พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (15)

 

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490  เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489  ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่ 

4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง  และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง   และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี”

พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ? 

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินข้อน้ำหนักความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตั้งฉายา “พฤฒสภา” ว่าเป็น “สภาปรีดี” โดยไล่ไปตามลำดับตัวอักษร โดยตอนที่แล้วได้กล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้นจำนวน 27 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 13 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี 3 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 6 ท่าน

ต่อไปคือ คุณสุกิจ นิมมานเหมินท์

คุณสุกิจเกิดที่เชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2549  เรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนยุพราช และมาจากจบมัธยมที่โรงเรียนอัสสัมชัญ  ในปลายปี พ.ศ. 2468 ได้รับทุนจากครอบครัวไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ  สำเร็จปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน และได้ประกาศนียบัตรวิศวกรรมโยธาจากสถาบันแบตเตอร์ซีโพลีเทคนิค เมื่อ พ.ศ. 2473 ต่อมาอีกหนึ่งปี ได้รับปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน  กลับมารับราชการเป็นอาจารย์สอนวิชาฟิสิกซ์และไฮโดรลิกส์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2476 และทำหน้าที่เป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดและนำระบบใหม่ในการจัดการห้องสมุดมาใช้  ต่อมาเป็นเลขานุการคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2481 ทำหน้าที่เลขานุการจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2483 รักษาการคณบดีคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์แทนท่านเดิมที่ถึงแก่กรรม และเป็นหัวหน้าแผนกคณิตศาสตร์ด้วย ขณะเดียวกันเป็นอาจารย์พิเศษที่โรงเรียนนายร้อยเทคนิคทหารบกโดยไม่ขอรับค่าสอนและเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย เมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพาเกิดขึ้น รัฐบาลเห็นความสามารถและคุณวุฒิจึงย้ายสังกัดไปเป็นอธิบดีกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2489 ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา                 จากการสืบค้นข้อมูล ไม่พบว่าท่านศาสตราจารย์สุกิจมีความสนิทสนมอะไรเป็นพิเศษกับปรีดี พนมยงค์  การกล่าวถึงศาสตราจารย์สุกิจของปรีดี ก็เป็นในเรื่องขอให้สืบค้นศึกษาข้อมูลทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์ และการให้พิจารณาเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งในครั้งที่ท่านศาสตราจารย์สุกิจเป็นรองนายกรัฐมนตรีในช่วงหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516

การที่ท่านได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกพฤฒสภาน่าจะมาจากความรู้ความสามารถของท่านเป็นสำคัญ ต่อไปคือ คุณไสว อินทรประชา

คุณไสวน่าจะเป็นผู้ที่สนใจการเมืองอย่างยิ่ง เพราะท่านได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งแรก และได้เป็นผู้แทนจังหวัดสวรรคโลก (สุโขทัย) ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 จนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 และอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 - วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2488       

คุณไสวเป็นผู้แทนราษฎรที่ตั้งกระทู้ถามปรีดี พนมยงค์ในประชุมสภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ. 2477 ในเรื่องเกี่ยวกับการยกท้องถิ่นนั้นเป็นรูปแบบเทศบาลมีหลักอย่างไร และเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2476 พระยาพหลฯ นายกรัฐมนตรีขอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายและตัดถนนเชื่อมคมนาคมกรุงเทพพระมหานครกับดอนเมือง และเพื่อสร้างอนุสาวรีย์ทหารปราบกบฏ พุทธศักราช 2476” โดยเหตุผลสำคัญในการเสนอญัตตินี้คือ การตัดถนนจากสนามเป้าไปยังดอนเมืองเนื่องจากเหตุผลด้านยุทธศาสตร์ทางการทหารเพื่อควบคุมพื้นที่ดอนเมือง อีกทั้งยังต้องการพัฒนาสนามบินดอนเมืองเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ขณะที่การสร้างอนุสาวรีย์เป็นผลพลอยได้จากการตัดถนนเส้นนี้ คุณนายไสวได้ถามรัฐบาลว่า “สร้างอนุสาวรีย์นี้สำหรับทหารผู้ปราบกบฏที่ได้เสียชีวิตหรือหมายความว่าทหารทุกคนผู้ปราบกบฏ”  พระยาพหลฯ ได้ตอบว่า “ในเรื่องอนุสาวรีย์นี้ ความประสงค์เดิมเราไม่ได้คิดว่าจะสร้างเลย แต่เมื่อบังเอิญสร้างถนนเช่นนี้ก็ประจวบเหมาะ จึ่งเลยถือโอกาสสร้างอนุสสาวรีย์นี้ด้วย” (จากฐานข้อมูลสถาบันปรีดี พนมยงค์)

จากข้อมูลเท่าที่ค้นได้ขณะนี้ ยังไม่พบหลักฐานความสนิทสนมระหว่างคุณไสวกับปรีดี พนมยงค์แต่อย่างใด

สรุปผลล่าสุด คือ

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

  แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี  เดชาติวงศ์

   +

 

 

 

ร.อ. กำลาภ  กาญจนสกุล ร.น.

   +

 

 

 

พ.ท.  ก้าน  จำนงภูมิเวท 

 

   +

 

 

แก้ว  สิงหะคเชนทร์

 

 

 

     +

หลวงกาจสงคราม

 

   +

 

 

พลเรือตรี กระแส  ประวาหะนาวิน  สรยุทธเสนี

 

 

 

+

 

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

 

  +

 

 

เขียน  กาญจพันธุ์ 

 

 

 

     +

พลโท จิระ  วิชิตสงคราม

 

 

 

     +

จรูญ สืบแสง

    +

 

 

 

จิตตะเสน ปัญจะ

 

  +

 

 

พันโท เจือ  สฤษฎิ์ราชโยธิน 

 

 

 

     +

จำรัส สุวรรณชีพ

   +

 

 

 

จินดา จินตนเสรี

   +

 

 

 

จำลอง ดาวเรือง

   +

 

 

 

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์) 

 

   +

 

 

ไต๋ ปาณิกบุตร

   

 

+

 

ถวิล อุดล

   +

 

 

 

ทัน พรหมิทธิกุล

   +

 

 

 

พระยานลราชสุวัจน์  (ทองดี  นลราชสุวัจน์) 

 

 

 

       +

พระนิติการณ์ประสม  (สงวน  ชัยเฉนียน)

 

 

 

      +

ปพาฬ  บุญ-หลง

   +

 

 

 

หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน  หงสประภาส)

   +

 

 

 

ประทุม  รมยานนท์

 

 

+

 

พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ

   +

 

 

 

พึ่ง ศรีจันทร์

   +

 

 

 

มิ่ง  เลาห์เรณู

   +

 

 

 

สุกิจ นิมมานเหมินท์

 

 

 

       +

ไสว อินทรประชา

 

 

 

       +

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 29 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 13 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  3 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 8 ท่าน

                   

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้