รักษาระบอบเผด็จการ?

 ศึกษาปัญหามาก่อนร่วม 2 ปี!

เหตุนี้..ทำให้ผมค่อนข้างจะเบาใจ-วางใจ อย่างไรเสียคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ก็ต้องเอาอยู่ ยิ่งฟังตอนหาเสียง.. “น้ำท่วมกรุงไม่ใช่ไสยศาสตร์ ที่ชัชชาติแก้ไม่ได้” ด้วยแล้ว..

ยิ่ง..พี่เบิร์ด-สบายๆ ไม่ได้รู้สึกตระหนักหรือตระหนกอะ ไรเลยกับคำเตือน “ความเสี่ยงสูงน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2565”!

ใครเตือนน่ะเหรอ?..รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองประ ธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ครับท่านได้โพสต์.. ความเสี่ยงสูงน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2565 ตระหนัก แต่ไม่ตระหนก!!!

“ปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่มาครบทั้ง 3 ปัจจัย 1) ปริมาณฝนสะสมช่วงก่อนฤดูฝนมากกว่าค่าปกติ

2) ปรากฏการณ์ลานีญายังทรงพลังช่วงปลายปี ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกสูงกว่าฝั่งตะวันออก ความชื้นสูง

3) ปรากฏการณ์ไอโอดีเป็นลบทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียสูงกว่าฝั่งตะวันตก ความชื้นสูง”

ดร.เสรีได้ให้ความรู้-อธิบายอีกยืดยาว ซึ่งคุณชัชชาติก็คงได้อ่าน และได้เตรียมการรับมือ-แก้ปัญหาไว้พร้อมแล้ว ผมเชื่ออย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม คติธรรม “อย่าใช้ชีวิตด้วยความประ มาท จงมีสติอยู่เสมอ” ควรระลึกกันไว้บ้างก็ดี แม้คุณชัชชาติจะ “เอาอยู่” ด้วยได้ดู-ได้ศึกษาปัญหาน้ำท่วมมาตั้ง 2 ปีก็จริง

แต่..เผื่อเหลือเผื่อขาด อยากให้ตระเตรียมกระสอบทรายป้องกัน “น้องน้ำ” กันเอาไว้ให้จงพร้อม โดยเฉพาะ “คณะหลอมรวมประชาชน” ที่วางแผนจะกิน-นอนบนถนนเพื่อขับไล่นายกฯ ลุงตู่..

ต้องมองหาทำเลเพื่อการชุมนุมให้ดีๆ ถ้าลอง ดร.เสรีออกปากเตือน เชื่อเหอะ..มันมาแน่!

นี่..พูดถึงขับไล่นายกฯ ดูเหมือนจะมีแผนแยกกันเดิน-ร่วมกันตีอย่างเป็นระบบ ทางหนึ่งให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดปม 8 ปี ทางหนึ่งใช้ศาลเตี้ยไล่บด-ขยี้บนท้องถนน

ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรก็ตามดูกันไป แต่นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas อย่าง ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว มอง..

“การขับไล่พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่ทางออกของวิกฤตปัญ หาชาติที่มีมาอย่างยาวนานกว่า ๙๐ ปี เพราะปัญหาที่แท้จริงของชาติ คือ ปัญหาระบอบเผด็จการ ไม่ใช่ปัญหาของตัวบุคคล

นับตั้งแต่ ๒๔ มิถุนา ๒๔๗๕ จนถึงวินาทีนี้ อำนาจอธิปไตยยังอยู่ในมือของคนส่วนน้อย คณะราษฎรยึดอำนาจมาเป็นของคณะปกครองเสียเอง นับเป็นจุดเริ่มต้นของระ บอบเผด็จการ

การโค่นพลเอกประยุทธ์จึงเป็นเพียงแค่การรักษาระ บอบเผด็จการเอาไว้ แล้วเปิดโอกาสให้บุคคลรายใหม่เข้ามาแทนที่ ภายใต้ระบอบเผด็จการเดิมที่ยังคงดำเนินต่อไปเท่านั้น

การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงจึงต้องโค่นระ บอบเผด็จการเท่านั้น ตราบใดที่ระบอบยังผิดและเป็นเผด็จการ ใครเข้ามาก็ยังเป็นเผด็จการ จึงต้องโค่นระบอบเผด็จการให้สิ้น

ขณะที่นักการเมืองทั้งหลายยังคงรักษาระบอบเผด็จการอย่างเหนียวแน่น มีแต่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเท่านั้น ที่เป็นกำลังของปวงชนในการสร้างประชาธิปไตยผ่านราชประชาสมาสัย

ทางออกของประเทศชาติและประชาชนจึงไม่ใช่การขับไล่พลเอกประยุทธ์ หากแต่เป็นการโค่นระบอบเผด็จการอย่างสันติด้วยการสร้างประชาธิปไตย

ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง

ราชประชาสมาสัยถ่ายโอนอำ�นาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน #ข้อเดียว ดร.นิว

ครับ..เห็นด้วย..ยกมือ!

สันต์ สะตอแมน
[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระวังจะโดนย้อนศร

เรื่องนี้ต้องขยาย.. ผมหมายถึง “ยอดคนตาย” จากมหาอุทกภัยหาดใหญ่น่ะ เพราะหลังจาก นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลง..

ต่างฝ่ายต่างโกง?

ดารา-นักแสดงถูกเบี้ยวค่าตัว! ความจริงก็ใช่ว่าเพิ่งมาเกิดเอายุคปัจจุบัน-ตอนนี้..สมัยนู้นนน ในยุคพระเอก-นางเอกคู่ขวัญ “มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์” และ “สมบัติ เมทะนี-อรัญญา นามวงศ์”..

ความคิดหลุดโลก?

แค่นายกฯ อนุทินหยอดมุก.. “อยากนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอเข้าไป 4 ภัย ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ”

‘ตลก’ไม่ทิ้งกัน!

“เต็มที่แล้ว เต็มที่จริงๆ ผมทำดีที่สุดแล้ว” นี่.. “นายกแป้น” คุณณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้บอกผู้สื่อข่าว หลังจากที่ประกาศก่อนหน้าว่า..

เขต 8 แดนเจอรัส?

น้ำลด..เขต 8 โผล่! ทีนี้ ก็เป็นหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” แล้วล่ะ จะปฏิบัติการกวาดล้างพวก “มนุษย์ขยะ” เฮงซวย-เส็งเคร็ง ที่สร้างความเสื่อมเสียให้ชาวเมืองหาดใหญ่กันอย่างไร?

‘กับดัก’ ความเชื่อมั่น?

สส.จังหวัดสงขลา มี 9 คน 9 เขต.. พรรคประชาธิปัตย์ยึดไป 6 เขต 6 คน ที่เหลือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย แบ่งกันไปเขตละคน