
ไชยันต์ ไชยพร
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่
1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1
2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง
3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่
4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร
5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2
6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี
จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489
รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี”
พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?
ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินข้อน้ำหนักความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตั้งฉายา “พฤฒสภา” ว่าเป็น “สภาปรีดี” โดยไล่ไปตามลำดับตัวอักษร โดยตอนที่แล้วได้กล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้นจำนวน 38 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 17 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี 4 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน
ต่อไปคือ พลตรี ไชย ประทีปะเสน
พลตรีไชย เป็นสมาชิกคณะราษฎร สายทหารบก [1] ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ชั่วคราว และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 แทนแทน พ.อ. พระยาฤทธิอัคเนย์ (สละ เอมะศิริ) เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2481 และในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2485 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 10 ที่มีจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี และต่อมาในคณะรัฐมนตรีเดียวกันนั้น ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2486 หลังสิ้นสุดสงครามเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2488 และการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม พลตรีไชย ประทีปะเสนต้องออกจากราชการในทุกตำแหน่ง ยกเว้นสมาชิกภาพในสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม 2489 มีผู้ที่เห็นว่า ท่านจะนายทหารที่สนิทชิดเชื้อกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม และได้รับการเรียกขานว่าเป็น “เลขาฯคู่ใจหลวงพิบูลฯ” แต่หลังรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ท่านก็มิได้รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แม้หลังการรัฐประหารปี 2490 ทำให้หลวงพิบูลฯกลับมาเป็นนายกฯ พลตรี ไชย ก็ไม่ได้กลับเข้ารับราชการหรือเข้าวงการเมือง จนถึงปี 2497 สมัยนายกฯพิบูลฯ ท่านจึงกลับเข้ารับราชการไปเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศสจนถึงปี 2503 การที่ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา แม้ท่านจะไม่ใช่พวกรัฐบาล แสดงว่าท่านต้องเป็นที่ชอบพอของผู้แทนฯที่มาจากการเลือกตั้งด้วย [2]
จากข้อมูลข้างต้น กล่าวได้ว่า การที่พลตรี ไชย ประทีปะเสนได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา ไม่น่ามีส่วนที่ทำให้พฤฒสภาเป็น “สภาปรีดี”
ต่อไปคือ
สรุปผลล่าสุด คือ คุณช่วย สุคนธมัต
จากข้อมูลเท่าที่หาได้ขณะนี้ พบว่า ก่อนที่ท่านจะได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกพฤฒสภาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 ในเดือนเมษายน ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาโดย เดือน บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ซึ่ง ดร. เดือน บุนนาค ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสนิทสนมกับปรีดี พนมยงค์ [3]ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า การที่คุณช่วยได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา มีส่วนทำให้พฤฒสภาเป็น “สภาปรีดี”
ผลล่าสุดคือ
|
สมาชิกพฤฒสภา |
ปรีดี |
ไม่ใช่พวกปรีดี |
แนวโน้มสนับสนุนปรีดี |
ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด |
|
ม.ล. กรี เดชาติวงศ์ |
+ |
|
|
|
|
ร.อ. กำลาภ กาญจนสกุล ร.น. |
+ |
|
|
|
|
พ.ท. ก้าน จำนงภูมิเวท |
|
+ |
|
|
|
แก้ว สิงหะคเชนทร์ |
|
|
|
+ |
|
หลวงกาจสงคราม |
|
+ |
|
|
|
พลเรือตรี กระแส ประวาหะนาวิน สรยุทธเสนี
|
