็กของเทศบาลนครนนทบุรี ติดทีมชาติทุกปี เวลาไปแข่งกีฬาที่ต่างประเทศ ก็สามารถสนทนาภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศได้
จากการที่เราทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อบุตรหลาน จะเห็นได้ว่าช่วงที่มีการเปิดรับสมัครนักกีฬาของเทศบาลนครนนทบุรี เช่นเปิดรับหนึ่งร้อยคน แต่ปรากฏว่ามีนักกีฬาจากต่างจังหวัดมาสมัครแต่ละครั้งร่วมๆ 1500 คน มาเยอะมาก ซึ่งการแข่งขันคัดเลือก ไม่มีการเล่นเส้น เพราะเวลาแต่ละคนลงสนามไม่มีใครช่วยได้ ไม่มีการฝาก เพราะต้องการให้เด็กช้างเผือกจากต่างจังหวัด ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ
นอกจากนี้งานด้านการพัฒนาพื้นที่ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมเช่นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี หรืองานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก็มีรถดับเพลิงขนาดสูง 70 เมตรเตรียมพร้อม ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นนทบุรีสบายใจได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุอัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย เทศบาลนครนนทบุรีมีศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ตีสอง ตีสาม ตีสี่ หากได้รับความเดือดร้อน ก็โทรศัพท์มาได้ทันที บางครั้งหากมีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้าน แต่จำเบอร์สถานีตำรวจไม่ได้ ก็จำเบอร์โทรศัพท์ของดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี เมื่อโทรมาทางดับเพลิงก็วิทยุแจ้งตำรวจในพื้นที่ให้ประชาชนได้

สิ่งเหล่านี้ที่ได้บริหารงานและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าใจและเห็นว่าเราทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ความจริงใจ
และตอนนี้ กำลังจะมีการตั้งศูนย์ผู้ป่วยฉุกเฉินกำลังจะสร้างใหม่อีกห้าชั้น มีรถambulance อีกห้าคัน โดยมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในรถครบหมด เช่นเครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ครบหมด ที่เป็นการพัฒนาช่วยเหลือรพ.พระนั่งเกล้าฯ(รพ.ในเทศบาลนครนนทบุรี) สำหรับประชาชนที่โทรศัพท์ไปที่ เบอร์เจ็บป่วยฉุกเฉิน 1669 รถพยาบาลนี้ก็จะออกไปช่วยเหลือประชาชนได้
นอกจากนี้ การรักษาผู้ป่วย ในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี ก็มีศูนย์บริการสาธารณสุข รักษาผู้ป่วยอยู่หกศูนย์ และต่อมา กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าเรามีศักยภาพพร้อม ก็ถ่ายโอนภารกิจสาธารณสุข และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 5 แห่ง สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ให้แก่เทศบาลนครนนทบุรี จากเดิมมีศูนย์บริการสาธารณสุข 6 แห่ง ก็รวมเป็น 11 แห่ง ทางเทศบาลนครนนทบุรี ก็ตั้งงบประมาณไว้แห่งละ 70 ล้านบาท เพื่อพัฒนารพ.สต.ให้เป็นศูนย์สาธารณสุขของเทศบาลทั้งหมดอีก 5 แห่งในวงเงิน 300 กว่าล้านบาท
