พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (28)

 

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490  เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489  ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่

4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร                                                           

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง  และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง   และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี” พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?                     

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า ใน 44 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 21 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  5 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 6 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

ต่อไปคือ คุณบรรจง  ศรีจรูญ

คุณบรรจง เป็นสมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือน หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว และหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่สองที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 ได้เปลี่ยนจากการเลือกตั้งโดยอ้อมมาเป็นการเลือกตั้งโดยตรงตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง พ.ศ. 2475 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2479   สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่ได้รับเลือกตั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 มีจำนวน 91 คน เพิ่มจากเดิมที่มี 78 คน เพราะมีการกำหนดจำนวนผู้แทนราษฎรใหม่ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง พ.ศ. 2475 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2479  ดังนั้น จึงต้องมีการแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เพิ่มให้เท่ากับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ตามมาตรา 65 รัฐธรรมนูญ พ.ศ 2475  คณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 ซึ่งรักษาการอยู่จึงได้ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 และคุณบรรจงได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทนที่ 2 ในคราวนี้ด้วย       

คุณบรรจง ถือเป็นสมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือนที่แข็งขัน ท่านได้ชักชวนคุณแช่ม พรหมยงค์ (นายแช่ม ซำซุดดิน มุสตาฟา) เข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะราษฎร โดยทั้งสองเป็นเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปเรียนหนังสือที่อียิปต์ และในคราวที่คุณบรรจงได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2480 คุณแช่มก็ได้รับแต่งตั้งด้วยในคราวเดียวกันนี้

คุณบรรจงเป็นเจ้าร้านปืนแถวศาลาเฉลิมกรุง ภารกิจของคุณแช่มและคุณบรรจงในช่วงที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือ ในนวันที่ 24 มิถุนายน คุณบรรจง รับหน้าที่ “ตัดสายสื่อสาร” (สายโทรเลข) ที่อำเภอตลิ่งชันที่จะติดต่อไปยังหัวหิน และขัดขวางเส้นทางรถไฟระหว่างกรุงเทพหัวหิน โดยปฏิบัติการร่วมกันกับ ม.ล. อุดม, ม.ล. กรี, คุณแช่ม มุสตาฟา (พรหมยงค์) [1]  และเข้าร่วมปฏิบัติการควบคุมตัวบุคคลสำคัญของฝ่ายรัฐบาลเดิมมากักไว้ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม [2]  อีกทั้งยังได้รับมอบหมายให้นำแถลงการณ์ออกแจกจ่ายไปทั่วพระนครด้วย [3]   

หลังรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ไม่ปรากฏหลักฐานว่า คุณบรรจงได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ อีกทั้งคุณแช่ม มุสตาฟา (พรหมยงค์) ต้องระหกระเหินเร่รอนถูกถอดจากจุฬาราชมนตรี ต้องลี้ภัยการเมืองหลายปี กลับมาก็ถูกสอบสวนจับกุมคุมขังหลายครั้งหลายหน [4] เพราะมีความสนิทสนมอย่างยิ่งกับปรีดี พนมยงค์ ผู้เขียนจึงสันนิษฐานว่า คุณบรรจงก็น่าจะมีชะตากรรมไม่ต่างกันมากนัก และเป็นผลจากความสนิทสนมกับปรีดี พนมยงค์เช่นกัน

ดังนั้น จากข้างต้น ผู้เขียนจึงขอประเมินว่า การที่ได้คุณบรรจง ศรีจรูญได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกพฤฒสภาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 ย่อมมีส่วนทำให้พฤฒสภาได้รับการขนานนามว่าเป็น “สภาปรีดี” ด้วย

ผลล่าสุดคือ

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

  แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี  เดชาติวงศ์

   +

 

 

 

ร.อ. กำลาภ  กาญจนสกุล ร.น.

   +

 

 

 

พ.ท.  ก้าน  จำนงภูมิเวท 

 

   +

 

 

แก้ว  สิงหะคเชนทร์

 

 

 

     +

หลวงกาจสงคราม

 

   +

 

 

พลเรือตรี กระแส  ประวาหะนาวิน  สรยุทธเสนี

 

 

 

+

 

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

 

  +

 

 

เขียน  กาญจพันธุ์ 

 

 

 

     +

พลโท จิระ  วิชิตสงคราม

 

 

 

     +

จรูญ สืบแสง

    +

 

 

 

จิตตะเสน ปัญจะ

 

  +

 

 

พันโท เจือ  สฤษฎิ์ราชโยธิน 

 

 

 

     +

จำรัส สุวรรณชีพ

   +

 

 

 

จินดา จินตนเสรี

   +

 

 

 

จำลอง ดาวเรือง

   +

 

 

 

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์) 

 

   +

 

 

ไต๋ ปาณิกบุตร

   

 

+

 

ถวิล อุดล

   +

 

 

 

ทัน พรหมิทธิกุล

   +

 

 

 

พระยานลราชสุวัจน์  (ทองดี  นลราชสุวัจน์) 

 

 

 

       +

พระนิติการณ์ประสม  (สงวน  ชัยเฉนียน)

 

 

 

      +

ปพาฬ  บุญ-หลง

   +

 

 

 

หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน  หงสประภาส)

   +

 

 

 

ประทุม  รมยานนท์

 

 

+

 

พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ

   +

 

 

 

พึ่ง ศรีจันทร์

   +

 

 

 

มิ่ง  เลาห์เรณู

   +

 

 

 

สุกิจ นิมมานเหมินท์

 

 

 

       +

ไสว อินทรประชา

 

 

 

       +

พันโท พระอภัยพลรบ  (ชลอ  อินทรัมพรรย์)

   +

 

 

 

หลวงอรรถกัลยาณวินิจ  (เอื้อน  ยุกตะนันทน์)

 

 

 

     +

อรุณ  แสงสว่างวัฒนะ

 

 

 

    +

    เฉลียว ปทุมรส

   +

 

 

 

   หลวงขาญสงคราม

 

 

 

      +

พันเอก ช่วง  เชวงศักดิ์สงคราม   

 

 

+

 

หลวงชำนาญนิติเกษตร์  (อุทัย  แสงมณี)  

 

 

 

       +

 ชาญ บุนนาค

  +

 

 

 

ชุณฑ์  ปิณฑานนท์  

   +

 

 

 

พลตรี  ไชย  ประทีปะเสน

 

   +

 

 

  ช่วย สุคนธมัต

   +

 

 

 

  ดิเรก ชัยนาม

   +

 

 

 

  เดือน  บุนนาค

   +

 

 

 

พลเรือตรี ถวัลย์  ธำรงนาวาสวัสดิ์ 

   +

 

 

 

พระยานิติศาสตร์ไพศาลย์  (วัน  จามรมาน)

 

 

+

 

บรรจง  ศรีจรูญ

   +

 

 

 

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 45 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 22 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  5 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 6 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

(โปรดติดตามตอนต่อไป)


[1]  เสมียนนารี, 2 ราชนิกุล สมาชิกคณะราษฎร ในกระบวนการประชาธิปไตย 2475 https://www.silpa-mag.com/history/article_89012

[2] นรนิติ เศรษฐบุตร, คนการเมือง เล่ม 4, สถาบันพระปกเล้า, (กรุงเทพฯ: ศูนย์การพิมพ์แก่นจันทร์: 2561), หน้า 42-47.

[3] ศุขปรีดา พนมยงค์,  เบื้องหลัง “ชาวไทยมุสลิม” ในเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 https://www.silpa-mag.com/history/article_10214

[4] เพิ่งอ้าง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้