|
|
+ |
|
|
พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต |
|
+ |
|
|
|
เขียน กาญจพันธุ์ |
|
|
|
+ |
|
พลโท จิระ วิชิตสงคราม |
|
|
|
+ |
|
จรูญ สืบแสง |
+ |
|
|
|
|
จิตตะเสน ปัญจะ |
|
+ |
|
|
|
พันโท เจือ สฤษฎิ์ราชโยธิน |
|
|
|
+ |
|
จำรัส สุวรรณชีพ |
+ |
|
|
|
|
จินดา จินตนเสรี |
+ |
|
|
|
|
จำลอง ดาวเรือง |
+ |
|
|
|
|
หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์) |
|
+ |
|
|
|
ไต๋ ปาณิกบุตร |
|
|
+ |
|
|
ถวิล อุดล |
+ |
|
|
|
|
ทัน พรหมิทธิกุล |
+ |
|
|
|
|
พระยานลราชสุวัจน์ (ทองดี นลราชสุวัจน์) |
|
|
|
+ |
|
พระนิติการณ์ประสม (สงวน ชัยเฉนียน) |
|
|
|
+ |
|
ปพาฬ บุญ-หลง |
+ |
|
|
|
|
หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน หงสประภาส) |
+ |
|
|
|
|
ประทุม รมยานนท์ |
|
|
+ |
|
|
พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ |
+ |
|
|
|
|
พึ่ง ศรีจันทร์ |
+ |
|
|
|
|
มิ่ง เลาห์เรณู |
+ |
|
|
|
|
สุกิจ นิมมานเหมินท์ |
|
|
|
+ |
|
ไสว อินทรประชา |
|
|
|
+ |
|
พันโท พระอภัยพลรบ (ชลอ อินทรัมพรรย์) |
+ |
|
|
|
|
หลวงอรรถกัลยาณวินิจ (เอื้อน ยุกตะนันทน์) |
|
|
|
+ |
|
อรุณ แสงสว่างวัฒนะ |
|
|
|
+ |
|
เฉลียว ปทุมรส |
+ |
|
|
|
|
หลวงขาญสงคราม |
|
|
|
+ |
|
พันเอก ช่วง เชวงศักดิ์สงคราม |
|
|
+ |
|
|
หลวงชำนาญนิติเกษตร์ (อุทัย แสงมณี) |
|
|
|
+ |
|
ชาญ บุนนาค |
+ |
|
|
|
|
ชุณฑ์ ปิณฑานนท์ |
+ |
|
|
|
|
พลตรี ไชย ประทีปะเสน |
|
+ |
|
|
|
ช่วย สุคนธมัต |
+ |
|
|
|
จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 40 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 18 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี 4 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 6 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน
[1] สมาชิกคณะราษฎร สายทหารบก ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์, “คณะราษฎร” ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475, https://pridi.or.th/th/content/2023/06/1563 ต่อมาเป็นเลชาธิการนายกรัฐมนตรี (จอมพล ป. พิบูลสงคราม) ดู อนุสรณ์พลตรีไชย ประทีปะเสน. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์พระจันทร์. 2505
[2] พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ https://pridi.or.th/th/content/2021/11/883 ; ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร ไชย ประทีปะเสน ฐานข้อมูลสถาบันพระปกเกล้า https://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=ไชย_ประทีปะเสน ; นริศ จรัสจรรยาวงศ์ 4 ทหารม้า ‘คณะราษฎร’ https://www.the101.world/2475-four-horseman/
[3] ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร เดือน บุนนาค ฐานข้อมูลสถาบันพระปกเกล้า https://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=เดือน_บุนนาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE วันนี้...เพื่อไทย ในวังวน 'ชินวัตร' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'อภิสิทธิ์' ลั่นต่อสู้ให้การเมืองกลับมาเป็นเรื่องความนิยมอุดมการณ์-นโยบายตัวบุคคล
หัวหน้าปชป. ไม่หวั่น อดีต สส. แห่ย้ายพรรค พร้อมส่ง สส.ชน ย้ำไม่มีใครผูกขาดคะแนนเสียง บอกหากวันเลือกตั้งต้องขยับ เนื่องจากเหตุสุดวิสัยเป็นเรื่องเข้าใจได้
ภูมิใจไทยปลุกพลังผู้สมัครสส. ชูสโลแกน 'พูดแล้วทำพลัส' ตั้งเป้าเกิน 200 ที่นั่ง!
แกนนำภูมิใจไทยกำชับว่าที่ผู้สมัคร สส.เดินเกมเลือกตั้งตามกติกา กกต. ชูผลงานรัฐบาลเป็นจุดขาย พร้อมปลุกใจหากทุ่มเทเต็มที่ มีลุ้นกวาดเกิน 200 ที่นั่ง มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีแนวโน้มคลี่คลายก่อนปีใหม่
เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1
"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย
ปชป. ชู 3 แกนหลัก การเมืองสุจริต ความเป็นมืออาชีพ ไว้วางใจได้ไม่มีดีลลับ
ปชป. ประกาศเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ ชู 3 แกนหลัก สุจริต-มืออาชีพ-ไว้วางใจ พร้อมสะท้อนปัญหาหาดใหญ่ถึงรัฐบาล
🛑LIVE ดับฝัน..วันไร้นาย สังเวียนนี้ไม่มี..แลนด์สไลด์ | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568

