คู่รักคู่แค้น : Lavrov แห่งรัสเซีย กับ Liz Truss แห่งอังกฤษ

พอรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ Liz Truss ได้รับเลือกจากพรรคอนุรักษนิยมให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย Sergey Lavrov ก็มีอันต้องทำใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับลอนดอนมีแต่จะเสื่อมทรุดลงไปมากขึ้นเท่านั้น

เพราะทั้งสองเป็นคู่แค้นกันมาตลอด

ผมได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ของลาฟรอฟหลังจากที่ประชุมร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย คุณดอน ปรมัตถ์วินัย ณ กรุงมอสโก เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 ว่าด้วยเรื่องนายกฯ อังกฤษคนใหม่ แล้วก็พอจะเห็นภาพว่าต่อแต่นี้คงมีแต่ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอังกฤษ

ช่วงหนึ่งของถาม-ตอบกับรัฐมนตรีลาฟรอฟ (เข้าใจว่าเป็นการถาม-ตอบระหว่างนักข่าวรัสเซียกับลาฟรอฟ) ตามเนื้อหาที่เผยแพร่ผ่านเพจของสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยให้รายละเอียดที่น่าสนใจ

คำถาม : เมื่อ Liz Truss ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมอังกฤษเมื่อวานนี้ และวันนี้จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเธอจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักร ซึ่งในระหว่างการหาเสียงของเธอ Liz Truss ได้สัญญาว่าจะดำเนินนโยบายต่อต้านรัสเซียอย่างเข้มงวดต่อไป และยังคงให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นแก่รัฐบาลเคียฟ รวมถึงการจัดหาอาวุธหนัก

คุณคิดว่าการแต่งตั้งคุณ Truss ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะส่งผลต่อความสัมพันธ์รัสเซีย-อังกฤษอย่างไร? เราควรคาดหวังว่าชาติตะวันตกจะเพิ่มความพยายามในการยืดเวลาต่อการสร้างความขัดแย้งในยูเครน โดยพิจารณาจากจุดยืนของผู้นำคนใหม่ของรัฐบาลอังกฤษหรือไม่?

Sergey Lavrov : งานนี้มีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก สื่อของอังกฤษได้ตรวจสอบและพบว่ากลุ่มคนส่วนน้อยที่มีความเกี่ยวข้องกับชนชั้นสูงของอังกฤษได้ให้การสนับสนุนต่อผู้สมัครรายนี้

เราตระหนักดีถึงการทำงานภายในของระบอบประชาธิปไตยของอังกฤษ ที่มีเพียง 160,000 คนที่อ้างว่าเป็นสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมผู้ตัดสินใจชะตากรรมของรัฐบาล เชื่อกันว่าหากพรรคใดชนะการเลือกตั้งทั่วไป พรรคการเมืองก็สามารถแต่งตั้งหัวหน้าพรรคจากภายในพรรคของตนหลังจากการปิดประตูเลือกตั้งได้

เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราได้พูดคุยเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานชาวอังกฤษของเรา เมื่อพวกเขาได้วิพากษ์วิจารณ์ระบอบประชาธิปไตยของเรา   

เราได้ยกตัวอย่างนี้แก่พวกเขา ซึ่งเพื่อนชาวอังกฤษต่างเห็นพ้องต้องกันว่านี่ไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด แต่พวกเขาบอกว่าทุกคนล้วนคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้และเป็นประเพณี

นั่นคือเหตุผลที่สิ่งต่างๆ ในสหราชอาณาจักรยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นนายกรัฐมนตรีท่านนี้จึงได้รับเลือกจากระบบประเพณีนี้เช่นกัน

สิ่งที่คุณ Truss พูด ผมกับเธอได้พบกันในอาคารหลังนี้เมื่อต้นปี 2565 ตอนที่เธอเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

เธอไม่มีความประนีประนอมเมื่อต้องปกป้องผลประโยชน์ของสหราชอาณาจักร และไม่เคยคำนึงถึงจุดยืนของอีกฝ่าย หรือแสวงหาวิธีในการประนีประนอมร่วมกัน

ผมไม่คิดว่าสิ่งนี้จะช่วยรักษาหรือฟื้นฟูจุดยืนของประเทศในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากการออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป

ลอนดอนพยายามชดเชยการสูญเสียอัตลักษณ์และอิทธิพลในสหภาพยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว โดยดำเนินการตามขั้นตอนที่ไม่มีแบบแผนและบางครั้งก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในเวทีโลก ซึ่งรวมถึงการดำเนินการทำงานเชิงรุกในสถานการณ์รอบๆ ยูเครน ซึ่งเราทราบเรื่องนี้

ผมคิดว่าก่อนที่ Liz Truss จะต้องคิดเรื่องภาพในทางลบที่เห็นได้ชัดที่เธอมีต่อรัสเซีย การจัดการกับเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดของเธอนั้นมีความสำคัญมากกว่า

เหนือสิ่งอื่นใดเธอต้องตัดสินใจว่าประธานาธิบดีมาครง (แห่งฝรั่งเศส) เป็นมิตรหรือศัตรูในที่สุดแล้ว        

