เคล็ดลับรับมือเหตุฉุกเฉินในรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผู้ใช้รถทุกคนต้องรู้ จาก DEEPAL

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเพิ่มจำนวนบนท้องถนนอย่างรวดเร็วในประเทศไทยกับยอดจดทะเบียนในปี 2567 ที่ผ่านมาสูงถึง 96,736 คัน และมียอดสะสมถึง 227,490 คัน* ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษายานยนต์ไฟฟ้าและวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ทั้งในกลุ่มประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่กู้ภัย วันนี้ DEEPAL ในฐานะแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำภายใต้ CHANGAN Automobile เล็งเห็นความสำคัญด้านความปลอดภัยบนท้องถนน และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความรู้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเหตุสุดวิสัย โดยเฉพาะใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง ซึ่งการจราจรจะหนาแน่นเป็นพิเศษ จึงตอกย้ำความมุ่งมั่น ผ่านการให้คำแนะนำด้านการรับมืออุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยของทุกคนรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปมีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ ในขณะที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปใช้น้ำมันเป็นแหล่งพลังงานจึงมีความเสี่ยงจากการรั่วไหลของเชื้อเพลิง รถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่แรงดันสูงที่อาจจะยังเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้แม้เกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งความเสี่ยงหลักของรถทั้งสองประเภทก็แตกต่างกัน โดยรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปอาจเกิดไฟไหม้จากน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหล ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าอาจเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Thermal runaway หรือการที่แบตเตอรี่มีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกินการควบคุม ซึ่งเป็นการลุกไหม้ของแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ดับได้ยากกว่ามากนอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนประกอบหลักที่ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่แรงดันสูง (Power Battery Pack) ที่เป็นเสมือนหัวใจสำหรับกักเก็บและจ่ายพลังงาน ชุดควบคุมมอเตอร์และมอเตอร์ขับเคลื่อน (MCU & Drive Motor) แทนกล้ามเนื้อที่ทำให้เคลื่อนไหวได้ โมดูลควบคุมรถยนต์ (Vehicle Control Unit) เป็นสมองคอยสั่งการ ไปจนถึงชุดมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนรถ รวมถึงระบบปรับอากาศและทำความร้อนที่ทำงานด้วยไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง

ในกรณีอุบัติเหตุทั่วไป สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตอบสนองฉุกเฉินด้วยการพาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ออกจากบริเวณ ติดต่อเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกั้นพื้นที่ จากนั้นต้องพยายามตัดระบบไฟฟ้าแรงสูงของรถให้เร็วที่สุดด้วยเครื่องมือฉนวนไฟฟ้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ขั้นตอนสำคัญลำดับถัดมาคือการประเมินความปลอดภัย โดยต้องตรวจสอบการรั่วไหล ความเสียหาย หรือความเสี่ยงอื่นๆ รวมถึงประเมินระบบไฟฟ้าแรงสูงของรถ หากพบความเสี่ยงสูง ควรแจ้งผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าแรงดันสูงหรือทีมงานเฉพาะทางให้เข้ามาช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

คนส่วนใหญ่เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่จมน้ำจะมีไฟฟ้ารั่วไหลและเป็นอันตรายต่อผู้คนในบริเวณนั้น แต่ความจริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่มีระบบป้องกันที่ค่อนข้างดีและจะตัดระบบไฟฟ้าแรงดันสูงโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบความผิดปกติ     อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของชีวิต ดังนั้น หากรถถูกน้ำท่วมอย่างรุนแรง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารควรรีบออกจากตัวรถทันทีแล้วค่อยขอความช่วยเหลือ จากนั้นควรตัดระบบไฟของรถทันทีและปิดสวิตช์ซ่อมบำรุง (ถ้ามี) ไม่ควรปล่อยให้รถแช่น้ำนานเกินไปและควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสภาพก่อนสตาร์ทรถ เพื่อไม่ให้เกิดการลัดวงจรและไฟไหม้ตามมา

การลากจูงรถยนต์ไฟฟ้าที่จมน้ำก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ควรใช้รถลากแบบพื้นเรียบ (Flatbed Tow Truck) และป้องกันไม่ให้ล้อหมุนระหว่างการเคลื่อนย้าย เนื่องจากการหมุนของล้ออาจทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากระบบไฟฟ้าเกิดความเสียหายจากน้ำ

