'ลุ้นปิดจ๊อบ 'ยูเอวี-เรือดำน้ำ' เดือนนี้

ออกมาขอโทษแบบแมนๆ บิ๊กจิ-พล.ต.ต.จิรสันต์  แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษกนครบาล หลังปรากฏคลิปตำรวจจัดงานปาร์ตี้เต้นประกบโคโยตี้ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบเป็น ตำรวจ จริง อยู่ในสังกัด บก.น.2 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนถนนประเสริฐมนูกิจ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. เวลา 17.30-23.00 น.ที่ผ่านมา เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของตำรวจสังกัด บก.น.2 ที่สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตร ซึ่งแม้การกินเลี้ยงจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่และสามารถกระทำได้ แต่การกระทำบางอย่างอาจจะเกิดความไม่เหมาะสม รวมถึงกระทบกับภาพลักษณ์ตำรวจ บิ๊กจิ ในฐานะโฆษก ตัวแทนตำรวจนครบาล ยกมือไหว้ขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งแจ้งว่า บิ๊กราญ-พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. สั่งให้ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้รายงานผลภายใน 7 วัน หากพบว่าการกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นความผิดตามกฎหมาย หรือระเบียบใดก็ตามให้ดำเนินการโดยเคร่งครัด 

ยินดีด้วยกับทุกหน่วยงานที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่ ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข  ผบ.ตร.เป็นประธานมอบโล่ ก่อนการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 4/2565 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระดับกองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค ได้แก่ อันดับที่ 1 ตำรวจภูธรภาค 3, อันดับที่ 2 ตำรวจภูธรภาค 4, อันดับที่ 3 ตำรวจภูธรภาค 9, ระดับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้แก่  อันดับที่ 1 ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม, อันดับที่ 2 ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, อันดับที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง  ตำรวจภูธรจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นด้านการป้องกันการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน (จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต) ได้แก่ ภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี, ภาค 4  ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม, ภาค 7 ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม, ภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และภาค  9 ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และยะลา 

ทำดีก็ต้องชื่นชม ต้องมอบรางวัล ทำไม่ดีก็ต้องลงโทษ ลงทัณฑ์กันตามระเบียบ วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครั้งที่  4/2565 มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุมนั้น  คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของข้าราชการตำรวจ เดือน เม.ย.65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้นจำนวน 25  นาย เป็นการไล่ออกจากราชการจำนวน 19 นาย และปลดออกจากราชการจำนวน 6 นาย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.- เม.ย.65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทางวินัยขั้นร้ายแรง ทั้งสิ้นจำนวน 88 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการจำนวน  69 นาย และปลดออกจากราชการจำนวน 19 นาย 

เริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 การเยือนทางด้านการทหารของกองทัพมิตรประเทศเริ่มกลับมาปกติ สัปดาห์ที่ผ่านมา บิ๊กแก้ว-พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ ตามคำเชิญของ พล.ท. Melvyn  Ong Su Kiat ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสิงคโปร์  ระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย.65 การพบปะครั้งนี้ “บิ๊กแก้ว” เอ่ยปากชื่นชมการพัฒนากองทัพสิงคโปร์ ที่จะได้จัดตั้งหน่วย Digital Intelligence Services (DIS) ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งจะนำกองทัพสิงคโปร์ไปสู่การเป็น Digital Forces ต่อไป นอกจากนั้นยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค กับ ดร. Ng Eng Hen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ โดยกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการทูตที่สถาปนาความร่วมมือกันมายาวนานถึง 57 ปี จากนั้นได้เยี่ยมชมหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ ศูนย์ประสานและดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการก่อการร้าย Counter  Terrorism Infomation Center (CTIF), ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยที่จะประสานความช่วยเหลือระหว่างกองทัพต่างประเทศกับกองทัพในประเทศที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ Regional HADR Coordination Center (RHCC) และศูนย์ความร่วมมือด้านการข่าวต่อภัยคุกคามทางทะเล Information Fusion Center (IFC)

เสี่ยโจ้-ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดข้อมูลฟันธงว่า เป็น UAV รุ่น Hermes  900 จากบริษัท เอลบิส ประเทศอิสราเอล ไม่ใช่ของจีนตามที่มีการคาดการณ์ไว้ในยุค ผบ.ทร.ก่อนหน้านี้ พร้อมเปิดจุดอ่อน ตั้งคำถามมากมาย จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงบประมาณกลาโหม เพื่อดูเรื่องความถูกต้องของเอกสาร รวมถึงอยู่ในขั้นตอนพิจารณาให้ความเห็นชอบเรื่องความเหมาะสมของราคาของสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง คู่ขนานกันไป เสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าวจึงจะเสนอให้ พล.อ.วรเกียรติ  รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหมได้ภายในต้นเดือน  พ.ค.นี้ แต่หากแกะดูจาก “ทีโออาร์” ระบุไว้ว่าต้องการอย่างน้อย 1 ระบบ 3 ลำ โดยการคัดเลือกแบ่งเป็นเกณฑ์ด้านราคา 20 เปอร์เซ็นต์ และคะแนนด้านเทคนิค 80 เปอร์เซ็นต์ แว่วว่าถ้าบริษัทใดเสนอจำนวนของอากาศยานมากกว่านั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาประกอบการตัดสินใจ  เพราะจะทำให้ ทร.มีอากาศยานจำนวนมากขึ้น ทำให้การจัดซื้อในระบบที่ 2 ไม่จำเป็นต้องเสนอเต็มวงเงิน 4,070 ล้าน เพราะการเสนอครั้งแรกสามารถจัดหาครอบคลุมทั้งหมด ทั้งสถานีควบคุมภาคพื้น อุปกรณ์ติดตั้งที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจ อุปกรณ์ที่จะใช้ในการส่งกำลังบำรุง การสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ในส่วนของเรือดำน้ำ เสธ.แจ๊ก-พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์  ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการเรือดำน้ำ คงต้องทำการบ้านอย่างหนักในการเตรียมพูดคุยกับรองประธานบริษัท CSOC คู่สัญญาเรือดำน้ำ S26T เพื่อหาข้อยุติเรื่องเครื่องยนต์  MTU ที่เยอรมนีไม่ขายให้จีน จากปมของสัญญาที่ไม่ได้ระบุรุ่นเครื่องยนต์ดังกล่าวไว้ แต่ไปเขียนอยู่ในรายงานการประชุม PMR: Program Management  Review โดยบริษัทเสนอติดตั้งเครื่อง MTU ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่มีมาตรฐาน และเรือผิวน้ำของไทยก็ใช้เครื่องยนต์ดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่ ใน Meeting Minute ซึ่งมีการลงนามรับทราบผลการประชุมทุกครั้ง แต่จะผูกเป็นส่วนควบตามสัญญา จะมีผลผูกมัดตามกฎหมายแค่ไหน และถ้าไม่เป็นไปตามนั้นจะมีการชดเชย หรือเพิ่มเติมอะไรให้ ทร.ไทย แต่เมื่อ TOR เขียนไว้กว้างๆ ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือขัดขัดแย้งใดๆ ให้นำไปสู่การเจรจาแบบฉันมิตร ก็เชื่อว่าน่าจะหาข้อยุติได้ไม่ยากนัก แต่ที่หลายฝ่ายกังวลคือปัจจัยที่ยากควบคุม โดยเฉพาะ “พี่เบิ้ม” มหาอำนาจที่เฝ้าดูการขยับตัวของไทยในเรื่องอาวุธเชิงยุทธศาสตร์.