คำถามนี้ค้างอยู่ในอากาศและยังคงไร้คำตอบ ฉันคิดว่ามันสำคัญกว่าสำหรับเพื่อนบ้านที่จะจัดการเรื่องนี้ก่อนที่จะมองข้ามพรมแดนของพวกเขา

คำถาม : ในระหว่างการประชุมรัฐสภาที่มีหัวข้อเกี่ยวกับการป้องกันและความมั่นคง หัวหน้าฝ่ายการทูตของยุโรป Josep Borrell ถูกถามโดยสมาชิกรัฐสภาเอสโตเนียเกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนที่เขาจะดำเนินการเพื่อสร้างความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ต่อฟาสซิสต์รัสเซีย

จากการตอบสนองของเขา ผู้แทนระดับสูงคนนี้ไม่ได้อธิบายอะไรเกี่ยวกับคำจำกัดความสำหรับรัสเซียนี้ และยังพูดซ้ำไปซ้ำมา

คุณคิดอย่างไรกับสำนวนแบบนี้จากคุณบอร์เรลล์ เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการรักษาความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป เมื่อนักการทูตระดับสูงใช้ภาษาประเภทนี้ในคำพูดของพวกเขา และใช้คำแบบนี้ในการตอบคำถามได้หรือไม่?

Sergey Lavrov : สิ่งนี้ทำให้ผมสนใจที่นาย Josep Borrell ไม่เพียงแต่เลือกที่จะไม่อธิบาย และยังคิดภาษาที่ไม่สุภาพนี้เท่านั้น แต่ยังกล่าวได้ว่าเขายังไม่มีแผนที่แน่ชัดเจนในการเอาชนะฟาสซิสต์รัสเซียและระบอบฟาสซิสต์

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ตั้งคำถามถึงเป้าหมาย พวกเขาแค่ยังไม่มีแผนงานที่ชัดเจน นี่ยังห่างไกลจากครั้งแรกที่ Josep Borrell ซึ่งอย่างน้อยที่สุดก็เป็นหัวหน้าทางด้านงานการทูตของสหภาพยุโรป

เขาไม่ได้พูดถึงวิธีการทางการทูต แต่เรียกร้องให้เอาชนะรัสเซียในสนามรบหรือเพิ่มเสบียงอาวุธให้ยูเครน เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดรบชั่วคราวในการดำเนินการทางทหารนี้

สำนักงานผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องเหล่านี้ในทันที

และกล่าวว่านาย Josep Borrell ได้พูดภาษาสเปน ซึ่งทำให้การแปลเป็นภาษาอังกฤษนั้นกระทำออกไปได้ไม่ถูกต้อง เราได้ขอให้สำนักงานผู้แทนระดับสูงทำสำเนาคำปราศรัยของเขาเป็นภาษาสเปน เราจะผลักดันให้เกิดความชัดเจนต่อไป

หากวันนี้เราไม่ได้รับการถอดเสียงเป็นภาษาสเปน เราจะรู้ว่าต้องคิดต่อไปอย่างไร

ท้ายที่สุดนาย Borrell เป็นคนที่แต่งตั้งผู้แทนสหภาพยุโรปในต่างประเทศ สัปดาห์ที่แล้ว เรามีหัวหน้าจากคณะผู้แทนสหภาพยุโรปคนใหม่ประจำสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยเขา

หากหัวหน้าฝ่ายการทูตของยุโรปเชื่อว่าการพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้กับระบอบฟาสซิสต์นั้นไม่เป็นไร ผมก็อยากจะรู้ว่าตัวแทนของเขาในมอสโกได้รับคำสั่งและเป็นคำสั่งแบบใด และนโยบายแบบใดที่ตัวแทนของเขาจะนำมาปฏิบัติตามที่นี่ หากรายงานของสื่อทั่วโลกได้รับการยืนยัน เราจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการที่เราจะต้องทำงานและมีส่วนร่วมกับคนเหล่านี้ต่อไป

สรุปได้ว่าในความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย การร่วมงานกับนายกฯ อังกฤษคนใหม่และสหภาพยุโรปคงจะเต็มไปด้วยขวากหนามแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อนาคตประเทศไทย ที่ยังเต็มไปด้วยอุปสรรค!

พอมองว่ารัฐบาลเศรษฐา 1/1 จะต้องวางยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจอย่างไรก็ต้องฟังความเห็นของผู้ที่ช่วยกันคิดว่าเราจะต้องทำอะไรบ้างจึงจะกระชากประเทศชาติจาก “กับดัก” รายได้ปานกลางที่เราติดอยู่ยาวนาน

เวียดนามกวาดล้างโกงกิน ระดับนำร่วงคนที่ 3 ในปีเดียว

เวียดนามเขย่าระดับสูงอย่างต่อเนื่อง...เป็นการยืนยันว่าจะต้อง “ชำระสะสาง” ให้สามารถจะบอกประชาชนและชาวโลกว่ายึดมั่นเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใสอย่างจริงจัง