ยางตระกูล ‘มิชลิน พาวเวอร์’ โชว์ศักยภาพโดดเด่น ในสนามเปิดฤดูกาล ‘โมโตจีพี’

การแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ‘โมโตจีพี’ สนามเปิดฤดูกาลปี 2568 ภายใต้ชื่อรายการ ‘พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์’ (PT Grand Prix of Thailand) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ โดยไม่เพียงเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสนามเปิดฤดูกาลและ     ครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปีที่การแข่งขันสนามเปิดฤดูกาลจัดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังเป็นครั้งแรกของ ‘โมโตจีพี’ ที่จัดงานแถลงเปิดฤดูกาล (Season Launch) อย่างเป็นทางการ โดยเลือกโครงการ “วัน แบงค็อก” ในกรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่จัดงาน

ตลอด 3 วันของการแข่งขันมีผู้ชมในสนามรวมกว่า 200,000 คน และผู้รับชมถ่ายทอดสดผ่านสื่อต่าง ๆ อีกกว่า 800 ล้านคน จาก 220 ประเทศทั่วโลก ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมิชลินได้พิสูจน์ศักยภาพของยางในตระกูล ‘มิชลิน พาวเวอร์’ ซึ่งโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการยึดเกาะที่เหนือชั้นและสมรรถนะที่ดีเยี่ยมสม่ำเสมอในทุกสภาวะ ภายใต้แนวคิด We Race for Change (การลงสนามแข่งเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่การสัญจรที่ยั่งยืน) ที่มุ่งพัฒนายางให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือชั้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตยาง

มร. ปิเอโร ทารามัสโซ่ (Piero Taramasso) ผู้จัดการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต กลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 ล้อ ของมิชลิน เปิดเผยว่า “ในการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล เราพบว่าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งที่มีความท้าทายสูง โดยอุณหภูมิพื้นสนามร้อนและเส้นทางวิ่งที่เป็นทางตรงยาวทำให้เกิดแรงเค้นจากภาระความร้อน หรือ Thermal Load ต่อยางล้อหน้าและยางล้อหลังของรถ มิชลินจึงเลือกใช้ยางเสริมความแกร่งที่มีโครงสร้างพิเศษช่วยให้อุณหภูมิภายในของยางอยู่ในระดับต่ำ เพื่อสมรรถนะสูงสุดบนสนามแข่ง”

ในฐานะผู้สนับสนุนยางสำหรับการแข่งขัน ‘โมโตจีพี’ อย่างเป็นทางการ มิชลินได้จัดเตรียมยางในตระกูล ‘มิชลิน พาวเวอร์’ ทั้งยาง ‘พาวเวอร์ สลิค’ สำหรับพื้นแห้ง และ ยาง ‘พาวเวอร์ เรน’ สำหรับพื้นเปียก รวมทั้งสิ้น 1,100 เส้นไว้สำหรับการแข่งขันแต่ละสนามในฤดูกาลนี้  ขณะที่ทีมผู้เชี่ยวชาญประจำสนามแข่งของมิชลินรวม 25 ราย ซึ่งประกอบด้วยนักพัฒนาผลิตภัณฑ์, ช่างเทคนิค, ช่างประกอบติดตั้งยาง, ผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ประสานงาน, เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่สื่อสารการตลาด จะจัดแบ่งกลุ่มออกประจำการทุกสนามแข่งเพื่อเก็บข้อมูลยาง ตรวจสอบ วิเคราะห์ ให้คำแนะนำ และเผยแพร่ข่าวสารต่าง ๆ

สำหรับมิชลิน กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็น “ตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรม” เพราะการขับขี่อย่างหนักหน่วงในกีฬามอเตอร์สปอร์ตทำให้มีโอกาสสร้างสรรค์สิ่งใหม่, ทดลอง, เรียนรู้, คิดวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ และเร่งการพัฒนาโซลูชั่นที่ยั่งยืนเพื่อยกระดับคุณภาพการขับขี่และเพื่อโลกที่ดีขึ้น  ผลิตภัณฑ์ยางมิชลินล่าสุดซึ่งนำเทคโนโลยีจาก ‘โมโตจีพี’ มาพัฒนาต่อยอดเพื่อการใช้งานบนท้องถนน ได้แก่ ‘มิชลิน พาวเวอร์ 6’ (MICHELIN Power 6) ยางที่ออกแบบขึ้นสำหรับใช้งานกับรถจักรยานยนต์ประเภทโรดสเตอร์, สปอร์ต และไฮเปอร์สปอร์ต ขนาด 600 ซีซี ขึ้นไป, ‘มิชลิน โรด 6’ (MICHELIN Road 6) ยางที่ออกแบบมาเพื่อมอเตอร์ไซค์สปอร์ตสมรรถนะสูง และ ‘มิชลิน พาวเวอร์ ชิฟท์’ (MICHELIN Power Shift) ยางสำหรับรถจักรยานยนต์แบบ Maxi Scooter ที่ดีที่สุดในทุกสมรรถนะ


โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอ็มจี จัดกิจกรรม IM TECH DAY แลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะในการใช้รถ “NEW MG IM6”

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย

“ยามาฮ่าร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ผนึกกำลังพันธมิตร ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

อุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด และจิรภัทร สายเพชร ผู้จัดการทั่วไป ส่วนสื่อสารการตลาด

JAECOO คว้าอันดับ 1 ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568

OMODA & JAECOO (อ่านว่าโอโมด้า แอนด์ เจคู่) ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ

Hyundai all-new SANTA FE Hybrid “ประหยัด-กว้าง-แรง-ปลอดภัย” กับราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1.6 ล้านบาท

ตลาด SUV ในไทยยังคงร้อนแรง และปีนี้ฮุนได ขอพาทุกคนสัมผัสมิติใหม่ของเทคโนโลยีไฮบริดจากเกาหลี กับ The all-new SANTA FE Hybrid รถ SUV