เทศบาลนครนนทบุรีให้ความสำคัญกับการดูแล"ผู้สูงอายุ"โดยมี ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ จากเดิมมีผู้สูงอายุไม่กี่คนมาเข้ารับบริการ แต่ปัจจุบันมีสมาชิกหมื่นกว่าคน โดยมีกิจกรรมต่าง ๆเช่น สอนลีลาศ สอนการออกกำลังกาย สอนร้องเพลง ศิลปะวาดภาพ ก็มีผู้สูงอายุมาพบปะสังสรรค์กันที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และมีจิตอาสาที่มีความรู้ภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น มาสอนภาษาให้ฟรี มีคนมาเรียนเป็นร้อยคนทำให้ผู้สูงอายุมีสถานที่พบปะสังสรรค์ มีสถานที่ออกกำลังกาย ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี จนตอนนี้มีสมาชิกเป็นหมื่นคน
...ที่ผ่านมา จะมีกลุ่มต่างๆ มาดูงานที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เทศบาลนครนนทบุรีทุกเดือนเพราะถือเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุต้นแบบ ซึ่งตอนนี้มีผู้สูงอายุในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรีประมาณ25 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรในพื้นที่ ประมาณ 250,000 คน มีผู้สูงอายุร่วมๆ 60,000 คน นับว่าเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังมีการทำโครงการเบี้ยยังชีพให้แม่บ้านตั้งเป็นกองทุนขึ้นมา เรียกว่า"กองทุนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ยากจนแต่เรียนดี" โดยใช้เงินจากผู้สูงอายุที่ไม่มารับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ให้แต่ละเดือน แม่บ้านเขาไม่มารับ ก็บริจาคเข้ากองทุนดังกล่าว ก็มีประมาณร้อยกว่าคน ตอนนี้มีกองทุนฯ ประมาณหกล้านกว่าบาท ปี 2567 ที่ผ่านมาให้ทุนกับเด็กนักเรียนไป 860,000 บาท เช่นโรงเรียนวัดบัวขวัญ โรงเรียนวัดตำหนักใต้ เป็นต้น ให้ทุกโรงเรียน โดยได้โรงเรียนละ 30,000 บาท
และยังมีเรื่องของการส่งเสริมเรื่องวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ ในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี เช่นงานสงกรานต์ งานไหว้พระศาลเจ้าพ่อหลักเมือง งานพุทธสถานเชิงท่า ที่เป็นวัดร้างสองวัด(วัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์) อยู่ทางตอนเหนือของเขตเทศบาลนครนนทบุรี ปัจจุบันก็สร้างเป็น พุทธสถานเชิงท่า – หน้าโบสถ์ (ในปี พ.ศ. 2550 เทศบาลนครนนทบุรีและกรมศิลปากรได้ร่วมมืออนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่วัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ โดยได้ย้ายอุโบสถวัดหน้าโบสถ์มาที่วัดเชิงท่า เพื่อให้ประชาชนได้สักการะและกราบไหว้ พร้อมตั้งชื่อใหม่ว่า “พุทธสถานเชิงท่า – หน้าโบสถ์” ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน) ทางเทศบาลนครนนทบุรี ก็พัฒนาฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยว จนปัจจุบันมีคนมาเที่ยว-ไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธสถานเชิงท่า กันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อเสือ -หลวงปู่เริ่ม เป็นต้น
ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของการพัฒนานนทบุรี ซึ่งแม้เทศบาลนครนนทบุรีจะมีเงินเยอะ แต่เราไม่ได้ใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย บางคนอาจบอกว่าเรามีงบประมาณเยอะ ทำไมไม่นำไปใช้ ตรงนี้ก็เหมือนกับคน คือหากไม่รู้หลักการใช้เงิน ป่านนี้เทศบาลนครนนทบุรีคงหมดเงินไปนานแล้ว เทศบาลนครนนทบุรีเป็นเทศบาลที่มีเงินสะสมมากที่สุดในประเทศไทย ประมาณ 9,000 กว่าล้านบาท และใช้ในเรื่องที่จำเป็น
อย่างตอนโควิดฯ ระบาด เทศบาลฯ นำเงินสะสมไปซื้อวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนสามร้อยกว่าล้านบาท มีการเช่าโรงแรมนนทบุรีพาเลซ ทั้งโรงแรม เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด ทำให้จากนนทบุรี ที่เคยเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ก็ใช้เวลาหกเดือน ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติ เราทำอย่างจริงจัง เราใช้เงินสะสมของเทศบาลฯ ให้เกิดประโยชน์ อย่างโรงพยาบาลบอกว่าขาดเครื่องช่วยหายใจ เราก็อนุมัติเงินไปจัดซื้อ ในราคาเครื่องละ 800,000 บาท รวม40 ล้านบาท อะไรที่เป็นประโยชน์กับสังคม เรากล้าทำ เพราะเงินทั้งหมดเป็นเงินของประชาชน เราต้องระมัดระวัง คำว่า"ใจถึงพึ่งได้ กล้าคิด กล้าทำ ไม่ทิ้งชาวนนท์"มันก็ควบคู่กันไป เงินที่ใช้แล้วเป็นประโยชน์กับประชาชนทำได้เลย
...ส่วนว่าอะไรคือกลยุทธ์ หรือเคล็ดลับที่ทำให้ชนะเลือกตั้งนายกเทศมนตรีฯมาสิบสมัย คิดว่าส่วนหนึ่งก็คงเพราะเวลาชาวบ้านเดือดร้อนแล้วบอกเรามา เราเข้าไปแก้ไขได้ทันที ทำได้เลย อย่างตอนโควิดระบาด ที่เรานำเงินสะสมของเทศบาลฯมาจัดซื้อวัคซีนฉีดให้ประชาชน
หรือตอนที่มีการเดินขบวนเรื่องโครงการรับจำนำข้าว โดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่มีเงินจ่าย ผมก็ให้มีการโอนเงินจากธ.กรุงไทยสองร้อยล้านบาทให้ธ.ก.ส.นำเงินไปจ่ายให้ชาวนา เพราะชาวนาเขาขายข้าวไปแล้วแต่ไม่ได้เงินเพราะเราคิดว่าอะไรที่จำเป็น ชาวบ้านเดือดร้อนเราต้องทำเลย บางคนมาบอกทำไมใจถึง ไม่กลัวทหารมาเล่นงานหรือ ผมบอกไม่กลัว ชาวนาเขาเดือดร้อน ขายข้าวไม่ได้เงิน ผมมองความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก

-ในฐานะเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาหลายสิบปี มองอย่างไรที่แต่ละปี องค์กรอิสระต่างๆ อย่าง สตง.หรือป.ป.ช.มักจะเผยแพร่ข้อมูลตัวเลขว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีปัญหาถูกร้องเรียน ตรวจสอบเรื่องใช้งบประมาณ โดนร้องสอบทุจริตกันเยอะ?
ในฐานะผมเคยเป็นนายกสมาคมสันติบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมนครและเมือง คือต้องเข้าใจก่อนว่า เทศบาลรวมถึงอบต.มีเจ็ดพันกว่าแห่ง ต้องไปดูตัวเลขที่บอกว่าท้องถิ่นทุจริต เป็นวงเงินเท่าใด อย่างดูแค่ปริมาณที่มีการร้องเรียน