ไฟไหม้ในรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่น่ากลัวกว่าในรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปอย่างมาก เพราะเมื่อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเกิด Thermal Runaway จะปล่อยออกซิเจนออกมาเอง ทำให้ดับไฟได้ยากมากและอาจลุกไหม้ซ้ำ ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือตัดระบบไฟฟ้าของรถทันที กดปุ่มปิดระบบไฟหากเป็นรถที่มีระบบสตาร์ทแบบไม่ใช้กุญแจ หรือถอดกุญแจออกและนำกุญแจออกห่างจากตัวรถ จากนั้นควรแจ้งเหตุฉุกเฉินโดยระบุสถานที่เกิดเหตุ ประเภทรถ และระดับความรุนแรงของไฟไหม้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมมาช่วยเหลือ

ในปัจจุบัน มีนวัตกรรมล่าสุดที่ช่วยในการรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้คือผ้าห่มกันไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Fire Blanket ซึ่งออกแบบมาเพื่อควบคุมและจำกัดการลุกไหม้ ลดการเข้าถึงของออกซิเจน ควบคุมเปลวไฟ ควัน และไอพิษ รวมถึงป้องกันการลุกลามของไฟไปยังรถคันอื่นหรือสิ่งปลูกสร้างใกล้เคียง โดยต้องเข้าหารถด้วยความระมัดระวัง คลี่ผ้าห่มแล้วคลุมรถให้มิดชิดทั้งคัน ปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อลดความเสี่ยงของการลุกไหม้ซ้ำ อย่างไรก็ตาม ผ้าห่มชนิดนี้ไม่สามารถดับการลุกไหม้จากการลัดวงจรของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้โดยตรง แต่ช่วยควบคุมสถานการณ์ให้ดีขึ้น

โลกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล ทำให้เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญแม้แต่ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ โดยมีแอปพลิเคชัน Euro RESCUE และ ANCAP RESCUE เป็นคู่มือกู้ภัยที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลเฉพาะของรถยนต์แต่ละรุ่น เช่น ตำแหน่งของแบตเตอรี่แรงดันสูง จุดตัดที่ปลอดภัย และตำแหน่งของถุงลมนิรภัย นอกจากนี้ ยังมี “ปลั๊กฉุกเฉิน” (Emergency Plug) เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้เสียบเข้ากับช่องชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อจำลองสถานะการชาร์จไฟฟ้า และบังคับให้ระบบแรงดันสูงของรถตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น

ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ความรู้เกี่ยวกับการรับมือกับอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าจึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ DEEPAL ไม่เพียงเดินหน้านำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ แต่ยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้แก่ผู้ใช้รถและสังคมโดยรวม ด้วยความเชื่อมั่นว่าการเข้าใจวิธีการรับมือกับอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกคนบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่กู้ภัย หรือประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้และปรับตัวคือกุญแจสำคัญสู่ความปลอดภัย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าและวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจึงไม่ใช่เพียงความรู้เสริม แต่เป็นทักษะสำคัญที่อาจช่วยชีวิตได้ในอนาคตอันใกล้


โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“TPG X” ลงทุนร่วม “เลมอน-เอด” หัวแถวสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มดิจิทัลรถยนต์ มือสองเมืองไทย

บริษัท ทีพีจี เอ็กซ์ จำกัด (TPG X) บริษัทลงทุนชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งมองหาโอกาสทางการเติบโตด้านเทคโนโลยียานยนต์ เสริม

โรบินฮู้ด เดลิเวอรี่ จัดแคมเปญ “Robinhood for Hero” ร่วมส่งต่อกำลังใจสู่ครอบครัวทหารกล้า

สถานการณ์บ้านเมืองที่ผู้คนสนใจมากที่สุดในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ทหารและ

โตโยต้า เปิดศึกการแข่งขันออฟโรดสุดมันส์ ใน “TOYOTA HILUX REVO 10 เซียนประจัญบาน 2025”

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดการแข่งขัน “TOYOTA HILUX REVO 10 เซียนประจัญบาน 2025”