พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (21)

 

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490  เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489  ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่ 

4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร                                                           

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง  และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง   และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี” พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?                     

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินข้อน้ำหนักความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตั้งฉายา “พฤฒสภา” ว่าเป็น “สภาปรีดี” โดยไล่ไปตามลำดับตัวอักษร โดยตอนที่แล้วได้กล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้นจำนวน 36 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 15 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  4 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

ต่อไปคือ  คุณชาญ  บุนนาค

คุณชาญได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เมื่อวันที่  2 กันยายน พ.ศ. 2488  แทน ร.ท. เชย  กลัญชัย  ที่ลาออกไป ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2488 น่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ คุณชาญเป็นเสรีไทยสายหัวหิน ตามข้อมูลกล่าวว่า “เมื่อเสรีไทยในประเทศมีความเป็นปึกแผ่นมากขึ้น จึงได้ตั้งระบบกองบัญชาการเสรีไทย ซึ่งมีนายปรีดี พนมยงค์เป็นหัวหน้าสูงสุด นายชาญ บุนนาค ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าสืบราชการลับและวิทยุสื่อสาร ด้วยภูมิหลังเป็นนายช่างวิทยุและนายช่างบันทึกเสียง จึงได้รับผิดชอบตั้งสถานีวิทยุลับที่กองบัญชาการใหญ่เสรีไทย สื่อสารกับกองบัญชาการสัมพันธมิตรภาคเอเชียอาคเนย์ (South - East Asia Command - SEAC) และหน่วยรองที่ศรีลังกาและอินเดีย และกระจายสถานีย่อยสำรองต่าง ๆ ในพระนคร ที่แห่งหนึ่งคือบ้านพระสุจริตสุดา พระสนมเอกในรัชกาลที่ ๖ ผู้เป็นพี่สาวภรรยา นายชาญได้ยืมบ้านหลังนี้สำหรับตั้งสถานีวิทยุลับทั้งฝ่ายอังกฤษและอเมริกัน” [1]                 ในช่วงทศวรรษหลังรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ได้มีการการกวาดล้างสมัครพรรคพวกและลูกศิษย์ของปรีดี พนมยงค์ และคุณชาญ บุนนาค ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกสังหาร [2]  จึงกล่าวได้ว่า การที่คุณชาญ บุนนาค ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 มีส่วนทำให้พฤฒสภาได้รับการขนานนามว่าเป็น “สภาปรีดี”

ต่อไปคือ คุณชุณฑ์  ปิณฑานนท์   

คุณชุณฑ์เป็นสมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือน [3] และได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 และในปี พ.ศ. 2477 ปรีดี พนมยงค์ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการควบคุมกรรมกร [4]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 ได้มีการตั้งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แทนพระคลังข้างที่ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ผู้ดำรงตำแหน่งขณะนั้นคือ ปรีดี พนมยงค์ และปรีดีได้ตั้งให้คุณชุณฑ์เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และต่อในปี พ.ศ. 2484 อันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ปรีดี พนมยงค์ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ คุณชุณฑ์ได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ด้วยผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด คือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามกฎหมาย [5]

จากข้อมูลที่กล่าวมานี้ คุณชุณฑ์น่าจะเป็นบุคคลที่ปรีดี พนมยงค์ให้ความไว้วางใจ และการที่ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภาน่าจะมีส่วนทำให้พฤฒสภาได้รับการขนานนามว่าเป็น “สภาปรีดี” ด้วย

สรุปผลล่าสุด คือ

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

  แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี  เดชาติวงศ์

   +

 

 

 

ร.อ. กำลาภ  กาญจนสกุล ร.น.

   +

 

 

 

พ.ท.  ก้าน  จำนงภูมิเวท 

 

   +

 

 

แก้ว  สิงหะคเชนทร์

 

 

 

     +

หลวงกาจสงคราม

 

   +

 

 

พลเรือตรี กระแส  ประวาหะนาวิน  สรยุทธเสนี

 

 

 

+

 

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

 

  +

 

 

เขียน  กาญจพันธุ์ 

 

 

 

     +

พลโท จิระ  วิชิตสงคราม

 

 

 

     +

จรูญ สืบแสง

    +

 

 

 

จิตตะเสน ปัญจะ

 

  +

 

 

พันโท เจือ  สฤษฎิ์ราชโยธิน 

 

 

 

     +

จำรัส สุวรรณชีพ

   +

 

 

 

จินดา จินตนเสรี

   +

 

 

 

จำลอง ดาวเรือง

   +

 

 

 

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์) 

 

   +

 

 

ไต๋ ปาณิกบุตร

   

 

+

 

ถวิล อุดล

   +

 

 

 

ทัน พรหมิทธิกุล

   +

 

 

 

พระยานลราชสุวัจน์  (ทองดี  นลราชสุวัจน์) 

 

 

 

       +

พระนิติการณ์ประสม  (สงวน  ชัยเฉนียน)

 

 

 

      +

ปพาฬ  บุญ-หลง

   +

 

 

 

หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน  หงสประภาส)

   +

 

 

 

ประทุม  รมยานนท์

 

 

+

 

พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ

   +

 

 

 

พึ่ง ศรีจันทร์

   +

 

 

 

มิ่ง  เลาห์เรณู

   +

 

 

 

สุกิจ นิมมานเหมินท์

 

 

 

       +

ไสว อินทรประชา

 

 

 

       +

พันโท พระอภัยพลรบ  (ชลอ  อินทรัมพรรย์)

   +

 

 

 

หลวงอรรถกัลยาณวินิจ  (เอื้อน  ยุกตะนันทน์)

 

 

 

     +

อรุณ  แสงสว่างวัฒนะ

 

 

 

    +

    เฉลียว ปทุมรส

   +

 

 

 

   หลวงขาญสงคราม

 

 

 

      +

พันเอก ช่วง  เชวงศักดิ์สงคราม   

 

 

+

 

หลวงชำนาญนิติเกษตร์  (อุทัย  แสงมณี)  

 

 

 

       +

 ชาญ บุนนาค

  +

 

 

 

ชุณฑ์  ปิณฑานนท์  

   +

 

 

 

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 38 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 17 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  4 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน


[1] วันใหม่ นิยม, “ชาญ บุนนาค ช่างเสียงมือหนึ่ง เสรีไทยหัวหิน สู่เหยื่อฆาตกรรมการเมือง,”   https://pridi.or.th/th/content/2024/12/2251

[2] อาชญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ, ปฏิบัติการฆาตกรรมทางการเมือง: สองพี่น้อง ชาญ และ เล็ก บุนนาค, สถาบันปรีดี พนมยงค์ https://pridi.or.th/th/content/2021/03/628

[3] สมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือน,  ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์, “คณะราษฎร” ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475,  https://pridi.or.th/th/content/2023/06/1563

[4] วัลยา, ถวัติ ฤทธิเดช : กรรมกรที่ก้าวหน้า กับ มโนทัศน์ของปรีดี พนมยงค์ และนโยบายคณะราษฎรต่อกรรมกรไทย,  สถาบันปรีดี พนมยงค์ https://pridi.or.th/th/content/2022/05/1077

[5] ปิณฑานนท์ - SCG-Heritage.com

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้