พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (18)

 

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490  เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489  ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่ 

ผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง  และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง   และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี”      พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินข้อน้ำหนักความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตั้งฉายา “พฤฒสภา” ว่าเป็น “สภาปรีดี” โดยไล่ไปตามลำดับตัวอักษร โดยตอนที่แล้วได้กล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้นจำนวน 32 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 14 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  3 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 8 ท่าน

ต่อไปคือ  คุณเฉลียว ปทุมรส

คุณเฉลียวเป็นสมาชิกคณะราษฎรสายพลเรือน และได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว และได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2482 และเป็นสมาชิกสังกัดพรรคแนวรัฐธรรมนูญ ภายใต้การนำของนายปรีดี พนมยงค์ [1]      และในช่วงที่ปรีดี พนมยงค์ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ คุณเฉลียวได้รับแต่งตั้งให้เป็นราชเลขานุการในพระองค์ [2]  กล่าวได้ว่า คุณเฉลียวเป็นที่ไว้วางใจของปรีดี พนมยงค์ และการที่คุณเฉลียวได้รับเลือกและแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา จึงมีส่วนทำให้พฤฒสภาได้รับฉายาว่า “สภาปรีดี”

ต่อไปคือ พันเอก  หลวงชาญสงคราม  (กฤษณ  ชาลีจันทร์)

พันเอกหลวงชาญสงคราม เป็นสมาชิกคณะราษฎร สายทหารบก [3] และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2476 [4] ในปี พ.ศ. 2481 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการศาลพิเศษพิจารณาคดีบรรดาผู้ต้องหากบฏที่ถูกตั้งข้อหาและถูกจับโดยคำสั่งของพันเอก หลวงพิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายคนถูกตั้งข้อหาโดยไม่มีหลักฐาน ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเสนาธิการทหารบก และในระหว่าง พ.ศ. 2484-2489 ได้เป็นนายกเทศมนตรีนครกรุงเทพ พ.ศ. 2484 – 2489 [5] ตำแหน่งสุดท้ายของท่านคือ สมาชิกพฤฒสภา หลังจากรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ แม้ว่าขณะนั้น ท่านจะมีอายุเพียง 52 ปี 

ในหนังสืออนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพ ได้บันทึกไว้ว่า “ในบั้นปลายแห่งชีวิต หลวงขาญสงครามรักชีวิตสงบเงียบๆ สนใจในทางธรรมะและโบราณคดี และเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายในปี พ.ศ. 2499 ในขณะที่ท่านอายุ 61 ปี” และในหนังสืออนุสรณ์ฯ ได้บันทึกว่า “หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ภาษาอังกฤษ ชื่อ Standard ฉบับประจำวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2499 มีใจความสำคัญว่า หลวงชาญสงครามเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะราษฎร ที่ก่อการรัฐประหาร (coup) พ.ศ. 2475 ท่านได้แรงบันดาลใจที่จะเห็นสยามเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่เมื่อสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นผิดแผกไป ท่านก็ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งและสถานะที่สูงขึ้น และออกจากราชการและการเมืองไปใช้ชีวิตส่วนตัว ท่านมุ่งไปที่การศึกษาธรรมะและการทำบุญ ชาติได้สูญเสียผู้รักชาติผู้แท้จริงและนักประชาธิปไตยผู้ยึดมั่นในหลักการอย่างแน่วแน่ อย่างไรก็ตาม ท่านจะถูกจดจำในฐานะบุรุษผู้ยึดมั่นในหลักการเหนือผลประโยชน์ส่วนตัว ในฐานะหนึ่งในไม่กี่คนที่ยอมสละลาภยศสรรเสริญเพื่อรักษาอุดมคติอันล้ำค่าที่ยังไปไม่ถึง ท่านและคนอย่างท่านจะไม่มีวันถูกลืม [6] 

หนังสือพิมพ์ Standard ที่ให้ความสำคัญกับการจากไปของหลวงชาญสงคราม เป็นหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ภาษาอังกฤษ ที่จัดทำโดย หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ณ อยุธยา ชายาในศาสตราจารย์พิเศษ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร พระโอรสในพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน บิดาแห่งการรถไฟไทย ตีพิมพ์ระหว่าง พ.ศ. 2489-2490 และเชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเคยเป็นผู้สื่อข่าว โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำรัสถึงการเป็นผู้สื่อข่าวให้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ [7]

จากข้อมูลเบื้องต้นที่กล่าวมานี้ ไม่มีหลักฐานบ่งชัดว่า ท่านมีความสนิทสนมหรือฝ่ายใด                

สรุปผลล่าสุด คือ         

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

  แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี  เดชาติวงศ์

   +

 

 

 

ร.อ. กำลาภ  กาญจนสกุล ร.น.