อย่างทุจริตการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่เช่นรถไฟฟ้า ถามว่าวงเงินเท่าใด งบก่อสร้างก็เป็นหมื่นล้าน แต่ของท้องถิ่น มีการร้องเรียนถูกตรวจสอบจำนวนปริมาณอาจหลายร้อยแห่ง แต่รวมวงเงินทั้งหมดก็อาจจะสักสี่ร้อยล้านถึงห้าร้อยล้านบาท ความเสียหายมันน้อยกว่า ควรดูตรงนี้มากกว่าหรือไม่ เพราะท้องถิ่นมันเยอะ ตั้งเจ็ดพันกว่าแห่ง แล้วก็ไปตรวจจับท้องถิ่นเล็กๆ ทำไมไม่ไปตรวจสอบจับองค์กรใหญ่ๆ เช่นจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์วงเงินสี่พันล้านบาท หากมัวแต่มาคอยจับปลาซิวปลายสร้อย จะทันเหตุการณ์ได้อย่างไร ทำไมไม่จับตัวใหญ่
อย่างไรก็ตาม สำหรับเทศบาลนครนนทบุรี ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างดี เช่นในการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือสตง.ที่เข้ามาตรวจ จริงๆ เราต้องขอบคุณสตง.ด้วย เพระการตรวจของเขาทำให้เราจะได้รู้ว่าเจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯ ทำอะไรไม่ถูกต้องหรือไม่ หากเขาเห็นว่าตรงไหนไม่ถูก ก็จะได้มีการแก้ไขให้ถูกต้อง ก็เป็นการมาช่วยตีกรอบให้คนเดิน เพราะหากเราไม่ได้ทุจริต ไม่ต้องกลัวการถูกตรวจสอบ
-มองว่ากฎหมายปัจจุบันที่อยู่ในพระราชบัญญัติกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ที่กำหนดว่า ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ไม่เกินสองสมัย มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
แล้วแต่มุมมอง แต่ผู้บริหารท้องถิ่น ก็เข้าไปเป็นโดยผ่านการเลือกตั้งของประชาชน ที่ผมพูดไม่ใช่ว่าเพราะผมอยากเป็นต่อ แต่หากประชาชนเขาต้องการจะเลือก อย่างตัวผม บางคนบอกคนเบื่อแล้ว เป็นมา 9 สมัยแล้ว เปลี่ยนแปลงได้แล้ว แต่คนก็ยังเลือก ไม่ซื้อแต่คนก็ยังเลือก เพราะอยู่ที่ประชาชนว่าจิตใจเขาจะเลือกอย่างไร ไปออกข่าวว่าเปลี่ยนโน้นเปลี่ยนอะไรต่างๆ แต่ประชาชนเขาก็ไม่เปลี่ยน เพราะคนเราไปเปลี่ยนความคิดกันไม่ได้ เพราะอยู่ที่ผลงานและประชาชนเขาดูว่าทำงานเป็นอย่างไร ดูแลทุกข์สุขประชาชนดีหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า ตอนนี้มาแบบสมัยเก่าแล้ว คือด่าอย่างเดียว ถอยหลังเข้าคลอง มาคอยด่าอะไรต่างๆ มาทำแบบนี้ชาวบ้านเขาก็ไม่นิยม
-คิดว่าเป็นการจำกัดสิทธิประชาชนหรือไม่ เพราะอย่างคนในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี รอบหน้าเขาก็อาจอยากเลือกคุณสมนึกเป็นสมันที่ 11 อีกครั้ง?
คือจริงๆ ไม่น่าไปกำหนด เคยไปกำหนดมาแล้วครั้งหนึ่งช่วงปี 2546-2547 ต่อมาก็มีการยกเลิกไป แต่ตอนนี้ก็กลับมากำหนดไว้อีก พอกำหนดไว้ มันก็มีแรงเสียดทาน เพราะมันเป็นความต้องการของประชาชน เขาอยากเลือกใคร มันก็เรื่องของเขา จะกี่สมัยก็เรื่องของเขา ผมพูดไม่ใช่ว่าเพราะอยากเป็นอะไร เพราะตอนนี้ก็อายุมากแล้ว แต่ผมพูดตามหลัก
อย่างถ้าไปดูด้านการกีฬา นายกสมาคมกีฬาบางแห่ง ก็เป็นมาแล้วสามสมัย สี่สมัย ก็เพราะเขาทำผลงานดี หากต้องเปลี่ยนใหม่ หาคนไม่ได้ ก็ปวดหัวอีก แล้วผมถาม คนที่ไม่รู้งาน จะจับทางจะรู้พื้นที่ยังไง เพราะเทศบาลหรือท้องถิ่น ยิ่งคนเก่ายิ่งรู้พื้นที่ดี อย่างซอยไหน พื้นที่เป็นอย่างไร เขานึกออกเลย ไปได้ทันที
