จากผู้กำกับถึงตลก

จะหาผู้กำกับภาพยนตร์ไทยสักกี่คนล่ะที่มี “ผลงาน” ต่อเนื่องยาวนาน 50-60 ปี และเมื่อกวาดสายตามองไปทั่วทั้งวงการหนังไทย-ละครไทยแล้วว่า “ไม่มี”..

ชื่อ.. “ฉลอง ภักดีวิจิตร” จึงได้ถูกบันทึกลง “GUINNESS WORLD RECORDS” ว่าเป็นผู้กำกับ ผู้สร้างละครฝ่ายชายคนเดียวและคนแรกของโลกที่อายุเยอะที่สุด!

ครับ..ปัจจุบัน “อาหลอง” อายุ 92 ขวบแล้ว อีกแปดฝนก็จะครบ 1 ศตวรรษ แต่ก็ยังคงทำงานอยู่ในกองถ่ายด้วยความแข็งแรง สมบูรณ์พร้อมทั้งสมอง ร่างกาย จิตใจ

และนี่แหละคือ “ศิลปินแห่งชาติ” ที่หมายถึงศิลปินผู้มีความสามารถ มีผลงานสร้างสรรค์และพัฒนาเป็นที่ยอมรับของวงการ และมีผลงานเป็นประโยชน์ต่อสังคม..

เป็นทรัพยากรบุคคลสำคัญทางด้านศิลปะ ที่ได้สืบสานงานศิลปะของชาติจากอดีตถึงปัจจุบันและดำรงสืบไปในอนาคต ที่ควรยกย่องเชิดชูอย่างแท้จริง!

ก็..ขอแสดงความยินดีกับ “อาหลอง”เอาไว้ ณ ตรงนี้ และเห็นจะไม่ต้องบอก-ต้องเชียร์ ให้รอดูละคร “แคน 2 แผ่นดิน” หรอกนะ..

เพราะแฟนเก่า-แฟนแก่-แฟนรุ่นลูก-รุ่นหลานของ “อาหลอง” มีคอยติดตามอยู่อย่างเหนียวแน่น ไม่งั้น ช่อง 7 จะประเคนละครให้คนอายุอีก 8 ปีครบ 100 กำกับรึ?

อ้อ..ส่วนคนนี้ก็เห็นต้องขอยินดีด้วย ผมหมายถึงคุณยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” อดีตเลขาฯ สมาศิลปินตลกฯ ที่ตัดสินใจพลิกขั้วทางการเมืองมาอยู่อีกซีก ด้วยการอธิบายว่า..

"การพูดว่า ทรยศ อุดมการณ์เปลี่ยน กินกล้วย เหล่านี้ผมคิดว่าเป็นการกล่าวหากัน เพราะคนเรามีอุดมการณ์แต่ไม่ใช่เอาอุดมการณ์มาพันธนาการตัวเองจนขยับขยายไปไหนไม่ได้

และคิดว่าทุกอย่างทำได้หมด ขยับขยายได้หมด ไปได้ทุกทิศทุกที่ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนและต่อตัวเรา ไม่ใช่ว่าเดินหน้าบ้าอย่างเดียว ลูกเมียจะเดือดร้อน คนข้างหลังเดือดร้อน..

ขอฝากไปยังบริษัททัวร์ทั้งหลายที่จะมาจอดที่หน้าบ้านผม ว่าเปลี่ยนสี เปลี่ยนกลิ่น เปลี่ยนทิศ เปลี่ยนทาง เปลี่ยนอุดมการณ์ อย่านะครับ ผมอุดมการณ์เหมือนเดิม

แต่พรรคไหนที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ ผมสนับสนุนทั้งสิ้น และอยากให้ทุกคนช่วยกันเสริมสร้างให้ประชาธิปไตยเดินไปข้างหน้า

ไม่มีคำว่าฝั่งเผด็จการแล้ว ฝั่งประชาธิปไตย เหล่านั้นคือคำครหา ขอให้ประชาชนทั้งที่เคยร่วมงานกับผมหรือเป็นแฟนคลับได้เข้าใจว่า ผมได้มาถูกทิศถูกทางแล้ว...

การเดินหน้าต่อสู้แบบ สู้เพื่อเขา เราติดคุก ที่เคยทำมาแบบเดินเข้าออกคุกหลายรอบ เป็นบทเรียนแล้วว่าไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรกับผมและครอบครัวเลย

“สู้เพื่อเขา แต่เวลาอับเฉาเราไร้คนดูแล” สำหรับผมเพียงพอแล้ว เมื่อเขาเห็นค่า เขาเห็นมูลค่าผม และชวนมาร่วมงาน ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง”

เนี่ย..ใครจะมอง-จะว่าอย่างไรก็ช่าง สำหรับผมในฐานะ (เคย) เป็นเพื่อนรักกันมา ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนเจ๋ง ได้เดินหน้าตามความเชื่อ-อุดมการณ์ตัวเองต่อไป

เมื่อการเมือง.. “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” การจะเปลี่ยนพรรค-เปลี่ยนพวก-เปลี่ยนใจ ก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา

 และขอให้อภัย อย่าได้ถือสาเลยกับภาพเก่าที่คุณเจ๋งได้แสดงต่อ (ภาพ) นายกฯ ลุงตู่ ให้คิดเสียว่า..

นั่น..คือการแสดงของตลกเท่านั้นเอง!.

สันต์ สะตอแมน