   +

 

 

 

พ.ท.  ก้าน  จำนงภูมิเวท 

 

   +

 

 

แก้ว  สิงหะคเชนทร์

 

 

 

     +

หลวงกาจสงคราม

 

   +

 

 

พลเรือตรี กระแส  ประวาหะนาวิน  สรยุทธเสนี

 

 

+

 

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

 

  +

 

 

เขียน  กาญจพันธุ์ 

 

 

 

     +

พลโท จิระ  วิชิตสงคราม

 

 

 

     +

จรูญ สืบแสง

    +

 

 

 

จิตตะเสน ปัญจะ

 

  +

 

 

พันโท เจือ  สฤษฎิ์ราชโยธิน 

 

 

 

     +

จำรัส สุวรรณชีพ

   +

 

 

 

จินดา จินตนเสรี

   +

 

 

 

จำลอง ดาวเรือง

   +

 

 

 

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์) 

 

   +

 

 

ไต๋ ปาณิกบุตร

   

 

+

 

ถวิล อุดล

   +

 

 

 

ทัน พรหมิทธิกุล

   +

 

 

 

พระยานลราชสุวัจน์  (ทองดี  นลราชสุวัจน์) 

 

 

 

       +

พระนิติการณ์ประสม  (สงวน  ชัยเฉนียน)

 

 

 

      +

ปพาฬ  บุญ-หลง

   +

 

 

 

หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน  หงสประภาส)

   +

 

 

 

ประทุม  รมยานนท์

 

 

+

 

พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ

   +

 

 

 

พึ่ง ศรีจันทร์

   +

 

 

 

มิ่ง  เลาห์เรณู

   +

 

 

 

สุกิจ นิมมานเหมินท์

 

 

 

       +

ไสว อินทรประชา

 

 

 

       +

พันโท พระอภัยพลรบ  (ชลอ  อินทรัมพรรย์)

   +

 

 

 

หลวงอรรถกัลยาณวินิจ  (เอื้อน  ยุกตะนันทน์)

 

 

 

     +

อรุณ  แสงสว่างวัฒนะ

 

 

 

    +

    เฉลียว ปทุมรส

   +

 

 

 

   หลวงขาญสงคราม

 

 

 

      +

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 34 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 15 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  3 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 11 ท่าน


[1] สมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือน,  ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์, “คณะราษฎร” ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475, https://pridi.or.th/th/content/2023/06/1563      ต่อมาได้เป็นอดีตสมาชิกพฤฒสภา สังกัดพรรคแนวรัฐธรรมนูญ ภายใต้การนำของนายปรีดี พนมยงค์

[2] อาชญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ, ปรีดี พนมยงค์ กับความพยายามช่วยเหลือบุตรชายของพระประศาสน์พิทยายุทธช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2, สถาบันปรีดี พนมยงค์ https://pridi.or.th/th/content/2025/05/2441

[3] สมาชิกคณะราษฎร สายทหารบก,  ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์, “คณะราษฎร” ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475,  https://pridi.or.th/th/content/2023/06/1563

[4] https://dl.parliament.go.th/handle/20.500.13072/35919

[5] 2483 Reenactment Group, 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565,

https://www.facebook.com/2483RG/posts/พันเอก-หลวงชาญสงคราม-พาน-กฤษณ์-ชาลีจันทร์-ต้นสกุลมาจากเจ้าชาลี-และ-เจ้าจันทรประภ/646081530888177/

[6]   หนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พันเอกหลวงชาญสงคราม (กฤษณ์ ชาลีจันทร์) 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500,    หน้า ช-ซ

[7] ดิษยุตม์ ธนบุญชัย, บันทึกการตามหา ‘Standard’ หนังสือพิมพ์ที่รัชกาลที่ 9 เคยทรงงานเป็นช่างภาพ (ตอนที่ 1 เบาะแส), The Standard, https://thestandard.co/kingrama9-standard-newspaper-1/#:~:ดยหลังจากทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าหนังสือพิมพ์ฉบับที่ว่านั้นเป็นหนังสือพิมพ์สมัยสงครามโลกครั้งที่%202%20จัดพิมพ์รายสัปดาห์เป็นภาษาอังกฤษ%20จัดทำโดย%20หม่อมงามจิตต์%20บุรฉัตร%20ณ%20อยุธยา,กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน%20บิดาแห่งการรถไฟไทย%20ตีพิมพ์ใน%20พ.ศ.%202489-2490%20โดยเชื่อว่าฉบับที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นผู้สื่อข่าวคือ%20พ.ศ.%202489

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้