อย่างที่เคยทำโครงการเปลี่ยนแปลงเลขบ้าน หนึ่งแสนกว่าหลังคาเรือน เรียงลำดับใหม่หมด คือเมื่อก่อนเวลาคนไปแจ้งความตำรวจว่ามีโจรเข้าบ้าน แจ้งตำรวจไป ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ตำรวจยังไปไม่ถึง บางทีตำรวจไปถึง ชาวบ้านบอกมาทำไม โจรไปแล้ว ผมเลยเปลี่ยนแปลงเลขบ้านใหม่ หนึ่งแสนสี่หมื่นหลังคาเรือน เรียงลำดับใหม่หมด ทำให้ปัจจุบัน ประชาชนโทรแจ้งความตำรวจ ใช้เวลา 15 นาที ตำรวจถึงที่หมาย
สิ่งต่าง ๆผมว่าอะไรที่มันถูกต้อง ก็อย่าไปเปลี่ยน ปล่อยให้ประชาชนเลือก ให้เป็นธรรมชาติ ดีที่สุด ส่วนว่าใครจะได้หรือไม่ได้(ชนะเลือกตั้ง)ประชาชนเขาจะดูเองว่าจะเลือกใคร อย่าไปดูถูกประชาชนว่าตัดสินใจไม่ได้ ประชาชนไม่เข้าใจ คือประชาชนเราต้องเข้าใจว่าเขาเป็นคนที่มีความรู้ ตัดสินใจได้ เราต้องคิดว่าต้องเอาคนส่วนใหญ่เป็นเกณฑ์ เลือกตั้งทุกครั้ง หากสังเกตุ จะพบว่าคนที่ไม่ใช่คนพื้นที่ แล้วมาลงสมัครท้องถิ่นโดยมากไม่ค่อยได้
กับภารกิจช่วยทักษิณ-พท.ชนะเลือกตั้งส.ส.นนทบุรี
-หลังจากนี้ หากกกต.รับรองผลการเลือกตั้ง เข้าไปเป็นนายกเทศมนตรีนครนนทบุรีอีกหนึ่งสมัย จากที่ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ชินวัตร เคยมาพูดในงานวันเกิดนายกสมนึก เมื่อปีที่แล้วว่าต้องการให้การเลือกตั้งส.ส.รอบหน้า คนของเพื่อไทยชนะยกจังหวัดนนทบุรี คิดว่าจะเข้าไปช่วยพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่?
ก็ต้องช่วย แต่ว่าในความเป็นพรรคการเมือง ก็ต้องช่วยกัน ต้องทำให้เกิดกระแสพรรค ทำให้คนไว้เนื้อเชื่อใจด้วย ลำพังตัวผมเองคงทำอะไรไม่ได้มาก ภาพใหญ่คือภาพของพรรค หากทำคะแนนนิยมดี ทำให้ประชาชนถูกใจ เลือกตั้งครั้งหน้าก็ได้ เรื่องนี้สำคัญ กระแสพรรคก็อย่างเป็นรัฐบาล ก็ทำผลงานให้คนเห็น ชาวบ้านพอใจ เขาก็โอเค แบบนี้เป็นต้น
ส่วนการเลือกตั้งส.ส.ปี 2566 ที่พรรคก้าวไกลเดิมชนะส.ส.นนทบุรียกจังหวัด ผมคิดว่าตัวของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ตัวเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคกระแสดี ก็ต้องยอมรับ แต่เหตุการณ์ต่อจากนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองปี ก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลกระแสจะเป็นอย่างไร -สว.สีน้ำเงินจะเป็นอย่างไร พรรคสีแดง-พรรคสีส้ม-พรรคสีฟ้า ประชาธิปัตย์ จะเป็นอย่างไร ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองปี แต่ละพรรคการเมือง ก็ต้องไปดำเนินการกัน ทำอะไรก็ยังทัน
สำหรับผมเอง ก็เควมีพรรคการเมืองอื่นมาชวนขอให้ไปช่วยผู้สมัครของเขา แต่ผมไม่เคยไป เพราะไม่ชอบย้ายไปย้ายมา ส่วนการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาตินั้น หากนักการเมืองท้องถิ่นคุ้นเคยกับฝ่ายรัฐบาลก็จะได้เปรียบเช่นหากมีเรื่องอะไรต้องประสานกับกระทรวงต่างๆ การประสานงานกับฝ่ายรัฐบาล ก็จะสะดวกขึ้น
-อีกสี่ปีต่อจากนี้ หากไม่มีการแก้ไขกฎหมาย สมัยนี้ก็อาจเป็นสมัยสุดท้ายในการเป็นนายกเทศมนตรีนครนทบุรี คิดอยากจะทำอะไรทิ้งไว้?
ก็อยากทำหลายอย่าง เช่นเรื่องการท่องเที่ยว เพื่อให้คนรู้ประวัติของจังหวัดนนทบุรี ทำเรื่องสิ่งแวดล้อม การพัฒนาปรับปรุงถนน-ซอยต่างๆ ให้ทันสมัย ทางเทศบาลนครนนทบุรีมีงบประมาณที่จะไปพัฒนา
อีกสี่ปีต่อจากนี้ ก็จะทำให้เต็มที่เพื่อประชาชนที่เลือกผมมาเป็นสมัยที่ 10 อะไรที่ยังไม่ดี ก็จะมีการแก้ไขปรับปรุง เช่นการพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี เช่นให้เรียนในห้องเรียนติดแอร์ หรือการพัฒนาศูนย์ผู้ป่วยฉุกเฉิน ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ล่องเรือไหว้พระเก้าวัด ผมอยากเห็นเมืองนครนนทบุรี เป็นเมืองที่น่าอยู่ สู่ความยั่งยืน สำหรับประชาชน เป็นเมืองที่ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีการเดินทางที่สะดวก
เราถามย้ำอีกรอบก่อนก่อนการสัมภาษณ์เสร็จสิ้นลงเพื่อขอคำตอบชัดๆว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่เลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี จนชนะเลือกตั้งสิบสมัย “สมนึก”ตอบเราโดยทันที...คงเพราะผมเป็นคนที่ไม่มีบุตร มีกันแค่สองคนตา-ยาย ผมเสียสละเวลา ไม่มีวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทำงานทุกวัน ตอนเช้าผมตื่นตีห้า แล้วก็เดินวันละสามกิโลเมตร จากนั้น อาบน้ำ แต่งตัว ไปทำงานทุกวัน ไม่เคยหยุด มีงานอะไรเสาร์ อาทิตย์ในพื้นที่ ผมไปหมด ใครมาบอกงานอะไร ผมก็ไปหมด บางวันก็ไปงานต่างๆ ภายในวันเดียว 8-9 งาน ถ้าวันเด็ก บางทีไปเป็น10-20 งาน
...ที่ชนะเลือกตั้งมาได้หลายสมัย ส่วนหนึ่งคิดว่าประชาชนเขาเชื่อว่าเรามีความรักความผูกพันกับนครนนทบุรี อย่างแท้จริง ไม่ได้เสแสร้ง ถ้าเสแสร้ง คงทำไม่ได้มาขนาด 40-50 ปี เราจะเห็นได้ว่านักการเมืองบางคนสร้างภาพ ได้เป็นสมัยเดียวก็ไปแล้ว มีแบบนี้เยอะมาก หลายครั้งเราจะเห็นบางคนช่างพูด พูดเก่งพูดดี แต่ทำจริงๆ ทำไม่ได้ ดีแต่พูด นักการเมือง ผมว่าคนนนทบุรี ก็เห็นมาเยอะ เลือกตั้งกันมาแล้วหลายสมัย ที่ผ่านมา ก็เคยมีคนมาชวนให้เข้าการเมืองระดับชาติ ชวนให้ลงสมัครส.ส. แต่ผมไม่อยากไป เพราะผูกพันอยู่กับท้องถิ่น -พื้นที่ ถ้าไปการเมืองระดับชาติ ก็ห่างจากชาวบ้าน ผมอยู่แบบนี้ ผมช่วยชาวบ้านได้
...ผมคิดว่านักการเมืองท้องถิ่นสิ่งสำคัญคือต้องพูดจริงทำจริง และกล้าคิดกล้าทำ ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านคือปัญหาที่เขาต้องการให้แก้ไข ผมมักพูดกับชาวบ้านเสมอว่า บ่นร้อยครั้ง สู้บอกครั้งเดียวไม่ได้ บ่นไปผมก็ไม่ได้ยิน แต่หากอะไรไม่ดี เดือดร้อนอะไร ขอให้มาบอก ผมจะทำให้ ผมเลยมีสโลแกนว่า “บ่นร้อยครั้ง สู้บอกครั้งเดียวไม่ได้"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
🛑LIVE คิด - วิเคราะห์ - แยกแยะ!! ภาพร่วมเฟรม 'เจ้าพ่อสแกม' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ :วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้
🛑LIVE ละครการเมือง คว่ำน้ำเงิน!? | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : พุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568


